กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
“สนุกมากค่ะ” “มีความสุขมากครับ” “ได้พัฒนาตนเอง”...นี่คือหลากหลายเสียงของเยาวชนที่สะท้อนให้เห็นว่าค่ายแฟนต้ายุวทูต กิจกรรมรอบสองในการประกวด “โครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทยครั้งที่ 14 ประจำปี 2552 - 2553” ภายใต้หัวข้อ “ร่วมทำสิ่งดีๆ ที่แตกต่าง เพื่อเรา...เพื่อโลก” ที่จัดขึ้นโดยผู้ใหญ่ใจดีอย่าง กลุ่มธุรกิจ โคคา - โคลา ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) นั้น ประสพความสำเร็จอย่างดียิ่ง ที่นี่ไม่เพียงเป็นค่ายเรียนรู้ที่เติมเต็มประสบการณ์นอกห้องเรียนเท่านั้น หากยังเป็นโลกใบใหม่ที่สอนให้รู้จักการเปิดหัวใจในการอยู่ร่วมกัน
กว่า 200 ชีวิตกับช่วงเวลาตลอด 3 วัน 2 คืนที่ผ่านมาของเยาวชนผู้ผ่านเข้ารอบสองของโครงการแฟนต้ายุวทูต ใน 4 ภาค ได้แก่ ส่วนกรุงเทพฯ , ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ซึ่งได้จัดค่ายไปแล้วนั้น เต็มอิ่มไปด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และหยาดน้ำตาแห่งความประทับใจกับมิตรภาพใหม่ที่งอกงามท่ามกลางฐานกิจกรรมที่เน้นพัฒนาความฉลาด 8 ด้านหรือพหุปัญญา กีฬาฮาเฮ และกิจกรรมรอบกองไฟ รวมไปถึงยังได้เห็นศักยภาพของเยาวชนไทยในกิจกรรมทำดีฝึกจิตสาธารณะที่จัดขึ้นในแต่ละภาคซึ่งแตกต่างกันออกไป เช่น เยาวชนส่วนกรุงเทพฯ เพลิดเพลินกับการทำดีทาสีรั้วและปลูกต้นไม้ให้น้องๆ ที่โรงเรียนวัดนิเทศน์ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี, เยาชนจากภาคกลาง ได้เดินทางไปมอบความสุขและเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมแสดงกิจกรรมสุดหรรษาที่บ้านราชาวดีหญิง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี, เยาวชนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้มีโอกาสร่วมสร้างระบบประปา ทาสีแท็งก์น้ำเพื่อชุมชน และเปิดศูนย์เด็กทำดีมีของเล่น ที่บ้านลาน หมู่ 5 อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และเยาวชนภาคเหนือ ร่วมรณรงค์คัดแยกขยะ และปลูกต้นกล้วยจำนวน 150 ต้น และหญ้าบาน่าจำนวน 350 ต้น เพื่อเป็นอาหารช้าง ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง เป็นต้น ซึ่งน้องๆ ทุกคน ทุกภาค ล้วนขะมักเขม้นและให้ใจกับทุกกิจกรรมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หันไปทางไหนก็มีแต่รอยยิ้มที่เปื้อนใบหน้าตลอดเวลา
น้องแฟง — ด.ญ.จิดาภา สอนอุไร สาวสุดมั่นจากทีม “โลกยังสวย” โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ กรุงเทพฯ เผยความรู้สึกที่ได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตว่า “ค่ายแฟนต้ายุวทูตทำให้หนูมีความสามัคคี ใช้ไหวพริบปฏิภาณในการเข้าฐานกิจกรรมต่างๆ และมีความสุขมากที่ได้ไปทาสีรั้วโรงเรียนให้น้องๆ ที่ออกมาต้อนรับและยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้เรามีกำลังใจแม้แดดจะร้อนมาก นอกจากนี้ หนูยังได้ไปเที่ยวที่โค้กเวิลด์ ทำให้รู้ประวัติความเป็นมาตั้งแต่อดีตของโค้ก และยังได้เห็นขั้นตอนการผลิตที่น่าทึ่งด้วยค่ะ ทุกอย่างยิ่งใหญ่และเป็นระบบมากค่ะ ขอบคุณที่ให้โอกาสหนูได้มาเข้าค่ายครั้งนี้ สนุกมากค่ะ”
ขณะที่ น้องแก๊ก - ด.ช.กล้าเกิด ตรีวัฒน์สุวรรณ หนุ่มตัวโย่งจากทีม “CEE DEE” โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย กรุงเทพฯ เผยความรู้สึกที่ได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตว่า “ผมว่าค่ายแฟนต้ายุวทูตแตกต่างจากค่ายอื่น ที่นี่หลอมรวมความแตกต่าง สอนให้รู้จักคน เรามา 3 วัน แต่ได้มิตรภาพกลับไปไม่รู้จบ ที่สำคัญผมได้รู้จักตนเองและได้พัฒนาตนเองครับ”
ส่วน น้องเมย์ - ด.ญ.เสาวลักษณ์ มาเยอะ จากทีม “โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์)” 2 โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) จ.อ่างทอง เผยความรู้สึกที่ได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตด้วยรอยยิ้มว่า “ค่ายแฟนต้ายุวทูตทำให้หนูมีความมั่นใจในตนเอง ใช้ไหวพริบ และมีความพยายาม พร้อมกับฝึกการคิดแก้ปัญหา และทำงานเป็นทีม ไม่รู้สึกว่านี่คือการประกวดเลยค่ะ ทุกคนเป็นเพื่อนกันไปหมด และรู้จักการเผื่อแผ่ความสุข อย่างที่ไปทำกิจกรรมที่บ้านราชาวดีหญิงก็มีความสุขมากที่ได้มีโอกาสเป็นผู้ให้ โดยหนูได้เตรียมตุ๊กตาหมีไปให้น้องๆ ซึ่งน้องก็ขอบคุณและถามว่ารักหนูไหม หนูบอกไปว่ารัก แล้วน้องเขาก็ขอกอดหนูค่ะ”
สำหรับหนุ่มหล่อ น้องพล — ด.ช.ธีระพล เจนสาริกิจ จากทีม “K-PGF” โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา จ.กำแพงเพชร เผยความรู้สึกที่ได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตว่า “ค่ายแห่งนี้คือค่ายแห่งความรัก หลายอย่างในค่ายได้เปลี่ยนให้ผมพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ได้รู้ว่าเมื่อเป็นตัวของตัวเองและแสดงความสามารถออกมา ตรงนี้แหละคือเสน่ห์ที่จะทำให้เรามีเพื่อนครับ”
ด้าน น้องฟ้า — ด.ญ.เพียงฟ้า กล้าผจญ สาวยิ้มเก่งจากทีม “Three Angels” โรงเรียนดาราวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เผยความรู้สึกที่ได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตว่า “มาเข้าค่าย 3 วันแต่ว่าเราได้เพื่อนทั้งภาคเลยค่ะ สำหรับกิจกรรมทำดีก็ภูมิใจมากค่ะ รู้สึกดีที่ได้มีโอกาสได้ทำสิ่งดีๆต่อผู้อื่น ไม่ใช่แค่ช้างที่ได้ประโยชน์มีอาหารกินเท่านั้น แต่การปลูกต้นกล้วยยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มออกซิเจนให้โลกด้วยค่ะ ในความคิดของฟ้าค่ายแฟนต้ายุวทูตได้พัฒนาเราทั้งร่างกายและจิตใจ มีสติและคิดอย่างสร้างสรรค์ร่วมทำสิ่งดีๆ ที่แตกต่าง ทำให้เรามีความสุขมากๆ ในการเข้าค่ายครั้งนี้ค่ะ”
ปิดท้ายที่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม น้องแพม — ด.ญ.นิธินาถ สุดนนท์ จากทีม “The First” โรงเรียนพระกุมารร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เผยความรู้สึกที่ได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตว่า “ได้เรียนรู้ความสุขเกิดขึ้นได้จากการแบ่งปัน เมื่อเราแจกของขวัญให้กับน้องๆ ที่บ้านลาน และยังได้มีโอกาสทาสีศูนย์เด็กทำดีมีของเล่นด้วย ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำเลยค่ะ”
ธงชัย ศิริธร ผู้อำนวยการกิจกรรมสังคมและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่า “กิจกรรมในรอบสองนี้จะเป็นกิจกรรมนอกห้องเรียน เป็นประสบการณ์ตรง ที่ถูกออกแบบให้มีความเหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กวัยรุ่นตอนต้น โดยมุ่งเน้นและพัฒนาเด็กอย่างจริงจังภายในค่าย ซึ่งไม่เพียงอัดแน่นไปด้วยความรู้ แต่ยังมีการฝึกพัฒนาการทางร่างกาย ความคิด และอารมณ์ ตลอดจนทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับฐานกิจกรรมที่เน้นพัฒนาพหุปัญญา สนุกสนานกับกีฬาฮาเฮ และหรรษากับกิจกรรมรอบกองไฟ นอกจากนั้นเด็กๆ จะได้แสดงความสามารถทางศิลปวัฒนธรรมไทย พร้อมร่วมกิจกรรมทำดีบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมในภูมิภาคของตนอีกด้วยเด็กๆ จะได้เพื่อนใหม่ มีการแบ่งปัน มีความรัก การให้อภัย เอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น นำพาไปสู่การเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ เติบโตไปแล้วมีความสุขในอนาคต“
ร่วมติดตามและเป็นกำลังใจให้น้องๆ เยาวชนอีก 2 ภาคที่เหลือ ได้แก่ ภาคตะวันออก ในวันที่ 23-24 เมษายน ณ สโมสรสระว่ายน้ำ อู่ราชนาวี มหิดลอดุลยเดช จ.ชลบุรี และปิดท้ายที่ภาคใต้ ในวันที่ 6-8 พฤษภาคม ณ สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จ.สงขลา พร้อมร่วมลุ้นว่าทีมเยาวชนจากโรงเรียนใดจะผ่าน 10 ทีมสุดท้ายของแต่ละภาคเข้าสู่รอบตัดเชือกที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน — ต้นกรกฎาคมศกนี้ อีกไม่นานเกินรอ...สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2984-2745 และ 0-2984-2742 หรือ www.fyathai.com
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา