จีเอ็ม เอสเอไอซี เปิดตัวเวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 มุ่งหน้าสู่ปี 2030

ข่าวยานยนต์ Thursday May 6, 2010 14:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--เวเบอร์ แชนวิค เซี่ยงไฮ้- เจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้ร่วมมือกับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งนครเซี่ยงไฮ้ หรือ เอสเอไอซี ในการจัดแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านยนตรกรรมที่งานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ซึ่งได้เปิดให้แก่สาธารณชนเข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมอย่างล้นหลาม ด้วยรูปแบบงานเอ็กซ์โป 2010 กับแนวคิด “เมืองที่ดีกว่า ชีวิตที่ดีกว่า” จีเอ็มและเอสเอไอซี ได้ร่วมกันรังสรรค์อาคารจัดแสดงยนตรกรรมภายในงานนี้ พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่อันน่าตื่นเต้นและสมบูรณ์แบบให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ด้วยการสื่อให้เห็นถึงการขับขี่ที่ปลอดภัยแห่งโลกอนาคตในปี 2030 “นี่คือวิสัยทัศน์เพื่อการขับขี่แห่งอนาคตที่ปราศจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ปราศจากมลภาวะทางอากาศ ปราศจากอุบัติเหตุ ปราศจากปัญหาการจราจร และในขณะเดียวกันยังแฝงไว้ด้วยความสนุกสนานและน่าสนใจ” เควิน เวลล์ ประธานและกรรมการบริหาร จีเอ็ม กรุ๊ป ประเทศจีน กล่าว “เรามีความภูมิใจที่จะนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้ให้เป็นจริงขึ้นมาได้ ณ อาคารจัดแสดงของพวกเรา ภายในงานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010” จีเอ็ม เอสเอไอซี พาวิลเลียน ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอกมาจากธรรมชาติผนวกกับรูปทรงของยานพาหนะอันแสดงให้เห็นถึงการมุ่งหน้าสู่อนาคต โดยโครงสร้างได้ถูกออกแบบให้มีลักษณะบิดเกลียวซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงพันธะสัญญาและการมุ่งไปข้างหน้า เน้นที่ถนนซึ่งเชื่อมต่อกันเพื่อมอบอนาคตที่สดใสให้แก่ผู้ขับขี่ทุกๆท่าน พร้อมกันนี้ผู้เยี่ยมชมจะรู้สึกประทับใจกับผนังภายในตัวอาคารที่ประกอบขึ้นโดยใช้แผ่นอลูมิเนียมทรงโค้งถึง 4,000 แผ่น อีกหนึ่งจุดเด่นที่สามารถพบเห็นได้ที่ด้านหน้าของอาคารจัดแสดง ได้แก่ จอภาพแอลอีดี ขนาด 300 ตารางเมตร จอภาพนี้มีชื่อว่า “แอนเจิลส์ อาย” ซึ่งจะฉายวีดีโอ รูปภาพ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่างๆ และยังคอยให้ข้อมูลคำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้เข้าชมงานให้ทราบถึงการแสดงต่างๆ ภายในอาคาร ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ภายใต้แนวคิด “มุ่งหน้าสู่ปี 2030” บนเส้นทางไปสู่ปี 2030 เริ่มด้วยส่วนแรก ผู้เข้าชมจะได้พบกับพัฒนาการอันน่าทึ่งของนครเซี่ยงไฮ้ตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา อันจะแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และปริมาณที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ โดยได้แบ่งพื้นที่การแสดงออกเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย วิกฤตการณ์เมื่อขาดแคลนน้ำมัน ปัญหาด้านการจราจร ปัญหาด้านที่จอดรถ อุบัติเหตุบนท้องถนน และอุปสรรคในการขับขี่ พร้อมกันนี้ผู้เข้าชมงานจะได้รับทราบถึงวิธีการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคเหล่านี้ ด้วยการขับขี่อย่างยั่งยืนด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อโครงข่าย และการขับขี่แบบอัตโนมัติ นับถอยหลังสู่ 2030 สำหรับส่วนการแสดงหลัก ผู้ร่วมงานจะได้รับชมภาพยนตร์จากจอโค้งขนาดใหญ่ 4 จอ โดยมีความสูงถึง 6.5 เมตร กว้าง 38 เมตร โดยทั้ง 4 จอ จะมีมุมองศาในการรับชมที่กว้างถึง 144 องศา โดยที่นั่งสำหรับชมภาพยนตร์จะเป็นแบบเคลื่อนไหวได้ จึงทำให้ผู้เข้าชมสามารถรู้สึกถึงความมีส่วนร่วมไปกับภาพยนตร์ที่กำลังชมอยู่ ซึ่งอำนวยการสร้างโดยทีมกำกับหนังภาพยนตร์ฝีมือระดับโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า “มุ่งสู่ปี 2030” ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงการใช้พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อโครงข่าย และการขับขี่แบบอัตโนมัติ เพื่อการอยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์ชาติกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เอสเอไอซีและจีเอ็ม ได้เผยให้เห็นถึงระบบคมนาคมแห่งอนาคตที่นำพาผู้คนและยานพาหนะส่วนบุคคลให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีความยาวเพียง 10 นาที ในช่วงท้ายของภาพยนตร์ จอทั้งสี่จะถูกพับเก็บและเวทีทั้ง 4 ด้านจะเคลื่อนเข้าหากัน เพื่อเปลี่ยนเป็นเวทีขนาดใหญ่ และตรียมความพร้อมสำหรับการแสดงบนเวทีที่สอดประสานกับการโชว์รถต้นแบบ รถที่ผู้ชมได้เห็นในภาพยนตร์จะมาปรากฏตัวอยู่บนเวที พร้อมกับดนตรีที่บรรเลงประกอบเพื่อสร้างบรรยากาศ รวมทั้งยังแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ได้รับชมในภาพยนตร์นั้นกำลังจะเกิดขึ้นอยู่บนท้องถนนจริงได้ นอกจากนี้ รถต้นแบบ อันได้แก่ อีเอ็น-วี เย็ส และ เชลล์ จะถูกเผยโฉมให้เห็นเป็นครั้งแรกที่นี่ โดยอีเอ็น-วี เป็นยานพาหนะที่พัฒนาขึ้นจากการผสมผสานร่วมกันระหว่างระบบโครงข่าย ระบบพลังงานไฟฟ้า และระบบการสื่อสารจนก่อให้เกิดสายพันธุ์รถยนต์ใหม่ รถพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนสองล้อที่มีการติดตั้งระบบขับขี่แบบอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเมืองหลวงที่มีประชากรจำนวนมาก เย็ส เน้นแนวคิดของเอสเอไอซี ที่ต้องการเห็นยานยนต์ที่สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์และโมเลกุลของน้ำในอากาศได้ดังเช่นใบไม้ และแปรเปลี่ยนมวลสารเหล่านั้นให้กลายเป็นพลังงานสำหรับรถยนต์โดยผ่านกระบวนการทางเคมี โดยรถจะสามารถขับเคลื่อนได้ทั้งในวันที่มีแดดจัดและวันที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ในขณะเดียวกันยังสามารถปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานลม ซึ่งถือเป็นอีกทางหนึ่งพลังงานทางเลือกอีกด้วย จึงนับได้ว่านี่คือยานยนต์ที่ปราศจากมลภาวะทางอากาศอย่างแท้จริง ส่วน เชลล์ ก็ได้รับการพัฒนาโดย เอสเอไอซี ด้วยเช่นกัน แต่มันไม่ได้ถูกพัฒนาให้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ แต่มันยังเป็นทั้งห้องนอน ห้องทำงาน และสถานที่ออกกำลังกายในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ทั้งสององค์กรยังมุ่งแสดงให้เห็นว่าเมืองในอนาคตนั้นจะแตกต่างจากเมืองในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง ระบบโครงข่ายการจราจรจะเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์แบบ ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างกันและทางยกระดับต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ผสมผสานควบคู่ไปกับระบบรางรถไฟและถนนสำหรับรถยนต์ ในอนาคตระบบการคมนาคมขนส่งจะอาศัยพลังงานจากไฟฟ้าเป็นหลัก โดยยานพาหนะ ตลอดจนอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และระบบสาธารณูปโภคจะสามารถเชื่อมติดต่อสื่อสารระหว่างกัน รวมถึงยังจะเป็นยุคที่ปัญหาการติดขัดและอุบัติเหตุด้านการจราจรจะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าจากอดีต ปี พ.ศ.2573 ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับส่วนแสดงสุดท้าย จีเอ็ม และ เอสเอไอซี ได้จัดเตรียมยนตรกรรมแห่งโลกอนาคตคันเดียวกับในภาพยนตร์ที่เพรียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำยุคต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิถีของยนตรกรรมแห่งโลกอนาคตที่แท้จริง โดยส่วนจัดแสดงสุดท้ายนี้ได้ถูกแบ่งออกเป็น 8 ส่วน ได้แก่ ส่วนต้อนรับ ส่วนศูนย์กลางการจราจร ส่วนชุมชนย่อย ส่วนย่านธุรกิจ ส่วนวิถีชีวิตในอพาร์ทเม้นท์ ส่วนหน้าต่างสู่อนาคต ส่วนวิสัยทัศน์แห่งอนาคต และส่วนจำหน่ายของที่ระลึก โดยส่วนการแสดงเหล่านี้จะแสดงให้ผู้เข้าชมได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของยานพาหนะต่อชีวิตของผู้คน ควบคู่ไปกับการนำเสนอวิสัยทัศน์ของ เอสเอไอซี และ จีเอ็ม ที่มีต่อการคมนาคมภายในเมืองของปี 2030 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ส่วนวิสัยทัศน์แห่งอนาคต” จะมีความโดดเด่นที่ผู้เข้าชมงานจะมีโอกาสได้สัมผัสกับโลกอนาคตแห่งปึ 2030 ด้วยการถ่ายภาพแห่งอนาคตและโหลดภาพเหล่านั้นผ่านทางเว็บไซต์ และปิดท้ายด้วยการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกเพื่อเก็บความประทับใจในการเดินทางสู่โลกอนาคตในครั้งนี้ เยี่ยมชม เอสเอไอซี จีเอ็ม พาวิลเลี่ยน สำหรับผู้ที่สนในและต้องการเยี่ยมชม เอสเอไอซี จีเอ็ม พาวิลเลียน ท่านสามารถจองบัตรเข้างานได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ www.our2030.com ทั้งนี้ตั๋วเข้างานแบบช่องทางด่วนพิเศษนี้มีจำหน่ายแล้วสำหรับผู้ที่จองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมงานสามารถเลือกที่จะจองบัตรผ่านทางเว็บไซต์ หรือ ซื้อบัตรที่หน้างานได้ด้วยเช่นกัน เซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 จะจัดแสดงระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม จนถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2553 นี้ เกี่ยวกับ เอสเอไอซี เอสเอไอซี เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีน ซึ่งทำธุรกิจผลิต จำหน่าย วิจัยและพัฒนารถยนต์ ทั้งรถยนต์โดยสาร ยานยนต์เพื่อการพานิชย์ รวมทั้งชิ้นส่วนรถยนต์และบริการที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ บริการด้านธุรกิจยานยนต์และการเงิน ในปี พ.ศ.2552 กลุ่ม เอสเอไอซีมียอดจำหน่ายรถยนต์สูงสุดในประเทศจีนด้วยจำนวนรถยนต์ที่จำหน่ายได้ถึง 2.72 ล้านคัน บริษัทยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลำดับ 359 ของโลกในฐานะบริษัทที่ทำรายได้สูงที่สุดใน 500 ลำดับแรกของโลกในปีที่แล้วโดยนิตยสารฟอร์จูน เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ จีเอ็ม มีพนักงาน 217,000 คนใน 140 ประเทศทุกในภูมิภาคทั่วโลก จีเอ็ม มีฐานการผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพอยู่ใน 34 ประเทศ และจำหน่ายรถแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต เอฟเอดับเบิลยู จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเด้น โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูหลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี แผนกออนสตาร์ของจีเอ็ม นั่นถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย และการให้บริการข้อมูลในรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ดำเนินงานแทนเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม ใหม่ คลิกเข้าชมได้ที่ www.gm.com สำหรับข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ปภาดา ตวงหิรัญวิมล หรือสถาปนา กาญจนประกร เวเบอร์ แชนวิค บริษัท แมคแคน เวิลด์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02 343 6057 อีเมล์: Paphada@webershandwick.com, Satapana@webershandwick.com หรือ ศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2791-3400 โทรสาร 0-2937-0171 อีเมล์: sasinan.allmand@gm.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ