บิ๊กPYLONปลื้มรายได้ Q1/49 พุ่ง 160% พร้อมมั่นใจทั้งปีกวาดรายได้ 550-600 ลบ.

ข่าวทั่วไป Wednesday May 10, 2006 16:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ไพลอน
บิ๊ก PYLON ปลื้มผลประกอบการไตรมาส 1/49 รายได้พุ่งพรวด 160% - กำไรโต 15% เทียบกับ Q1/48 เหตุได้งานฐานรากและงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากเทียบกับ Q4/48 กำไรเติบโตขึ้นถึงกว่า 120% มั่นใจทั้งปีกวาดรายได้ 550-600 ลบ. ล่าสุดมีงานตุนไว้ในมือแล้ว 280 ลบ. อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองชัดเจนขึ้นมั่นใจได้งานเพิ่มขึ้นแน่ ส่งผลทำให้กำไรรวมทั้งปีเพิ่มขึ้น
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บมจ. ไพลอน (PYLON) เปิดเผยว่า ผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2549 บริษัทฯมีรายได้รวมไตรมาส 1 ปี 2549 เท่ากับ 170 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105 ล้านบาท หรือ 160% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 65 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาท หรือ 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.5 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้น 120% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 6 ล้านบาท
สาเหตุที่มีรายได้และกำไรเพิ่มสูงขึ้นนั้น เนื่องจากมีงานฐานรากและงานก่อสร้างอาคารหอพักนักศึกษาด้วยระบบชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งบริษัทได้เริ่มให้บริการงานประเภทนี้ปลายปี 2548
สำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 100% อยู่ที่ 550 - 600 ล้านบาท จากปี 2548ที่มีรายได้อยู่ที่ 289 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้บริษัทฯมีงานในมือเข้ามามากประมาณ 280 ล้านบาท เช่น งานโครงการรับเหมาก่อสร้างอาคารพาณิชย์ 32 ยูนิตที่ตักสิลานครประมาณ 31.4 ล้านบาท งานคลองสุวรรณภูมิมูลค่า 100 ล้านบาท งานวงแหวนรอบนอกมูลค่า 15 ล้านบาท เป็นต้น และยังมีอีกหลายโครงการที่รอการเซ็นสัญญาซึ่งไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ส่วนกำไรรวมบริษัทฯ มีเป้าหมายการเติบโตที่ 30% ทุกปี
สถานการณ์ทางการเมืองที่ความชัดเจนขึ้นในปัจจุบัน จะส่งผลดีให้กับบริษัทฯ เพราะโครงการภาครัฐ จะออกมามากขึ้น ส่งผลให้อัตราการทำกำไรของบริษัทฯปรับตัวดีขึ้นด้วย แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบกับต้นทุนของบริษัทฯพอสมควร อย่างไรก็ตามบริษัทฯมั่นใจว่าจะรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทฯได้พยายามควบคุมดูแลการใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังรณรงค์ให้ประหยัดการใช้พลังงานอย่างจริงจังและพยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่างๆที่ไม่สามารถควบคุมได้
ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นนั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ เนื่องจากยังมีเงินสดในมือ พอสมควรและมียอดเงินกู้ระยะยาวจากธนาคารเพียงแค่ 13 ล้านบาท โดยปัจจุบันอัตราหนี้สินรวมต่อทุนของบริษัทนั้นต่ำมากเพียงแค่ 0.5 เท่า
" จุดเด่นของบริษัทฯ คือ 1. คุณภาพของงานที่เป็นที่ยอมรับในตลาด โดยทางบริษัทฯได้ผ่านงานใหญ่ระดับประเทศมามาก ไม่ว่าจะเป็นงานฐานราก,งานอาคารสูง, ทางด่วน, รถไฟฟ้ายกระดับต่างๆ, โรงงานขนาดใหญ่, งานเขื่อน เป็นต้น อีกทั้งบริษัทฯยังได้รับงานบริเวณนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องการระบบ Safety ที่สูงมาก ซึ่งหลายๆบริษัทหวั่นที่จะรับงานประเภทนี้ 2. บริษัทฯมีกำลังการผลิตสูง ทำให้บริษัทสามารถรับงานได้หลายๆงานพร้อมๆกัน 3. ความแข็งแรงทางการเงินและมีวินัย ทำให้หนี้สินต่อทุนต่ำ และหากจังหวะทางธุรกิจมาก็ทำให้บริษัทสามารถที่จะขยายกำลังการผลิตได้ทันที อีกทั้งธุรกิจของบริษัทเป็นงานต้นน้ำ ซึ่งงานฐานรากเป็นงานเริ่มต้นของการก่อสร้างทุกชนิด ทำให้ความเสี่ยงในการไม่ได้รับชำระเงินต่ำกว่างานก่อสร้างส่วนอื่นๆ " นายบดินทร์กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณวลีรัตน์ เชาวนวิหานนท์
โทร.02-5549381
หรือ 01-2777871

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ