อินเทล วีโปร เทคโนโลยี สร้างนิยามใหม่ให้กับพีซีสำหรับองค์กรธุรกิจ

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday September 20, 2006 15:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
เดสก์ท้อปรุ่นใหม่ที่ใช้ อินเทล? คอร์?2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ มีประสิทธิภาพประมวลผลและประหยัดพลังงาน เพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุน
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ อินเทล? วีโปร? เทคโนโลยี (Intel? vPro? technology) แพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดสำหรับองค์กรธุรกิจที่มีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อการใช้คอมพิวเตอร์ในองค์กรธุรกิจที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่โดดเด่นยิ่งขึ้นทั้งในด้านพลังการประมวลผลที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ระบบการรักษาความปลอดภัย และการควบคุมค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ บริษัทชั้นนำหลายรายในกลุ่มฟอร์จูน 500 ที่ได้ทดลองประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดนี้ ต่างลงความเห็นว่าแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายได้โดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 40
ขณะนี้ บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ทั่วโลกได้เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปที่เป็นแพลตฟอร์ม อินเทล วีโปร เทคโนโลยี เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจทั่วไปแล้วและผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ต่างๆ จะทยอยเปิดตัวสินค้าในอาทิตย์หรือเดือนต่อๆ มา
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อินเทล วีโปร เทคโนโลยี จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองและวิธีการใช้งานคอมพิวเตอร์ในองค์กรธุรกิจตลอดจนผู้ดูแลระบบไอที เพราะเราได้นำคุณสมบัติสำคัญๆ มารวมไว้ด้วยกันในแพลตฟอร์มล่าสุดที่ใช้มัลติคอร์โปรเซสเซอร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหนักใจต่างๆ ขององค์กรธุรกิจ อาทิ ภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ต้นทุนค้าใช้จ่าย การจัดสรรทรัพยากร การบริหารสินทรัพย์และเวลา อัพไทม์”
หัวใจสำคัญของแพลตฟอร์ม อินเทล วีโปร เทคโนโลยี คือ อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ที่ถูกกล่าวถึงกันอย่างกว้างขวางด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้นร้อยละ 40 และประหยัดพลังงานได้มากกว่าเดิมถึงร้อยละ 40 เช่นกัน
นอกจากนี้ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี ยังประกอบด้วย อินเทล? แอคทีฟ แมเนจเมนท์ เทคโนโลยี (Intel? Active Management Technology — Intel? AMT) รุ่นที่สอง, อินเทล? เวอร์ช่วลไลเซชั่น เทคโนโลยี (Intel? Virtualization Technology — Intel? VT), ชิปเซ็ต อินเทล? Q965 เอ็กซ์เพรส และ
อินเทล 82566 DM กิกะบิต เน็ตเวิร์ก คอนเน็คชั่น เมื่อใช้กับซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน คุณสมบัติพิเศษต่างๆ เหล่านี้จะให้ประสิทธิภาพสูงสุดด้านการจัดการและความปลอดภัยสำหรับทั้งองค์กรขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ซึ่งนักวิจัยต่างๆ ได้คาดการณ์ไว้ว่าองค์กรธุรกิจทั่วโลกจะมีการซื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปรวมแล้ว กว่า 100 ล้านเครื่องภายในปี 2549 นี้
มร. ไบรอัน มา รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านอุปกรณ์ส่วนบุคคล ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไอดีซี กล่าวว่า “องค์กรธุรกิจในปัจจุบันพยายามหาวิธีที่จะทำให้โครงสร้างไอทีมีความเข้มแข็งและมีเสถียรภาพรวมทั้งมีระบบการจัดการที่ง่ายขึ้น ดังนั้น โซลูชั่นที่รวมคุณสมบัติต่างๆ ไว้ด้วยกันจะสามารถช่วยให้ความต้องการดังกล่าวบรรลุผล และทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีนอนหลับได้เต็มตาเพราะมีความเชื่อมั่นในของระบบ”
ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจมองเห็นถึงแนวโน้มในการลดค่าใช้จ่ายขององค์กรจากประสิทธิภาพต่างๆ ที่ได้รับจากอินเทล วีโปร เทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างกรณีศึกษาของบริษัทที่อินเทลได้นำมาเปิดเผย
กว่า 20 ราย ซึ่งมีทั้งองค์กรธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมทั้งบริษัทผู้ให้บริการด้านไอทีและบริษัท
ผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบการจัดการองค์กร ผลที่ได้รับจากการใช้แพลตฟอร์มรุ่นล่าสุดนี้พบว่า องค์กรสามารถประหยัดค่าแรงงานและค่าใช้จ่ายในการดูแลพีซี ซึ่งคาดว่าจะประหยัดได้ตั้งแต่ร้อยละ 7 ถึงร้อยละ95 เพราะผู้ดูแลระบบไอทีเสียเวลากับการแก้ไขปัญหาที่เครื่องน้อยลง บริษัทที่เข้าร่วมการทดลองครั้งนี้ได้แก่ BMW และ ING สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.intel.com/business/vpro/casestudies
จากผลการสำรวจโดยบริษัทการ์ทเนอร์ เรื่อง “อินเทล วีโปร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปด้วยระบบการจัดการแบบรีโมทแมเนจเมนท์” ลงวันที่ 25 เมษายน 2549 มร. มาร์ค มาเจวิเซียส
และ มร.สตีเฟ่น เคลนฮันซ์ นักวิจัยจากการ์ทเนอร์ กล่าวว่า การเปิดตัวแบรนด์ อินเทล วีโปร นับเป็นความพยายามที่จริงจังของอินเทลในการเปลี่ยนรูปแบบระบบการจัดการของคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อป นอกจากนี้
อินเทล? แอคทีฟ แมเนจเมนท์ ยังช่วยให้คอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปมีประสิทธิภาพด้านการจัดการในระยะไกล หรือ ‘รีโมท แมเนจเมนท์’ ซึ่งที่ผ่านมาคุณสมบัตินี้มีเฉพาะในเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น รวมทั้งความสามารถในการเข้าถึงระบบรักษาความปลอดภัยจากระยะไกล เพื่อใช้เครื่องมือต่างๆ ในการตรวจสอบระบบได้แม้ในขณะที่เครื่องยังปิดอยู่ และการใช้แอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์เสมือนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของพีซีที่ใช้ในองค์กร
บริษัทชั้นนำทั่วโลกที่ผลิตซอฟต์แวร์เพื่อใช้กับองค์กรในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ ต่างทยอยวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถดึงสมรรถนะของ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี มาใช้ได้อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ โซลูชั่นต่างๆ ที่มีวางจำหน่ายแล้วในปัจจุบันและจะมีตามมาอีกมากในอนาคตอันใกล้ จากบริษัท ผู้ผลิตซอฟท์แวร์ อาทิ อะโดบี้, อัลทิริส, ซีเอ, เช็ก พอยท์, ซิสโก้, เอชพี โอเพ่นวิว, แลนเดสก์, เลโนโว, ไมโครซอฟท์, สตาร์ซอฟต์คอมม์, ไซแมนเทค, เทรนด์ ไมโคร และเซนิธ นอกจากนี้ บริษัทผู้ให้บริการด้านไอทีรายใหญ่ของโลก ซึ่งรวมถึง เอทอส ออริจิน, อีดีเอส และฝ่ายบริการธุรกิจของซีเมนส์ จะนำอินเทล วีโปร เทคโนโลยี มาให้บริการแก่ลูกค้าด้วย
อินเทล วีโปร เทคโนโลยี เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Intel? Stable Image Platform ที่ประสบ ความสำเร็จอย่างสูง โดยเป็นโปรแกรมที่นำเสนอการปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มที่สม่ำเสมอและคาดเดาได้ และโปรแกรมนี้การันตีความพร้อมอยู่เสมอของชุดซอฟต์แวร์และไดรฟ์เวอร์ของอินเทลในระยะเวลานานต่อเนื่องจากการเปิดตัวสินค้า โปรแกรมนี้ยังช่วยให้ผู้จัดการด้านไอทีสามารถทดสอบและตรวจคุณภาพของเครื่องเพียงครั้งเดียวได้ แทนที่จะต้องทำการตรวจซ้ำหลายๆ ครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ ซึ่งช่วยร่นขั้นตอนการทำงานให้เร็วขึ้นและช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กร
พีซีที่ใช้แพลตฟอร์ม อินเทล วีโปร เทคโนโลยี ยังมีคุณสมบัติด้านกราฟิกล่าสุดอย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ตรงกับสิ่งที่ไมโครซอฟท์กำหนดในปัจจุบันเพื่อให้สามารถรองรับระบบปฏิบัติการวินโดว์ส วิสต้า* ของไมโครซอฟท์ที่เตรียมออกสู่ตลาดในเร็วๆ นี้
ในปี พ.ศ. 2550 แพลตฟอร์ม อินเทล? เซนทริโน? ดูโอ โมบายล์ เทคโนโลยี รุ่นใหม่ ซึ่งมีชื่อรหัสว่า ซานตา โรซ่า (Santa Rosa) จะมีความสามารถด้านการจัดการไอทีและการรักษาความปลอดภัยของพีซีที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิมนี้รวมอยู่ด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ปัจจุบัน เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ใช้แพลตฟอร์ม อินเทล? เซนทริโน? ดูโอ โมบายล์ เทคโนโลยี ที่ใช้อินเทล? คอร์?2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ เป็นซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นล่าสุด มีวางจำหน่ายแล้วสำหรับองค์กรธุรกิจ เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น และความสามารถโดยรวมของเครื่องที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมซิลิกอน อินเทลได้พัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และริเริ่ม
สิ่งต่างๆ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงานและการดำรงชีวิตของผู้คน ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ:
คุณนฑาห์ บุญประสิทธิ์ คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
โทรศัพท์: (66 2) 648-6000 โทรศัพท์: (66 2) 627-3501
e-Mail: natha.boonprasit@intel.com
e-Mail: kanpirom.ungpakorn@carlbyoir.com.hk
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ