กรุงเทพฯ--4 มี.ค.--กทม.
รองผู้ว่าฯ ธีระชน ลงพื้นที่ตรวจป้ายผิดกฎหมาย พร้อมลั่นเอาจริงป้ายฝ่าฝืนทั่วกรุงเทพฯ เตรียมระดมเทศกิจตลอดเดือน มี.ค. ปิดสติ๊กเกอร์บนป้ายฝ่าฝืนตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535 เตือนผู้ประกอบการเร่งรื้อถอนและชำระภาษีให้ถูกต้อง หลัง 15 เม.ย. หากพบยังฝ่าฝืนจะปิดสติ๊กเกอร์ประจานอีกครั้ง พร้อมส่งหนังสือเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายสูงสุด
ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจป้ายผิดกฎหมายที่ติดตั้งในที่สาธารณะบริเวณซอยจรัลสนิทวงศ์ 13 เขตบางแค และปิดสติ๊กเกอร์ “ป้ายผิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535” เพื่อเป็นมาตรการทางสังคมในการแจ้งเตือนผู้ประกอบการ และร้านค้าต่างๆ ที่ฝ่าฝืนติดตั้งป้ายโฆษณาในที่สาธารณะ และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีป้ายตามกฎหมาย โดย กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจระดมปิดสติ๊กเกอร์ป้ายผิดกฎหมายฯ บนป้ายที่ฝ่าฝืน พร้อมทั้งรณรงค์ตลอด เดือน มี.ค. ให้เจ้าของป้ายจัดเก็บป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย รวมถึงยื่นแบบเสียภาษีป้ายให้ถูกต้อง
ในส่วนของบางพื้นที่ที่ยังคงมีป้ายโฆษณาผิดกฎหมายเหลืออยู่ ภายหลังจากวันที่ 15 เมษายน เป็นต้นไป กทม. จะปิดสติ๊กเกอร์ “ป้ายผิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510” เพื่อประกาศให้สาธารณะรับทราบว่าป้ายเหล่านี้เป็นป้ายผิดกฎหมาย อีกทั้งผู้ประกอบการตั้งใจหลีกเลี่ยงการเสียภาษีที่ถูกต้องทั้งที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจในแต่ละปีกว่า 10,000 ล้านบาท ถือเป็นการเอาเปรียบภาครัฐและประชาชนผู้เสียภาษีถูกต้อง ซึ่งกทม. จะมีหนังสือถึงผู้ประกอบการรายที่ฝ่าฝืนเพื่อดำเนินการเปรียบเทียบปรับสูงสุดตามกฎหมายต่อไป
รองผู้ว่าฯ ธีระชน กล่าวว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวข้างต้นเป็นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีและจัดระเบียบเมืองตามนโยบายของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งตลอดระยะเวลา 8-9 เดือนที่ผ่านมา กทม. ได้รณรงค์จัดเก็บป้ายผิดกฎหมายในที่สาธารณะตามโครงการ “1 ป้าย 1 บาท” ในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร และสามารถจัดเก็บป้ายโฆษณาผิดกฎหมายได้กว่า 300,000 ป้าย ทำให้ป้ายโฆษณาผิดกฎหมายในที่สาธารณะลดลงเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้กทม. จะยังคงเดินหน้ามาตรการดังกล่าวโดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บจนครบฤดูกาลจัดเก็บภาษี สำหรับผู้ที่ยังไม่เสียภาษีป้าย ให้เร่งยื่นแบบเสียภาษีป้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มี.ค. โดยกทม. จะมอบสติ๊กเกอร์ภาษีป้าย 2553 ซึ่งจะมีเลขรหัสการเสียภาษีให้แก่เจ้าของป้าย เพื่อนำไปปิดบริเวณป้ายโฆษณาเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นป้ายที่เสียภาษีถูกต้องด้วย ทั้งนี้จากสถิติการจัดเก็บภาษีปีที่ผ่านสามารถจัดเก็บได้เป็นเงินกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งหากจัดเก็บได้ครบจำนวนตามที่ตั้งเป้าไว้คาดว่า กทม.จะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท