เลื่อนเคาะราคาคอมฯ กทม. สางข้อร้องเรียน สร้างความโปร่งใส

ข่าวทั่วไป Friday March 5, 2010 16:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม. กทม. เดินหน้าแก้ข้อร้องเรียนกรณีผู้ร้องโครงการเช่าระบบและพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์ฯ โรงเรียนในสังกัด งบประมาณกว่า 900 ล้านบาท มั่นใจทุกขั้นตอนถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมดำเนินการให้แล้วเสร็จทันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 53 หลังล่าช้าร่วม 2 ปี ส่งผลให้เด็กนักเรียนเสียโอกาสทางการศึกษา นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวกรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสโครงการเช่าระบบและพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ ระยะที่ 3 ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 435 แห่ง จำนวน 25,074 เครื่อง งบประมาณ 939.8 ล้านบาท ณ ห้องประชุมโฆษกกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ชะลอเคาะราคาจนกว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจน โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการท้วงติงของคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.) ว่าพบความผิดปกติในการเอื้อประโยชน์ในโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ฯ ให้แก่บริษัทหนึ่ง ซึ่งต่อเรื่องดังกล่าวกรุงเทพมหานครได้หารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปว่าจะมีการชะลอการเคาะราคาในโครงการดังกล่าวออกไปก่อนจากเดิมที่กำหนดเคาะราคาในวันที่ 8 มี.ค. นี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อกรุงเทพมหานคร โดยจะมีการตรวจสอบหาความผิดปกติ พร้อมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงกับ กมธ. ในประเด็นที่ถูกท้วงติง เตรียมชี้แจง กมธ. 10 มี.ค. หลังพบ 2 บริษัท ไม่เกี่ยวข้องกัน สำหรับโครงการเช่าระบบและพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ มีผู้ซื้อซองประกวดราคาทั้งสิ้น 5 ราย แต่ยื่นซองประกวดราคา จำนวน 2 ราย คือ บริษัท เอสวีโอ จำกัด (มหาชน) และบริษัทสงขลาฟินิชชิ่ง จำกัด ซึ่งเบื้องต้นได้ตรวจสอบความสัมพันธ์ของบริษัทที่ยื่นซองทั้ง 2 ราย พบว่า ทั้ง 2 บริษัท ไม่มีกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องกัน รวมถึงจะตรวจสอบความสัมพันธ์ในอดีตของทั้งสองบริษัทต่อไป และดูลึกลงไปว่ามีการตั้งบริษัทที่ 3 ร่วมกันหรือไม่ นอกจากนี้จะตรวจสอบคุณสมบัติของ 3 บริษัท ที่ไม่ยื่นซองประกวดราคา พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการแยกประมูลคอมพิวเตอร์ออกเป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มีค่าใช้จ่ายอย่างไร เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างบริษัทมากน้อยเพียงใด โดยจะประสานข้อมูลไปยังหน่วยงานราชการที่เคยประมูลโครงการในลักษณะเดียวกันและงบประมาณใกล้เคียงกันว่าเคยใช้วิธีประมูลแบบแยกประมูลหรือประมูลรวม เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ศึกษาถึงข้อดี — ข้อเสีย ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 มี.ค. 53 เนื่องจากต้องนำข้อมูลชี้แจงต่อ กมธ. ในวันที่ 10 มี.ค. 53 สำหรับการกำหนดให้มีมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) 1956 เพียงอย่างเดียวนั้น คณะกรรมการกำหนดร่างขอบเขตของงาน (TOR) สามารถชี้แจงได้ เนื่องจากเป็นมาตรฐานการแผ่กระจายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความปลอดภัย อีกทั้งหน่วยงานราชการอื่น เช่น สำนักงานศาลยุติธรรม และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็ใช้เพียง มอก.1956 เพียงมาตรฐานเดียว วอนรอการพิจารณาก่อนอย่าด่วนตัดสินว่าทุจริต โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กทม. ขอความเป็นธรรมไปยัง กมธ. และสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าวอย่าด่วนตัดสินหรือสรุปว่าเกิดการทุจริตในโครงการฯ เนื่องจากยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด กทม. ดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส นอกจากนี้จากการร้องเรียนส่งผลให้โครงการฯ เกิดความล่าช้าประมาณ 2 ปี เด็กนักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครกว่า 350,000 คน เสียโอกาสในการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ขอให้รอคำตัดสินของ กมธ. ก่อน ซึ่งหากตรวจสอบเรียบร้อยแล้วไม่พบการกระทำผิด กรุงเทพมหานครจะเร่งดำเนินการต่อให้ทันภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553 แต่หากพบการกระทำผิดจริงก็จะยกเลิกการดำเนินการทั้งหมด และเอาผิดผู้เกี่ยวข้องต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ