“สุริวิภา”สัมผัสประสบการณ์เป็นเจ้าหญิง ที่ บาราย สปา ของหญิงเก่ง วรรณสมร วรรณเมธี

ข่าวทั่วไป Tuesday July 10, 2007 08:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--เจเอสแอล
คงไม่มีสถานที่ไหนที่ทำให้ หนูแหม่ม-สุริวิภา กุลตังวัฒนา เอาแต่ร้อง “อู้ฮู้ๆ” ได้มากเท่าการไปเยือน “บาราย สปา” อีกแล้ว นั่นเป็นเพราะหญิงเก่ง วรรณสมร วรรณเมธี น้องนุชสุดท้องของ ‘วัธนเวคิน’ ได้เนรมิตให้พื้นที่ส่วนติดโรงแรมไฮเอท รีเจนซี่ หัวหิน กลายเป็นสระสรงของนางอัปสรา ที่มีความยิ่งใหญ่ งดงาม ตระการตาและกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ด้วยเงินลงทุนเกือบ 500 ล้านบาท เลิศหรูจนได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 25 โรงแรมที่น่าจับตามองมากที่สุดในโลก!! สมความตั้งใจที่ วรรณสมร ต้องการทำสปาระดับเวิร์ดคลาส
วรรณสมร วรรณเมธี รับหน้าที่ไกด์กิตตมศักดิ์นำทาง หนูแหม่ม เข้าสู่บาราย สปา ผ่านทางเดินที่เกือบมืดมิดมีเพียงแสงรำไรอยู่ปลายทาง โชคดีที่หนูแหม่มเลือกทางออกได้ถูกต้อง จึงเป็นเส้นทางนำสู่สระน้ำขนาดใหญ่ใจกลางสถาปัตยกรรมแบบขอมโบราณที่หอมอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์ แต่ละจุดที่ผ่านล้วนมีความงดงามของศิลปะแทรก ตลอดทางไปจนถึงห้องทรีทเมนท์และห้องสปา ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ วรรณสมร เล่าว่า “เราตั้งใจจะให้บารายเป็นหนึ่งเดียวที่เหนือกว่าคนอื่น ที่สำคัญต้องมีความเป็นไทยแข่งขันได้กับระดับโลก จึงนำแนวคิด Art of Architecture มาใช้ในการออกแบบ ซึ่งโชคดีได้คุณเล็ก-เมธา บุนนาค มาเป็นสถาปนิกให้ เราสร้างบรรยากาศให้แขกผู้มาเยือนรู้สึกราวกับได้มีการเดินทางที่วิเศษ แขกจะได้ผ่านการสร้างสรรค์งานในรูปแบบศิลปะสถาปัตยกรรม เป็นความลึกลับที่งดงามน่าค้นหา เสมือนทิ้งโลกไว้เบื้องหลัง เดินเข้ามาสู่จินตนาการ หลายๆจุดใช้แสงธรรมชาติสร้างให้เห็นเป็นมิติ เป็นอิสระจากทุกอย่าง และสนุกสนานกับสีแสงที่ลอดผ่านกระจกสี บางจุดแสดงถึงความรุ่งเรืองและการรู้แจ้ง บางจุดเป็นความเรียบง่ายที่น่าทึ่ง มีส่วนของนางอัปสราผู้เป็นตัวแทนความงดงามอยู่ให้ค้นหาในจุดของสปา” ห้องสปาที่เปิดให้หนูแหม่มเยี่ยมชม งดงามเสียจนทำให้หนูแหม่มเคลิบเคลิ้มราวกับได้เป็นเจ้าหญิง ทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จสรรพอยู่ในห้องเดียว ทั้งนวดไทย สปา จากุซซี่ ห้องวารีบำบัดนวดตัวด้วยสายน้ำ และอื่นๆที่ต้องการ ปิดท้ายด้วยการนั่งจิบเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่บ้านแม็คฟาเรนหลังเก่าแก่อายุร่วม 80 ปี ใกล้สระว่ายน้ำสไตล์สวยแอบอิงธรรมชาติสุดๆ
“สุริวิภา” จึงต้องเจาะลึกชีวิต นักบริหารโรงแรมมือฉมังคนนี้ ที่กล้าลงทุนถึง 500 ล้านบาท “ดิฉันเป็นลูกคนสุดท้อง แต่พ่อแม่ไม่ได้สปอยเลย ได้ไปอยู่ไฮสคูลที่อเมริกากับพี่ๆ จนช่วงเรียนมหาวิทยาลัย คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้ว อยากหางานทำดีกว่าแบมือขอเงิน แต่หลายบริษัทต้องการ กรีนการ์ดซึ่งเราไม่มี จึงไปสมัครงานที่มหาวิทยาลัย ยากมากกว่าเขาจะยอมรับ ให้เป็นที่ปรึกษาแก่คนที่อยู่
ในหอพักนักเรียนต่างประเทศ ตอนนั้นรู้สึกดีใจว่าเราได้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่น ได้รู้จักคนมากขึ้น ได้เรียนรู้วัฒนธรรม แต่พอปิดเทอมซัมเมอร์ก็อยากได้ประสบการณ์มากขึ้นอีก ขอคุณพ่อคุณแม่ไปเรียนรู้ชีวิตที่จีน ซึ่งตอนนั้นประเทศยังกึ่งๆปิดกึ่งๆเปิด ไปอยู่ 2 เดือนกับครอบครัวคนจีน ยอมรับว่าเครียดจัดเลย ไม่สะดวกสบาย ทั้งเรื่องห้องน้ำ อากาศร้อนมาก ฝุ่นเยอะ แต่สักอาทิตย์หนึ่งก็ปรับตัวได้ ที่สำคัญคนที่นั่น น่ารักมาก ประทับใจมากและยังอยู่ในใจมาตลอด 30 ปี เขาดูแลเราดีมาก มีคนรถคนติดตามพาเที่ยว 2 คน แล้วยังมีลูกชายของครอบครัวนั้นตามด้วย บางวันขอเขาใช้ชีวิตปกติขึ้นรถเมล์เอง แต่เขาก็ห่วงให้คนคอยแอบตามห่างๆ อีก ถือว่าได้ประสบการณ์การเรียนรู้หลายอย่างที่ให้แนวคิดสำคัญ คือ ความสุขที่เราได้รับทางจิตใจสำคัญกว่าความสุขที่ได้จากวัตถุ”
“ดิฉันจบปริญญาตรีทางด้านรัฐศาสตร์การทูต (International relation) ปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์ เพราะตอนนั้นพี่ๆที่บ้านเรียนด้านธุรกิจกันหมดแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้เรียนด้านบริหารโรงแรมเลย ตอนจบได้ทำงานการเงินที่เกียรตินาคินและภัทร จนติตดามสามีไปอยู่ฮ่องกง ระหว่างนั้นทางครอบครัว เริ่มทำโรงแรมที่หัวหินไปได้ปีหนึ่งแล้วหยุด ก็เลยดึงดิฉันกลับมาช่วย ตอนนั้น ไฮแอท รีเจนซี่ หัวหิน เริ่มฐานรากไปบางส่วนแล้ว ต้องก่อสร้างต่อจากสิ่งที่มีอยู่ ยอมรับว่ายากมาก ต้องศึกษาหาทีมเวิร์คที่ดี หา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยเป็นจุดๆ หาผู้รับเหมาย่อยๆ ต้องคุยกับซับพลายเออร์เอง ถือว่าได้เรียนรู้ค่อนข้างมาก จนมาถึง เดอะ บาราย ก็เลยคิดว่าหมู แต่ปรากฎว่าต้องใช้ประสบการณ์จากไฮเอทและความรู้เก่าด้านไฟแนนซ์มาอย่างเต็มที ต้องศึกษาความเป็นไปได้ การบริหารความเสี่ยง บริหารการเงิน จากนั้นต้องคิด คอนเซ็ปท์และกลยุทธ์ทางธุรกิจ จากนั้นก็ต้องหาผู้เชี่ยวชาญมาร่วมทีม แต่ เดอะบาราย มีปัญหามากกว่านั้น เพราะเราต้องการความพิเศษและรักษาความเป็นศิลปะให้สวยงาม ซึ่งทำให้มีปัญหาด้านงบประมาณ จึงไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่สนุกค่ะ นับตั้งแต่พัฒนาแนวคิดเจนเสร็จก็เกือบ 4 ปี โชคดีที่ได้ทีมงานที่ดี จึงออกมาได้อย่างที่ตั้งใจ”
วรรณสมร ยังทิ้งท้ายถึงหลักสำคัญในการทำงานให้ “สุริวิภา” ว่า “การทำธุรกิจจะต้อง กล้าคิดและกล้าทำในสิ่งที่แตกต่างไม่เหมือนใคร”
ติดตามชมได้ใน “สุริวิภา” พุธที่ 11 กรกฎาคมนี้ เวลาดีสี่ทุ่ม โมเดิร์นไนท์ทีวี
ต้องการข้อมูลเพิ่มติดต่อ วิรดา อนุเทียนชัย (วิ) 08 - 1804 - 5493
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ