กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยเบื้องต้นมี 11 จังหวัด สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด เหลือ 4 จังหวัดที่ยังคงประสบอุทกภัย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนเร่งวางกระสอบทรายในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า อิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านประเทศไทยประกอบมีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้ทั่วทุกภาคเกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สำรวจไปยังจังหวัดต่างๆ เบื้องต้นพบว่า ระหว่างวันที่ 9 - 21 พฤษภาคม 2550 มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 11 จังหวัด 26 อำเภอ 6 กิ่งอำเภอ 93 ตำบล 349 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดลำปาง พิจิตร อุตรดิตถ์ แพร่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร อุทัยธานี สุพรรณบุรี นครปฐม ชัยนาท และชลบุรี ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 48,585 คน 13,153 ครัวเรือน มีบ้านเรือนราษฎรเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง และเสียหายบางส่วน 52 หลัง ถนน 139 สาย สะพาน 3 แห่ง ทำนบ 6 แห่ง วัด 2 แห่ง และสถานที่ราชการ 19แห่ง เสียหายใช้การไม่ได้ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 113,509 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 34,481,640 บาท ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังมีอีก 4 จังหวัด ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง ได้แก่ อุทัยธานี 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองอุทัยธานี และ อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดพิจิตร 4 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง โพทะเล วชิรบารมีและกิ่งอำเภอบึงนาราง จังหวัดนครปฐม 2 อำเภอ คือ อำเภอบางเลน และกำแพงแสน
สำหรับด้านการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัด พร้อมประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว พร้อมนำเครื่องสูบ 26 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัย ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีกในช่วง 1-2 วันนี้ สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ และ ได้จัดทำแนวกระสอบทรายในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา เพื่อป้องกันผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ระหว่างวันที่ 17-21 พ.ค. 50 รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 แล้ว