เด็นโซ่ ลงทุนเทคโนโลยี ซัพพลายเชน รับปี 49 เสริมระบบตรวจสอบติดตามการขนส่ง นำร่องใช้ในประเทศไทย, สิงค์โปร์, มาเลเซีย และ ญี่ปุ่น

ข่าวทั่วไป Wednesday February 15, 2006 14:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือของ บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้ทำการติดตั้งระบบตรวจสอบติดตามการขนส่งภาชนะบรรจุของหมุนเวียนด้วยการใช้ป้ายบรรจุข้อมูลแบบคลื่นความถี่วิทยุ หรือ Radio Frequency Identification (RFID) โดยติดกับภาชนะบรรจุของหมุนเวียนจำนวน 3,500 ใบ ซึ่งเริ่มทดลองใช้กับกลุ่มบริษัทเด็นโซ่ประเทศไทย รวมทั้งประเทศสิงคโปร์ ประเทศมาเลเซีย และประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วย บริษัท บอร์เนียว มอเตอร์ ประเทศสิงคโปร์, บริษัท ไคน์ ฮิง อินดัสตรี ซึ่งเป็นคู่ค้าของกลุ่มบริษัทเด็นโซ่
มร. โยชิฮิโกะ ยามาดะ กรรมการผู้จัดการบริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การลงทุนทางด้านเทคโนโลยีในโครงการนี้มีเป้าหมายที่จะลดต้นทุนการขนส่งสินค้าในภูมิภาคอาเซียน โดยที่เรามองว่าการทำธุรกิจในภูมิภาคนี้ถือเป็นตลาดเดียวกัน เด็นโซ่จึงได้พัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพในการติดตามและตรวจสอบภาชนะบรรจุของหมุนเวียนสำหรับการบริหารซัพพลายเชนเพื่อรองรับการดำเนินการผลิตสินค้าที่หลากหลายของเด็นโซ่ และส่งเสริมการดำเนินการนำเข้าและส่งออกสินค้าของบริษัทซึ่งกันและกัน ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของระบบซัพพลายเชนในภูมิภาคนี้ได้”
ระบบป้ายบรรจุข้อมูล (RFID Tag) นี้ จะบันทึกข้อมูลพร้อมมีสายอากาศ ที่สามารถรับส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุจากเครื่องรับ RFID โดยแต่ละบริษัทจะติดตั้งเครื่องรับส่งสัญญาณ และติดป้ายบรรจุข้อมูลที่บริเวณภาชนะบรรจุของหมุนเวียน ทั้งนี้เครื่องตรวจรับสัญญาณ RFID จะอ่านข้อมูลจากป้ายบรรจุข้อมูล และส่งกลับไปยังฐานข้อมูลกลางระหว่างการขนส่งและรับภาชนะบรรจุของหมุนเวียน
บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกลุ่มบริษัทเด็นโซ่ในภูมิภาคอาเซียน จะมีฐานข้อมูลกลางซึ่งสามารถควบคุมระบบคงคลังของภาชนะบรรจุของหมุนเวียนของบริษัทที่ใช้ระบบนี้ทั้งหมด ดังนั้นภาชนะบรรจุของหมุนเวียนจำนวน 3,500 ใบ จะได้รับการบริหารจัดการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการใช้ฐานข้อมูลกลางดังกล่าวจะช่วยให้แต่ละบริษัทสามารถทำเอกสารการนำเข้าและส่งออกของกรมศุลกากรได้โดยอัตโนมัติ
โครงการนี้อยู่ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Japanese Ministry of Economy, Trade and Industry : METI) ประเทศญี่ปุ่น โดยที่สมาคมอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ญี่ปุ่นและบริษัท 15 แห่ง ซึ่งรวมถึง บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัทในเครือจำนวน 7 บริษัท เข้าร่วมโครงการนี้ ได้แก่
1. บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
2. บริษัท เด็นโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า
สำหรับรถยนต์ ระบบแอร์รถยนต์ และ Magneto
3. บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย จำกัด ประเทศสิงคโปร์
4. บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) จำกัด ประเทศสิงคโปร์ สำหรับผลิตภัณฑ์อะไหล่
ยานยนต์ (Aftersales Market)
5. บริษัท เด็นโซ่ (มาเลเซีย) จำกัด เมืองเซลังกอร์ ประเทศมาเลเซีย สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า
สำหรับยานยนต์ ระบบแอร์รถยนต์ และเครื่องยนต์ ECU
6. บริษัท เด็นโซ่ เวฟ จำกัด เมืองคาริยะ ไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตระบบอุตสาหกรรม รวมทั้งป้าย
บรรจุข้อมูล และเครื่องตรวจรับสัญญาณ RFID
7. บริษัท เด็นโซ่ เอส. ไอ. จำกัด บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เมืองอันโย, ไอจิ ประเทศญี่ปุ่น
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน เนื่องจากเห็นถึงความสำคัญของระบบตรวจสอบการขนส่งภาชนะบรรจุของหมุนเวียนด้วยการใช้ป้ายบรรจุข้อมูลแบบคลื่นวิทยุ (RFID Tag) และแผนที่จะพัฒนากระบวนการดำเนินธุรกิจที่ใช้ระบบตรวจสอบการขนส่งภาชนะบรรจุของหมุนเวียน ด้วยการใช้ป้ายบรรจุข้อมูลแบบคลื่นวิทยุ (RFID Tag) เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศอาเซียน
การริเริ่มโครงการใช้เครื่องตรวจสอบระบบการขนส่งภาชนะบรรจุของหมุนเวียนด้วยการใช้แถบบรรจุข้อมูลแบบคลื่นความถี่วิทยุ เริ่มต้นจากข้อตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น และกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมประเทศสิงคโปร์ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทั้ง 2 ประเทศจะร่วมกันใช้มาตรฐานเดียวกันในเอเชียและประยุกต์สู่มาตรฐานสากลของ RFID นอกจากนั้นโครงการนี้ยังช่วยการดำเนินการของ Infocomm Development Authority (IDA) ประเทศสิงคโปร์ ในการจัดสรรคลื่นวิทยุสำหรับใช้ใน RFID สมบูรณ์เป็นจริงยิ่งขึ้น พร้อมกระตุ้นการยอมรับระบบดังกล่าวเพื่อใช้ในภูมิภาคอาเซียน
บริษัท เด็นโซ่ คอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่ที่เมืองคาริยะ, ไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของโลก ปัจจุบัน เด็นโซ่ มีบริษัทย่อยอยู่ใน 31 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานจำนวน 104,000 คนทั่วโลก โดยผลิตสินค้าให้กับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก มียอดขายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 รวมทั้งสิ้น 26,200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนบริษัท
เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2545 ดำเนินธุรกิจด้านการขายและบริการแก่กลุ่มบริษัทเด็นโซ่ในประเทศไทย ปัจจุบันมีพนักงานทั้งสิ้น 300 คน
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ