กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--SCG
ทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้ ดิน และน้ำมีความสำคัญมากเพียงใด หลายคนอาจทราบกันดี แต่น้อยคนนักที่มีโอกาสเข้ามาสัมผัสและดูแลทรัพยากรเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง ในวันนี้เยาวชนผู้มีใจรักวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ SCG Sci-Camp พร้อมกับนำสิ่งที่เรียนรู้มาพัฒนาสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าชื่นชม
กิจกรรม SCG Sci-Camp รุ่นที่ 21 ภายใต้แนวคิด “ภูมิปัญญาท้องถิ่น พิทักษ์ดินและน้ำอย่างยั่งยืน” จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง เอสซีจี คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย คัดสรรเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีใจรักด้านวิทยาศาสตร์ จำนวน 100 คนจากทั่วประเทศ มาร่วมค่ายเรียนรู้ทุกสิ่งรอบตัวในโลกวิทยาศาสตร์ที่ไม่จำกัดเพียงความรู้ในห้องเรียน เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนสนใจวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าบ่มเพาะให้เยาวชนเป็นทั้ง “คนเก่งและดี” กันเสียแต่ตอนนี้เลย
ตลอด 8 วัน 7 คืนในค่าย อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมแสนสนุก ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ ระหว่างทำกิจกรรมทั้งในห้องเรียน และนอกสถานที่ ตลอดจนทัศนศึกษาดูงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เยี่ยมชมโรงงานอันทันสมัยของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย(แก่งคอย) จำกัด ในเอสซีจี ซิเมนต์ นอกจากจะได้ศึกษาการทำเหมืองอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังได้เรียนรู้วิธีการสร้างฝายชะลอน้ำตามแนวพระราชดำริ ซึ่งทำให้ธรรมชาติมีความสมดุล และสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืนอีกด้วย
น้องดรีม - เพ็ญพิชชา พิมลเอกอักษร จากโรงเรียนถาวรานุกูล จังหวัดสมุทรสงคราม พูดถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ตื่นเต้นกับกิจกรรมในค่ายและคิดว่าสามารถนำความรู้กลับไปใช้ที่บ้านได้ จากที่ได้ศึกษาเรื่องทรัพยากรน้ำ ต่อไปถ้าพบแหล่งน้ำที่มีปัญหา ก็หาทางแก้ไขได้ เช่น ถ้ามีปริมาณออกซิเจนในน้ำน้อย ก็ใช้กังหัน และถ้ามีปริมาณผักตบหรือขยะในน้ำเยอะ ก็เก็บออกเพื่อให้แสงแดดส่องผ่านได้ หากทำคนเดียวไม่ไหวก็รวมพลังกันตั้งเป็นชมรมอนุรักษ์น้ำขึ้นมา จะได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือค่ะ ส่วนด้านทรัพยากรป่าไม้ แค่เราเริ่มที่ปลูกต้นไม้กันคนละต้นก็ยังดี เพราะสิ่งแวดล้อมผูกพันกับเรามานานแล้ว ต้องเริ่มอนุรักษ์ตั้งแต่วันนี้ให้คงอยู่กับเราสืบไป เพื่อลูกหลานของเราค่ะ”
น้องรอน - ขจรศักดิ์ แดงโชติ จากโรงเรียนบางสะพานวิทยา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่า “การเข้าค่ายครั้งนี้สนุกมาก เพราะได้เจอเพื่อนใหม่หลายคน แล้วยังได้รับความรู้เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำมาพัฒนาสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตัวเองได้ ทรัพยากรธรรมชาติมีความสำคัญและเชื่อมโยงกันหมด เราต้องใช้ประโยชน์จากน้ำแทบทุกกิจกรรม ดินก็ใช้ในการเพาะปลูก ถ้าดินไม่ดี ผลผลิตจากการเพาะปลูกก็จะไม่ดีตามไปด้วย เห็นได้ว่าเราขาดทรัพยากรใดไปไม่ได้เลย แต่ปัจจุบันนี้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก รวมทั้งมีการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป เลยอยากให้ทุกคนหันมารักษาสิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจัง เพราะเราต้องอาศัยประโยชน์จากมันไปอีกนาน”
น้องจ๋า - ญาณินี พรหมงาม จากโรงเรียนชลกันยานุกูล จังหวัดชลบุรี เล่าว่า “ดีใจที่ได้เข้าร่วมค่ายวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้ เพราะได้ทั้งความรู้ด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ได้ทำหลายสิ่งที่ยังไม่เคยทำมาก่อน เช่น การทดลองตรวจค่าออกซิเจนในน้ำ ได้ใช้อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ไม่เคยใช้ จากที่ชอบวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว ก็ยิ่งชอบมากขึ้นเพราะได้ลงมือปฎิบัติจริง และสิ่งที่ทดลองทั้งหมดก็ล้วนเป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”
น้องจ๋าฝากถึงเพื่อนๆ ไว้อีกด้วยว่า “อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม เพราะเราก็ใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันมาเยอะแล้ว ควรดูแลรักษามันบ้าง และถ้ามีโอกาส อยากให้เพื่อนๆ ลองเข้าค่ายดูสักครั้ง เพราะกิจกรรมจะช่วยพัฒนามุมมองความคิด และยังเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่หาซื้อไม่ได้อีกด้วย “
SCG Sci-Camp ที่ดำเนินมาถึงรุ่นที่ 21 โดยมีเยาวชนสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นว่าความสนใจด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชนไทย ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด หากมีกิจกรรมดีๆ มารองรับการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย พร้อมกับส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ควบคู่กับการปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อได้ว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปได้ไกลและมั่นคงแน่นอน