กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--IR PLUS
"ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร" นายใหญ่ MFEC เผยปีนี้พร้อมใช้แผนผนึกพันธมิตรเบอร์ 1 ในแต่ละตลาด พัฒนาสินค้าอินโนเวชั่นลงทำตลาดร่วมกัน เพื่อใช้จุดแข็งของกันและกันสู้ศึกไอทีแข่งเดือด เพื่อเป้าหมายให้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งไปด้วยกันในระยะยาว พร้อมใช้ความเก๋าในวงการบวกความเชี่ยวชาญในธุรกิจเร่งพัฒนาสินค้าที่เป็น IP ของตัวเองลงเบียดแชร์ยักษ์ข้ามชาติ ควบคู่กับการพัฒนาการให้บริการให้ตรงกับใจลูกค้ายิ่งขึ้น มั่นใจฝ่าการเมืองร้อน-เศรษฐกิจซึมปั้นรายได้ให้โตจากปีก่อน 15% ได้ตามเป้าหมาย
นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ว่า MFEC ได้ปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญ เพื่อรับมือกับยักษ์ใหญ่ไอทีจากต่างประเทศที่เข้าสู่ตลาดไอทีของไทยเพิ่มขึ้น ด้วยการเร่งขยายผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจรแบบ One Stop Service เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ทำให้สามารถปกป้องตลาดและขยายฐานลูกค้าไปในเวลาเดียวกัน ท่ามกลางธุรกิจที่คาดว่าจะมีการแข่งขันอย่างรุนแรง หลังเปิดการค้าเสรีตามสนธิสัญญาอาฟต้า
สำหรับการเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ หรือการเพิ่ม Portfolio ของ Product หรือโซลูชั่น ให้มีความสมบูรณ์ขึ้นนั้น ในปีนี้ MFEC จะใช้กลยุทธ์พัฒนาสินค้าที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง ( Intellectual Property หรือ IP ของ MFEC) ลงสู่ตลาดมากขึ้น รวมทั้งจะให้ความสำคัญกับการร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้นำในแต่ละตลาดพัฒนาสินค้าอินโนเวชั่นลงทำตลาดร่วมกัน เพื่อใช้จุดแข็งของกันและกันสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางการแข่งขันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงจากผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ปัจจุบันเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นทุกที ซึ่งการร่วมมือกันกับพันธมิตรก็เพื่อให้บริษัทคนไทยมีศักยภาพสามารถแข่งขันกับบริษัทไอทีข้ามชาติที่แบรนด์ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกได้ เนื่องจากความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะสามารถนำเทคโนโลยีของแต่ละฝ่ายมาต่อยอดได้ทันที ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและครบวงจรยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันยังนำไปสู่ต้นทุนสินค้าที่ถูกลง สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างคล่องตัว
"การจับมือกับพันธมิตรพัฒนาสินค้าร่วมกัน และการที่เราสร้าง IP ของเราขึ้นมาได้ เพื่อเพิ่ม solution สร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นในการนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าแบบเหนือชั้นกว่า นอกจากนั้นยังช่วยลดระยะเวลาการทำงานของเรา เมื่อประหยัดเวลาได้ ผลก็คือการประหยัดต้นทุนและช่วยเพิ่ม margin กับ
บริษัทฯได้ และประการทำคัญทำให้ MFEC มีสินค้าที่นำเสนอให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร แบบ end to end ตั้งแต่นำข้อมูลจากต้นทางมา จนถึงเอาข้อมูลไปให้ผู้บริหารใช้บริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งที่เป็นบริษัทข้ามชาติ ในขณะเดียวกัน MFEC ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาการให้บริการให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงกับใจด้วย ซึ่งถือเป็นการผนึก 2 จุดแข็งเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทั้งด้านความเป็นหนึ่งเรื่องเทคโนโลยี และความเป็นหนึ่งด้านบริการ ซึ่งจะทำให้เราเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต"
นายศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการปรับกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจในปีนี้จะทำให้บริษัทฯ สามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2552 ในอัตรา 15% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ประมาณ 1,420 ล้านบาท โดย 80% ของงานดังกล่าวจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2553 นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าถึงแม้ว่าการเมืองจะยังร้อนแรง และเศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนนัก MFEC จะยังผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ในขณะเดียวกันเชื่อว่าการหันมาจับมือกับพันธมิตร และการเพิ่มสินค้าที่เป็น IP ของตัวเองลงสู่ตลาดจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (gross profit margin) เติบโตดีขึ้นในทิศทางเดียวกันด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกคน
ทั้งนี้ เพื่อยืนยันถึงนโยบายดังกล่าวในผลประกอบการงวด ปี 2552 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจัดสรรเงินสดปันผลโดยจ่ายจากผลกำไรสะสมของบริษัทจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยจ่ายเงินสดปันผลในอัตรา 0.33 บาทต่อหุ้น และกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม 2553 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2553 ซึ่งคณะกรรมการจะนำเสนอมติดังกล่าวให้ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 พิจารณาในวันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2553นี้
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า)
Tel. 02-554-9395 E-mail : [email protected]