TCELS เปิดตัวหนังสือคัมภีร์แห่งความจำห่างไกลอัลไซเมอร์

ข่าวทั่วไป Tuesday March 30, 2010 15:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--TCELS TCELS เปิดตัว “คัมภีร์ แห่งความจำ” ช่วยไขความสว่างให้คนไทยรู้จักวิธีการป้องกันโรคสมองเสื่อม “อัลไซเมอร์” ภัยเงียบของผู้สูงอายุ เผยขณะนี้ทั่วโลกมีผู้สูงอายุประสบปัญหาสมองเสื่อม 26 ล้านคน ไทยมีเกือบ9 แสนคน ผลงานวิจัยล่าสุดพบ “การมีเซ็กส์เสมอต้นเสมอปลาย ” ช่วยให้สมองสดใสปิ้งปั๊ง ความจำดี สมองไม่เสื่อมเมื่อแก่ตัว วันนี้ (30 มีนาคม 2553) ที่ มูลนิธิโรคอัลไซเมอร์แห่งประเทศไทย อาคารซีเอ็มเอ็มยู ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. นายแพทย์ยุทธ โพธารามิก ประธานมูลนิธิโรคอัลไซเมอร์แห่งประเทศไทยพร้อมด้วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงนันทิกา ทวิชาชาติ แถลงข่าว เปิดตัวหนังสือ คัมภีร์แห่งความจำ (Memory Bible) ซึ่งแต่งโดยนายแพทย์แกรี่ สมอลล์ (Gary Small) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคทางสมองโดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ หนังสือแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยครั้งแรก และเป็นเล่มแรกในประเทศ โดย ศ.พญ.นันทิกา ทวิชาชาติ หนังสือเล่มนี้จะกระตุ้นเตือนสังคมไทยให้สนใจ หันมาเก็บรักษาสมองให้เป็นหนุ่มสาวเสมอ เพื่อป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้สมองเสื่อมในผู้สูงอายุ และสามารถพบได้ทั่วโลก จะได้นำไปสู่การเตรียมตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ จัดพิมพ์และจำหน่ายโดยมูลนิธิโรคอัลไซเมอร์แห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีวิวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย (TCELS) ราคาเล่มละ 300 บาท นายแพทย์ยุทธ โพธารามิก ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า โดยทั่วไปเมื่อมีอายุมากขึ้น จะปรากฏสัญญาณความชรา ได้แก่ ผมหงอก ผิวหนังเหี่ยวย่น ผมร่วง และยังมีโรคในสมองคือสมองเสื่อม ซึ่งเกิดจากเซลล์สมองเสื่อมหรือตายหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าสมองฝ่อ เป็นโรคของผู้สูงอายุ ทำให้สูญเสียความทรงจำ หากเป็นแล้วไม่ดูแลรักษา จะพัฒนาไปสู่โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเข้าขั้นรุนแรง พบได้ประมาณร้อยละ 70 ของผู้ป่วยสมองเสื่อมทั้งหมด ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าคนอายุ 65 ปีขึ้นไป ป่วยด้วยความจำถดถอยรุนแรง 10 ล้านกว่าคน และกลายเป็นโรคอัลไชเมอร์ ร้อยละ 10-15 ต่อปี โดยจะพบผู้ป่วยรายใหม่สูงขึ้นเป็น 2 เท่าในทุกๆ 5 ปี ในผู้ที่อายุ 65 และ 90 ปี ล่าสุดคาดว่าทั่วโลกจะมีผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 26 ล้านคน ส่วนในคนไทยผลสำรวจจาก ข้อมูลที่ได้ในการคัดกรองผู้สูงอายุ ของงานคัดกรองความจำ กรุงเทพมหานครฯ ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปี ขึ้นไปจำนวน 2,685 ราย พบว่า กลุ่มตัวอย่างดังกล่าว เป็นโรคสมองเสื่อม (Dementia) ถึงร้อยละ 31.2 และมีอาการบกพร่องทางพุทธิปัญญาในระดับน้อย (Mild Cognitive Impairment) ที่สามารถพัฒนากลายไปเป็นโรคสมองเสื่อมได้ถึง ร้อยละ 34 และร้อยละ 34.8 เป็นกลุ่มปกติ ยกตัวอย่างง่ายคือ ถ้าผู้สูงอายุเดินมา 10 คน ประมาณ 6 คน น่าจะมีความบกพร่องทางด้านความจำ โดยใน 3 คน เป็นโรคสมองเสื่อมแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากคาดว่าในอนาคตซึ่งจะมีผู้สูงอายุอายุยืนยาวมากขึ้น โรคนี้ก็อาจเพิ่มจนก่อให้เกิดปัญหาด้านการดูแลรักษาก็เป็นได้ โดยเฉพาะหากยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ที่ดีพอ อาจเข้าใจว่าเป็นการหลงลืมตามวัย และเมื่อปล่อยให้เป็นอัลไซเมอร์แล้ว ก็ยากต่อการดูแลรักษา ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้ป่วยจะเสียชีวิตอยู่ในช่วงประมาณ 8-10 ปี หลังการวินิจฉัย สิ่งที่ดีที่สุดคือพยายามป้องกันไม่ให้เป็นโรค ทางด้าน ศ.พญ.นันทิกา ทวิชาชาติ กรรมการเลขานุการมูลนิธิฯ กล่าวว่า โดยทั่วไปสมองคนเรา ประกอบด้วยส่วนของโครงสร้าง เซลล์ประสาท สารเคมี และกระแสไฟฟ้า ที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่สมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมความจำชื่อว่า ฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) ลักษณะคล้ายม้าน้ำ อยู่บริเวณใกล้ขมับ ผู้เชี่ยวชาญด้านความจำ ประเมินว่า ผู้ที่มีปัญหาความจำบกพร่อง ร้อยละ 40 เกิดขึ้นเมื่ออายุ50 ปี ร้อยละ 50 เกิดในช่วงอายุ 60 ปี และมากกว่าร้อยละ70 เกิดขึ้นเมื่ออายุ 70ปี ขึ้นไป โดยอายุสมองของคนเราแตกต่างกันตามพันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่สัมผัส สมองผู้หญิงจะเล็กกว่าสมองผู้ชาย มีน้ำหนักประมาณ 3 ปอนด์กว่า แต่สมองผู้หญิงมีประสิทธิภาพสูงกว่าชาย ศ.พญ.นันทิกา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเนื้อหาในหนังสือคัมภีร์แห่งความจำนั้น มีทั้งหมด 10 บท ความยาว 280 หน้า ในแต่ละบทนำเสนอผลการวิจัยต่างๆ ของนักวิจัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์ โดยนำเสนอเทคนิคพื้นฐานในการจำที่ดี 3 ประการคือ การสังเกตุ การบันทึกเป็นภาพความทรงจำในใจ และการเชื่อมโยงภาพข้อมูลเข้าด้วยกัน เพื่อให้ง่ายต่อการระลึก มีข้อมูลการวิจัยการรักษาความจำ ลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งนอกจากเรื่องอาหารการกิน การลดความเครียด การออกกำลังกาย การนอนหลับ ยารักษาโรคที่มีผลข้างเคียงเพิ่มความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์แล้ว ยังมีเรื่องเพศสัมพันธ์ด้วย โดยมีหลักฐานชี้ให้เห็นว่าการรักษาการมีเพศสัมพันธ์ มีส่วนช่วยให้สมองของคนเราสดใส คนที่มีเพศสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ชีวิต มีแนวโน้มที่จะมีร่างกายจิตใจกระฉับกระเฉงกว่า เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดรอฟิน ซึ่งป็นสารแห่งความสุข ออกมา การมีเพศสัมพันธ์ที่ดีอาจช่วยสนับสนุนเรื่องการทำหน้าที่ของสมองเมื่อเราอายุมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้อาจขัดกับความรู้สึกของคนไทย เนื่องจากส่วนใหญ่เชื่อว่า เมื่อแก่ตัวจะมีเรื่องดังกล่าวน้อย เพราะอายลูกหลาน หากใครมี อาจถูกมองว่าตัณหากลับ จากการวิจัยที่เป็นระบบ แสดงให้เห็นว่าทัศนคติและความสนใจในเรื่องเพศของคนเรานั้น จะสม่ำเสมอไปจนตลอดชีวิต ซึ่งจากการสำรวจชี้ให้เห็นว่าในกลุ่มของผู้สูงอายุยังมีความต้องการทางเพศ หากเวลา สถานที่ และคู่เหมาะสม ซึ่งการขาดคู่ที่เหมาะสมมักจะเป็นอุปสรรคต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีสำหรับผู้ใหญ่หลายๆคน โดยจากากรศึกษาพบว่าผู้ชายที่มีอายุยืนถึง 65 ปี หรือมากกว่า ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 ยังมีระดับฮอร์โมนเพศทีมีชื่อว่าเทสโทสเตอรโรนในระดับปกติ นอกจากนี้ ยังมีโรคต่างๆที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการสูญเสียความจำได้เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะหัวใจล้มเหลว เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคไข้หวัดใหญ่ ตับอักเสบ สมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ วัณโรค มะเร็งสมอง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคไทรอยด์ โรคลมชัก โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง โรคพาร์คินสัน โรคหลอดเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน โรคโลหิตจาง โรคไต การขาดวิตามินบี 1 บี ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการสมองเสื่อมได้ ศ.พญ.นันทิกากล่าวต่ออีกว่า สำหรับอาหารที่สามารถต้านโรคอัลไซเมอร์ มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า นิสัยการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นเวลานาน อาจช่วยชะลอความเสื่อมสมองได้ ชะลอการลดลงของความจำในอนาคตได้ มีข้อแนะนำดังนี้คือ ดื่มน้ำมากๆวันละ 6 แก้ว วางแผนอาหารมื้อต่างๆล่วงหน้า อย่ารอให้หิวมากๆ เพราะจะทำให้กินอาหารมากเกินขนาด ให้ใช้เครื่องเทศ สมุนไพร กระเทียม มีข้อมูลการวิจัยของนายแพทย์เกร็ก โคลและนายแพทย์แชลลี่ ฟร็อตซี่ที ที่ยูซีแอลเอ และศูนย์การแพทย์ทหารผ่านศึก พบว่าสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ในขมิ้นชันที่อยู่ในเครื่องเทศปรุงอาหาร สามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยลดการสูญเสียของจุดประสานประสาทในสมอง ศ.พญ.นันทิกา กล่าวต่อว่า สำหรับหนังสือ “คัมภีร์แห่งความจำ” นั้นมูลนิธิฯ ได้มอบหมายให้บริษัทหัสนัยอินเตอร์เนต เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย โดยสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงที่ Call Center 02-960-1155, 02-9600142, 082-7900889, 082-790-0898 หรือที่เว็ปไซต์ www.atriuminfo.tv รายได้จากการจำหน่ายจะมอบให้มูลนิธิฯ เพื่อนำไปสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิฯ ต่อไป 30 มีนาคม 2553 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-960-1155, 02-9600142, 082-7900889, 082-790-0898

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ