“ไอ้หรั่ง” ผู้ร้ายตัวเอ้ที่หล่อที่สุดของ “สาระแนสิบล้อ” การคืนจอในรอบสิบปีของ “วิลลี่ แมคอินทอช”

ข่าวบันเทิง Wednesday March 17, 2010 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม “ไอ้หรั่ง” ผู้ร้ายตัวเอ้ที่หล่อที่สุดของ “สาระแนสิบล้อ” การคืนจอในรอบสิบปีของ “วิลลี่ แมคอินทอช” กับคาแรคเตอร์โหด มันส์ ฮา บ้าบอสุดๆ ที่ “เปิ้ล นาคร” ยังต้องมองค้อน Q.นับตั้งแต่มังกรเจ้าพระยา,มหัศจรรย์แห่งรักมาจนถึงสาระแนห้าวเป้งที่เห็นพี่วิลลี่โผล่มานิดๆหน่อยๆ แฟนๆแทบไม่ได้เห็นพี่วิลลี่ในงานภาพยนตร์อีกเลย ถือว่านานเป็นสิบๆปีเลย วิลลี่: ใช่ครับ จริงๆแล้วในหลายสิบปี ไม่ถึงหลายสิบหรอกครับ เอาเป็นว่าสิบปีที่ผ่านมาละกัน ผมก็ไม่ได้เล่นหนังเรื่องอะไรอีกเลย แล้วก็พอได้มาเล่นเรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่ามาจนถึงผมเหลือบทให้เลือกอยู่น้อย ที่เหลืออยู่นะครับ เพราะพระเอกคุณเปิ้ลนาคร ศิลาชัยเขาก็เลือกไปแล้ว ตลกประกอบเขาก็ fight กันไปหมดแล้ว ก็เหลือผมอยู่คนเดียวนี่ที่มีบทนี้ ก็ให้ผมเล่นเป็นบทเอ่อ แบบเชียร์แขกในโรงนวดแผนโบราณ ซึ่งเป็นคนที่รักนางเอก ในระหว่างที่พระเอก พี่เปิ้ลจะเข้ามาแล้วก็ปิ๊งปั๊งอะไรกันอย่างนี้ ซึ่งตัวเราเองในบทที่เราต้องรับเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ เหี้ยม โหด เอาตัวเข้าแลกกับเจ้าของโรงนวดเพื่อให้ได้ตำแหน่งนั้นมา เป็นบทที่ผมรอคอยมานานนะครับ ขอบคุณมากฮึๆ(หัวเราะแบบอินคาแรคเตอร์) Q.ทราบมาว่าเป็นบทบาทที่เราแทบจะไม่เคยเห็นพี่วิลลี่แสดงแบบนี้มาก่อนเป็นตัวร้ายระดับตัวจี๊ดเลย วิลลี่: ครับรับบทเป็นไอ้หรั่ง ในเรื่องสาระแนสิบล้อ คาแรคเตอร์ของไอ้หรั่งเป็นผู้ชายหล่อ เท่ เข้ม ที่โปรดปรานของสาวๆในสถาบันนวดแผนโบราณที่นั่น ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมที่นั่นเปิดไฟแดงตลอดเวลา ผมก็เป็นเด็กเชียร์อยู่ที่นั่น คือใจผมจริงๆคือผมหมายปองชมพู่นางเอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ว่าทำไมนางเองถึงเปลี่ยนใจไปชอบไอ้เช ผมก็ไม่แน่ใจ แล้วมันก็กลายเป็นรักสามเศร้า ระหว่างเชเป็นสิบล้อ กับเอ่อ..สาวนวดเซ็กซี่ (อมยิ้ม) กับผมซึ่งเป็นผู้ชายที่คอยดูแลเอาใจใส่เขามาโดยตลอด บางทีผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่า เขาจะเก็บความรักความบริสุทธิ์ของเขาไว้กับใครเพื่ออะไรก็ไม่รู้ มันก็เลยทำให้ผมโกรธครับ ในเรื่องผมโกรธมากว่าอยู่ดีๆไปชอบไอ้สิบล้อได้ไง คือให้เลือกหน้าตาวัดกันแล้วนี่นะ(เอานิ้วขี้มาเทียบกัน) ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น Q.หนักใจไหมที่ต้องมาแสดงกับคนใกล้ตัวอย่างพี่เปิ้ล พี่หอย เห็นว่าทุกคนทำการบ้านเตรียมตัวกันมาปล่อยของกันเต็มที่เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลา 3สาระแนรวมทั้งมีโก๊ะตี๋ด้วยเข้าฉากด้วยกัน วิลลี่: เครียดเหมือนกันนะ เครียดมากเลยนะที่จะต้องมาเข้าฉากกับเปิ้ลกับหอยเพราะผมรู้ว่าจะไม่มีอะไรแบบคงเส้นคงวา ไม่มีอะไรที่เขาจะส่งบทให้เราอย่างแน่นอน อันที่หนึ่ง อันที่สองคือเราไว้ใจใครไม่ได้ในกอง เขาจะออกนอกบทไป เราต้องตามให้ได้ อาจจะไม่มี dialogue ในนั้นเพิ่มขึ้นมาเราก็ต้องต่อให้ได้ แล้วก็ต้องคำนึงถึง character ด้วย แล้วเราก็ต้องรีบกลับเอาเข้าไปให้จบฉากนั้น เพราะว่าบางครั้งฉากนั้นมันอาจจะ 3 นาที 5 นาทีแต่เขาเล่นไป 15 นาทียังไม่เลิกเลยอ่ะ มีเล่นให้เลือกไง เล่นให้ช็อปกันก็ใส่กันเต็มที่ก็ลองคิดดูละกันว่าแต่ละคนที่เขาคุยกันเนี่ยะพูดตลอดเลยว่า เล่นไว้แล้วขำนะเฮ้ย อย่าให้น้อยหน้านะอะไรต่อมิอะไร อย่างพี่เปิ้ลอย่างหอยไปเข้าฉากก่อนก็มาเกทับผม ซึ่งผมก็มีพรรคพวกนะ ซึ่งเป็นทีมงานเบื้องหลังนี่แหละ พอถึงเวลาจังหวะที่จะเอาคืนเราก็จะมี (ยิ้ม) โดยที่ไม่บอกใคร ตกใจแน่ๆล่ะ ครั้งสุดท้ายตอนที่ถ่ายทำไปแล้วไม่ใช่แค่ตกใจอย่างเดียวบาดเจ็บด้วย ก็น่าจะดี ผมเชื่อว่าหลายคนชอบ เพราะมันจะจริงมาก มีเลือดสาดด้วย ชอบๆ (หัวเราะ) Q.ดูจากลุคส์หน้าตาทรงผมแล้ว แต่ละคนนี่แทบไม่มีใครไม่ต้องแปลงร่างเลย การสวมคาแรคเตอร์ตัวละครในสาระแนสิบล้อทำให้ทุกคนมีงานยากขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งคือต้องเปลี่ยนโฉมก่อนเข้าฉากทุกคน วิลลี่: ทำยากมากครับ แต่เป็นเพราะเขามีความสุขกับการแปลงไปเรื่อยๆกันครับ อย่างคาแรคเตอร์ไอ้หรั่งก็จะเป็นแบบหนุ่มสำอางค์ ทีมงานเขามีรูป scan ที่เป็น reference มาเป็นของพี่เอกสรพงษ์ทรงแสกกลางมาก่อน เราบอกว่าอยากได้แบบนี้ แล้วก็เริ่มมีแหวนเพชร สร้อย เลตชุดเริ่มรัดรูป แล้วก็มาถึงก็มีวิกมาให้ใส่ สแลค กรีดใต้ตาดำให้มันดูเข้มขึ้น เริ่มติดไฝดำเป็น อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ใส่กันเข้าไป ไม่รู้สนุกอะไรกันนักหนา เหมือนกับแบบว่า เพิ่งเคยมาทำหนังกันนะครับ ใส่กันเต็มที่เพราะกว่าจะเสร็จ มาก็ชั่วโมงหนึ่งน่ะครับ แปะกันเข้าไป แล้วก็เล่นยากเพราะปากขยับอะไรมากไม่ค่อยได้เพราะต้องมีหนวดด้วย Q.เสน่ห์ในการเล่นเป็นตัวละครแบบไอ้หรั่งอยู่ที่ตรงไหน อย่างไร วิลลี่: มันมีความท้าทายที่ว่า เรามีฉากอยู่ไม่กี่ฉากที่เราได้เข้า (ทำนิ้ววัดขนาดเล็กน้อย) เข้าใจนะครับว่า คือเราไม่ได้นะเพราะเปิ้ลเป็นคนเขียนเรื่อง แล้วก็มีไปล็อบบี้ให้ตังค์คนเขียนบทก็เลยได้เล่นเป็นพระเอกของเรื่อง แต่ว่าเรามีฉากไม่เยอะเท่าเขา เราก็ต้องเล่นให้ได้ character ที่พี่เป้ผู้กำกับเขาอยากได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็ต้องชัดเจน แต่ก็สนุกเพราะได้ใส่เต็มที่ตรงนั้น ก็รอๆเอาคืน เพราะว่าหนังไม่ได้ทำเพียงเรื่องเดียว ถูกไหมครับ(หัวเราะ) Q. ฟังๆดูแล้วบรรยากาศการทำงานน่าจะสนุกสนาน วิลลี่: สนุกมากครับ เพราะแต่ละคนเหมือนเก็บของกันมาแล้วมาใส่กันตรงนั้นหน่ะ แล้วก็ออกนอกบทแล้วก็กลับเข้ามาอีก แล้วก็ออกอีก แล้วก็แทนที่จะคัท ผู้กำกับก็ไม่คัท ก็ปล่อยไปเรื่อยๆ เล่นกันเข้าไป ถ้าไม่ขำก็ใส่กันเข้าไปอีก ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องบอกว่าเราต้องอั้นไว้ หนึ่งเราก็อั้นให้อยู่ สองเราต้องไม่ลืมว่าเราต้องทำอะไรบ้าง อันที่สามเราขำไม่ได้เลย เพราะว่าถ้าเราหัวเราะปั้บ มันหมายความว่าเราแพ้ มันเป็นการแข่งกันกันเลยนะครับ ขำปรับแพ้ หลุดปรับแพ้ มันก็เลยไม่มีใครขำ ไม่มีใครหลุด มันก็เลยเล่นกันแหลกราญ ผมคิดว่าตลก ตลกจริงๆ Q.ทราบมาว่าเป็นทีมงานมือใหม่หัดขับ วิลลี่: ครับคือใหม่มากถึงขนาดที่ว่าคนที่ได้ผ่านการทำหนังมา หมายถึงคนทำนะครับไม่ใช่คนเล่น คงจะมีพี่เป้ ผู้กำกับ แล้วก็ตากล้องที่จะมาช่วยจับภาพจับอะไรบ้าง ที่เหลืออยู่นี่นะครับก็จะเป็นทีมงานจากรายการของเรา คนที่เคยทำสาระแนห้าวเป้ง แล้วก็อาศัยคุยกันบอกว่าอยากได้ประมาณนี้ brief dialogue ไปก็จำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง พี่เปิ้ลน่ะจำไม่ค่อยได้ แต่เป็นคนเดินเรื่องเลยนะ ก็ดี ก็ใหม่เอี่ยมนะฮะ ผมก็หวังไว้ว่า คงจะพัฒนาในเรื่องต่อไป เพราะเรื่องนี้ ตีสเลท จัดไฟก็ยังไม่เป็นกันหมด ใหม่จริงๆครับ ฝากไว้ด้วยครับ ผมก็ห่างเหินมา เคาะสนิมมาก็ยังไม่ค่อย work เพราะว่าเราเล่นเป็นหนัง ผมเล่นละครมาเราจะไม่พูดแบบธรรมชาติ เรากะนาย คุณกับผม ชั้นกะเธอ ไอ้นี่มาแบบดิบกว่านั้น แล้วเราก็จะไม่ เฮ้ยแก แกไม่ได้คัท ต้องใช้คำว่ามึง มันก็เลยต้องอินมาก มันก็เลยยากพอสมควรครับ พยายามปรับ dialogue อยู่ Q.อยากให้ยกตัวอย่างการได้มาซึ่งฉากสนุกๆสักหนึ่งฉากของสาระแนสิบล้อ วิลลี่: อืม มันเป็นบทที่ผมพยายามไม่ให้ชมพู่หนีออกจากโรงนวดนี้ไปมีชีวิตของเขาเพราะว่าเจ๊ผมสั่งมา แล้วเชพยายามจะหลอกล่อให้ชมพู่หนีตามเขาไปเพราะรักแท้ แต่ผมต้องดักไว้ก่อน ก็มีกันตั้งแต่จับได้ครั้งแรกแล้วมันทำร้ายผม จับได้ครั้งที่สองก็ทำร้ายผมอีก พอจับได้ครั้งที่สามก็เป็นโอกาสของเราที่จะเอาคืน ก็สามฉากนี้ที่บู๊อย่างเดียวครับ ไม่คิดว่าจะเหนื่อย แต่อย่างน้อยที่สุดก็เล่นเทคเดียวเพราะเรามีหลายกล้อง เราถ่ายกันทีนึง 4 — 5 กล้อง อย่างนี้นะฮะ เราใส่กันเต็มที่ได้เลย เพราะถ้าว่าไปเทคอีกทีนึงก็เล่นได้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เอาไปตัดต่อใส่ก็ไม่ได้ แต่ที่นี้ด้วยความเต็มที่ของนักแสดงอย่างน้องชมพู่ผมก็จะไม่ลืมนะครับที่ชมพู่ทำกะเรา ทั้งที่จริงๆ แล้วนี่เขาให้เคาะโป๊ก มันก็จะแตก คือชมพู่ต้องเอากระถางต้นไม้ฟาดไปที่ศรีษะของผม แต่ที่นี้เขายกแล้วง้างแขนไกลมากแล้วทุ่มลงไป เขาเล่นจริงเลยฮะ แล้วสันมันก็โดนกลางกะบาลเลยฮะ ก็เรียกว่าเคาะลงไป แต่มันก็แตกโพล๊ะ โอ๊ยสะใจ มันส์มากครับ ชอบ Q. แล้วสำหรับพี่เปิ้ลละ ทราบมาว่าในเรื่องเล่นเป็นคู่ปรับกัน จริงไหมที่ทุกครั้งที่วิลลี่เข้าฉากกับเปิ้ล ห้ามกระพริบตา เหมือนไม่รู้ว่าโกรธแค้นกันมาจากชาติปางไหน วิลลี่: มันเป็นความจริงครับ(หัวเราะ) ที่สะสมกันมานาน ความจริงคือตัวพี่เปิ้ลเองเป็นคนที่น่าแกล้งมาก เพราะเราอยู่รอบๆเขา เราเลยอยากจะแกล้งเขา แล้วคราวนี้ เวลาที่ถึงเวลา บางครั้งที่เขาอยากจะจริงจัง เล่นอย่างอยากจะจริง อยากจะอินมาก จนบางครั้งก็ออกนอกเรื่อง บางครั้งก็จำบทไม่ได้ บางครั้งก็เล่นไปแล้วลืม บางครั้งก็เล่นไปแล้วเฉลยเลย มันก็ไม่ได้ไง มันก็เลยเป็นบางครั้งที่แบบว่าเราต้องใส่กัน รักใคร่กันนะครับแต่ก็ต้องเล่นกันแบบเต็มที่ เหมือนเกลียดกันมาจากไหนก็ไม่รู้ แต่เปิดโอกาสเมื่อไหร่จะทำกันเต็มที่ Q.เพื่อความสนุกสนานหรือผลลัพธ์ทางด้านภาพในแง่เสียงหัวเราะ งานนี้ก็เลยมีการหักหลังแกล้งกันในฉากด้วยโดยที่นักแสดงไม่รู้ตัว วิลลี่: อืม... คือบางครั้งเราอาจจะไม่ได้คิด เพราะว่าเราอินกับ character อยู่ แต่ทีมงานนี่เขาจะรู้จัก ว่าฉากนี้นี่นะพี่เปิ้ลจะโดนมัดแล้ว จะล่อนจ้อน เหลืออยู่น้อยชิ้นมาก ไอ้เชโดนจับตัว ดังนั้นมันถึงเวลาที่จะเอาคืน แล้วเขารู้ว่าพี่เปิ้ลเป็นคนขี้ตกใจ ก็ในฉากผมต้องเอาปืนมาขู่เขา ตอนท้ายสุด แต่ผมไม่ได้เห็นปืน ผมก็เลยขู่โดยการเอาเทียนลนบ้าง อะไรต่ออะไรแกก็เล่นไปได้เรื่อยๆ แล้วทีมงานก็เอาปืนพร้อมกับกระสุนปลอม 2 นัดใส่เข้าไปในแมค แล้วก็บอกว่าพี่ ยิงใส่หว่างขามันเลย เพราะว่าแกจะใส่แต่กางเกงในเหลือแค่นั้น (หัวเราะ) ก็แกกลัวไง พอเราควักปืนออกมาปึ๊บ เราจ่อเข้าไปจะยิง แกก็ตกใจไง แกก็พยายามจะหนี หนีเข้ามาหากระบอกปืน แต่เราก็ไม่เห็นครับ เราก็กด ตั้มแรก ก็เศษๆผงเล็กๆ เข้าขาอยู่หน่อยๆ แกก็ดิ้น โอ๊ย เจี๋ยว เราก็นึกว่าแกแสดง ก็เลยขึ้นลำยิงเข้าไปอีกนัด หลังจากนั้นแกก็สะดุ้งอีกทีนึง แล้วก็ค้างไปท่านั้น เหมือนกับอินมากนะ วิลลี่ขึ้นเสียงสูง...ไม่ แกจะยิงชั้นทำไม พี่เป้บอกว่าคัท ผ่านแล้ว แกก็ยังค้างอยู่ท่านั้น แล้วเสียงน้อยๆของพี่เปิ้ลก็พรั่งพรูออกมา ทะลุกางเกง (หัวเราะ) พอเปิดกางเกงขึ้นมาก็เห็นเป็นจุดๆๆเล็กๆ ใส่เบตาดีน ก็หาย ไม่มีอะไร ก็ชอบแกล้งกันแบบนี้ มันก็เป็นส่วนหนึ่งของหนังนะฮะ ที่อยากให้มันเป็น ก็เป็นแบบ happening ด้วยแต่ก็ยังอยู่ในเนื้อเรื่อง แต่ถามว่าบอกตัวแสดงหมดไหม ก็ไม่ แต่หลังจากนั้นแกระแวงเลย จะไม่ไว้ใจใคร Q. ถือได้ว่าเป็นลายมือในแบบสาระแนไหม วิลลี่: น่าจะเป็นลายมือของวิธีการทำอย่างหนึ่งที่เราใช้ เพราะเราได้ความสด แต่ก็เสี่ยงเหมือนกัน เพราะเราไม่รู้ว่าจากที่เราทำหนังไปแล้ว หนังจะเล่นต่อได้หรือเปล่า เพราะฉากนั้นน่ะ มันตั้มไปแล้ว ส่งอะไรไปพี่เปิ้ลก็นิ่งอย่างเดียวเลยน่ะ ใจสั่นตับๆๆเลย แต่น่าดูนะ ผมเชื่อว่าผู้ชมต้องชอบเรื่องนี้ Q.มาถึงตอนนี้พูดได้ไหมว่าเสน่ห์ของ“สาระแนสิบล้อ”ที่มีบทเป็นชิ้นเป็นอัน และเป็นหนังใหญ่เต็มๆตัวครั้งแรกของทีมสาระแนอยู่ที่ตรงไหน วิลลี่: คือผมว่าเสน่ห์ หรือความพิเศษของสาระแนสิบล้อที่พยายามใส่เข้าไปนะครับ นอกจากความสนุกสนานที่พยายามใส่เข้าไปให้ถี่ที่สุดให้เยอะที่สุดที่จะสามารถใส่เข้าไปได้ มันคือการที่เราใส่ความสดใหม่เข้าไป ความสดคือการบอกบทนักแสดงบ้าง ไม่ได้บอกบ้าง บอกบทแค่นี้ แต่บางคนออกนอกบท เราก็จะต้องตามให้ได้ มันกลายเป็นเรื่องที่มันจริงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ก็อยากให้เป็นหนังแบบนั้นเหมือนกัน ก็อยากให้มันน่าติดตาม เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง Q. ถ้าให้คำจำกัดความของสาระแนสิบล้อจะให้คำจำกัดความว่าอย่างไร วิลลี่: สาระแนสิบล้อ ผมว่าคำจำกัดความคือเด็กใหม่ในการทำหนัง ที่ไม่กลัวพลาด เพราะมันลองของกันไปเรื่อยๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง Q. พูดถึงผู้กำกับพี่เป้ นฤบดี เวชกรรมว่ากันว่าเป็นหัวสมองก้อนใหญ่ๆของสาระแนเลยกับ สาระแนสิบล้อ อีกแนวทางของหนังตลกของบ้านเรา วิลลี่: ผมเชื่อว่าการกำกับหนังเรื่องสาระแนสิบล้อกับการกำกับหนังเรื่องอื่นๆ อยู่ที่ตัวพี่เป้เองรู้จักกับเรามาสิบกว่าปีแล้ว อันที่หนึ่ง อันที่สองคือเขารู้ว่าเขาให้ข้อมูลมาประมาณแค่นี้ หลังจากนั้นเขาไปเอาอุปกรณ์มาเตรียมพร้อมเลย เพราะเขามีความเชื่อว่านักแสดงมีหน้าที่เล่น กล้องมีหน้าที่ไปถ่ายให้ได้ในระหว่างที่เขาเล่น ดังนั้นเขาจะปิดช่องที่จะเทคนะ เพราะเขาอยู่กับเราเขาก็รู้ว่าเทคที่หนึ่งนะดีที่สุด แต่ก็จะถ่ายไว้เผื่อๆไว้เ พราะของบมาเยอะ (หัวเราะ) ก็เลย เตรียมกล้องไว้สองมุม สามมุม สี่มุมก็แล้วแต่ จับเอาไว้ได้หมด แล้วก็ brief กับตากล้องตลอดเลยว่าจับตรงนี้ให้ได้ จับตรงนี้ให้ได้ แล้วพอของจริง action มันเริ่มปั๊บ เราก็ห่วงแค่ว่า คือหนึ่งบทเราได้ การแสดงเราดี ไฟเราไม่บังใคร กล้องเห็นหน้าเรา กล้องที่เล่นของเรา จบสี่อย่างนี้ก็เล่นไปเลย แค่นั้นเอง เพราะเรารู้แล้วว่ากล้องนี้เป็นของเรา เราก็เล่นของเรา ไอ้นี่ยืนบังเราก็หลบ ไอ้นี่บังเราก็หลบ พอเราหลบมากๆ เราไปบังไฟใคร เราก็หลบกลับมา แล้วก็เริ่มซักพักเริ่มรวนละ เพราะนักแสดงชุดนี้มันไม่อยู่เป็นที่เป็นทาง แล้วสังเกตุดูนะครับว่าส่วนใหญ่เวลาเขาเล่นกัน เหมือนกับว่าถ้าไม่ใช่เวลาของเขา เขาจะถอยแต่ถ้าถึงเวลาของเขาแสดงเขาจะเดินมาข้างหน้านะ แต่ไอ้พวกนี่แสดงเสร็จปึ๊บ พอมันเล่นเสร็จมันไม่ถอยนะ อีกคนเดินมาทับข้างหน้าอีก อีกคนก็มาทับข้างหน้าอีก แล้วก็บังไฟมืดตึ๊ดตื๋อเลย รับรอง คิดดูสิ เละเทะ เพราะว่ามันมา present ไง แล้วอีกเดี๋ยวก็ตาชั้นบ้าง ตาชั้นบ้าง กลายเป็นสุดท้ายไม่มีฮะ ไม่มี ที่ได้จุดเดียวจุดนั้น เขาก็เลยต้องกลายเป็นใช้ 4-5 กล้อง เพราะไม่งั้นหลุดหมดเพราะแต่ละคนไม่ได้เล่นตาม blog หนังเท่าไปที่เขาวางไว้ซึ่งอันนี้เป็นเพราะพี่เป้เขารู้จักพวกเราดี Q.ทำไมสาระแนสิบล้อถึงเป็นหนังที่ต้องดู วิลลี่: ผมก็อยากจะฝากเรื่องสาระแนสิบล้อนะครับ เพราะเป็นหนังที่จำเป็นจะต้องดูมากถ้าคุณต้องการความสุขในชีวิต สิ่งที่เราเตรียมกันมาในระยะเวลา 1 ปีนี้ สำหรับหนังเรื่องสาระแนสิบล้อเนี่ยะ เราได้นักแสดงคุณภาพอย่างมาริโอ้ อย่างชมพู่ อย่างโก๊ะตี๋ มาร่วมงานกับพวกเรา ยังมีพี่ติ๊ก กลิ่นสี อีก แต่ละอย่างที่เกิดขึ้นมานี่นะครับ ผมจะบอกได้ว่าแต่ละคนนะพกของมา นอกเหนือจากบท พกของมาด้วย แล้วเขามาปล่อยในหนังเรื่องนี้ คราวนี้พอปล่อยกัน กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้จะเกี่ยวกับหนังที่จะมีstory board มีเรื่องหรือเส้นเรื่องไป แต่มันเป็นการแข่งขันว่าใครตลกกว่าใคร ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหนังเรื่องนี้ตัดต่อออกมาว่ามันมอบความสุขให้กับท่านผู้ชมหรือเปล่า ดังนั้นพลาดไม่ได้ครับ 1 เมษายนนี้ ถ้าพลาดจะเสียดายมาก แต่ถ้ามีโอกาส ผมขอร้องละ (ยกมือไหว้ พร้อมเสียงเศร้า) ไปดูหนังของพวกเรา เพราะผมไม่รู้ว่ามันจะทำรายได้สักเท่าไหร่ เพราะพระเอกของเรื่องคือเปิ้ล นาคร (ทำท่าสะอื้น)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ