กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ดีแทค
DTAC เปิดService Centerโฉมใหม่ล่าสุดที่สยามพารากอน จัดขอบคุณลูกค้าที่ใช้งานสูงต่อเนื่องหลังจัดงานขอบคุณลูกค้า 10 ปี พร้อมเผยนโยบายDTAC Shop ปี 49
นายสันติ เมธาวิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เดินหน้าสร้างความแตกต่างของงานบริการ นอกเหนือจากการขยายขีดความสามารถของ DTAC Call Center ให้สามารถบริการได้ครบวงจรและเปลี่ยนเลขหมายโทรเข้าเป็น 1678 เตรียมพร้อมให้บริการที่ดีเลิศ รับพนักงานเพิ่มอีก 500 ตำแหน่ง ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา รวมเป็นจำนวนพนักงาน Call Center เกือบ1,500 คนทั่วประเทศที่พร้อมให้บริการหลากหลายตลอด 24 ชั่วโมงกับลูกค้าที่มีจำนวน 8.7 ล้านเลขหมายแล้ว นายสันติยังเผยว่าบริษัทฯได้ เพิ่มจำนวน DTAC Service Center เป็นแห่งที่ 23 เพื่อรองรับการบริการลูกค้าด้วยรูปโฉมใหม่ล่าสุด ที่สยามพารากอน
นอกจากนั้น งานบริการซึ่งเปรียบเสมือนการดูแลผู้ที่อยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ ต้องมีการเอาใจใส่อย่างดียิ่งในทุกขั้นตอนและทุกรายละเอียดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสุขและความสะดวกสบายครบครัน ดังนั้น การมี Call Center ที่ดี การมีศูนย์ให้บริการ Service Center ที่ทันสมัยและเพียงพอ ถือว่ายังไม่เพียงพอ ยังต้องเพิ่มเติมด้วยการสร้างสัมพันธภาพและให้ความใกล้ชิดอย่างสม่ำเสมอกับลูกค้าทุกคนที่อยู่ในระบบของเรา ดังนั้น ดีแทคจึงได้เชิญลูกค้าที่มีปริมาณการโทรสูงสุด จำนวน 75 ท่านแรก มาเป็นแขกพิเศษร่วมงานเปิด DTAC Service Centerแห่งใหม่นี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของบริษัท ไปพร้อมกับการจัดงานขอบคุณ โดยมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชั้นนำและแขกผู้มีเกียรติ การให้บริการเสิร์ฟน้ำและอาหารจาก CEOและผู้บริหารดีแทค แก่แขกที่มาร่วมงาน โดย รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 100 ท่านที่DTAC Service Center แห่งใหม่นี้ หลังจากที่ได้จัดงานขอบคุณลูกค้าดีแทค 10 ปีอย่างอบอุ่นประทับใจมาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงาน สิ่งที่ดีแทค มอบให้แก่ลูกค้าคือ การพูดจริง และทำจริงรวมถึงการดูแลที่ดี การเสนอเสนอ package ที่เป็นนวัตกรรมที่มีความคุ้มค่า ทั้งแก่ลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ภายใต้คุณภาพเครือข่ายสัญญาณที่ครอบคลุม ท้ายสุดนายสันติ ได้กล่าวถึงโครงการใหญ่ของงานบริการซึ่งจะได้เปิดตัวภายในเดือนมกราคม 2549 ว่า
“ในส่วนของ DTAC Shop จะมีการปรับโฉมใหม่ สู่สำนักงานบริการลูกค้าสาขาย่อย ที่ตกแต่งอย่างทันสมัย แต่ที่สำคัญคือ ให้บริการหลากหลายภายใต้คอนเซ็ปต์ “One Stop Shop”(มาที่เดียวก็เกินพอ) ได้แก่ การรับชำระค่าบริการ ซ่อมเครื่อง บริการ Paypoint โอนสิทธิ์ เป็นต้น โดยกำหนดจะเปิดภายในเดือนมกราคมจำนวน 10 สาขา ได้แก่ กรุงเทพ 5 สาขา ที่สยามสแควร์ โลตัส สุขุมวิท 50 เซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และเซ็นทรัล รามอินทรา ต่างจังหวัดอีก 5 สาขา คือ หาดใหญ่ อุดรธานี โรบินสัน ราชบุรีและนาเกลือ ชลบุรี สุดท้ายคือ คาร์ฟูร์ เชียงใหม่”
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--