กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
DAY TRADER
GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18630 — 18780 ขายในช่วงราคา 19020 - 19100
GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18670 - 18820 ขายในช่วงราคา 19050 — 19120
SWING TRADER
ทิศทางราคาทองคำระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น โดยมีการแกว่งตัวอย่างมากตามแนวการทำกำไรและมีสัญญาณOver Bought ใน OSCILLATOR ระวังราคาทองคำอาจจะมีการกลับตัวหรือพักฐานได้ ราคาทองคำมีแนวรับ-แนวต้านที่ 1200-1260 คำแนะนำนักลงทุนรายวันซื้อขายตามการแกว่งตัวของตลาด นักลงทุนรายสัปดาห์ขายทำกำไร ปิดLONG POSITIONไปก่อน แต่ยังไม่แนะนำให้เปิดSHORT POSITION
GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18850 รอขายที่ระดับ 19080
GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18880 รอขายที่ระดับ 19090
ปัจจัยสำคัญ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เพราะไม่มั่นใจว่ามาตรการรัดเข็มขัดของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซและสเปน จะสามารถยับยั้งวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปได้
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 7 พ.ค. พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 362.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนETFทองรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ถือครองทองคำแท่ง 1,209.50 ตัน ณ วันที่ 12พ.ค. เพิ่มขึ้น 17.35 ตันจากระดับ 1,192.15ตันของวันที่ 11พ.ค.
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,228 $ ส่วน Gold Future M10 เปิดที่ 18,740 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 17,650 ปรับขึ้น 250 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำในช่วงนี้มีทิศทางเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทำจุดสูงสุดในรอบปีนี้ที่ระดับ 1,234 $ โดยในช่วงเช้าราคาทองคำยังมีทิศทางเป็นขาขึ้น ในช่วงบ่ายราคายังปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงระดับ 1,243 $ ปิดตลาด Gold Future M10 ปิดตลาดที่ 18,940 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 100 บาท อยู่ที่ 18,750 บาท นักลงทุนเข้าซื้อขายทำกำไร ตามภาวะขาขึ้นของ Gold Spot
NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1228 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1227 - 1247 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1245 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวดีดกลับขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1233 - 1248 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1238.9 เหรียญ
สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959
ข้อมูลทองคำวันนี้
? ราคาสมาคม เปิดที่ 18,650 - 18,750
? ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,237
? อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.27 — 32.34
? GFM10 Hi- Low 18,950 — 18,710 ปิดที่ 18,940
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.ทะยานขึ้น 22.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,243.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,227.20-1,249.20 ดอลลาร์ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เพราะไม่มั่นใจว่ามาตรการรัดเข็มขัดของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงกรีซและสเปน จะสามารถยับยั้งวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปได้ ขณะที่สัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในแวดวงอุตสาหกรรม ทะยานขึ้น หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมในหลายประเทศฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
พุ่งขึ้น 148.65 จุด หรือ 1.38% ปิดที่ 10,896.91 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.88 จุด หรือ 1.37% ปิดที่ 1,171.67 จุด ขานรับข่าวรัฐบาลสเปนประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่ครอบคลุมถึงการลดยอดขาดดุลงประมาณ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่ายุโรปจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์การเงินไปได้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้
น้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 72 เซนต์ ปิดที่ 75.65 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 74.75 ดอลลาร์ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะดีมานด์พลังงานหดตัวในสหรัฐ
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 13 พ.ค. ซื้อเข้า 17.35 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,192.15 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,209.5 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินยูโร และไม่มั่นใจว่ายุโรปจะสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตการณ์การเงิน แม้รัฐบาลสเปนประกาศใช้มาตรการรัดเข็มขัด และสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป รายงานว่าเศรษฐกิจยุโรปขยายตัวขึ้นก็ตาม ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.21% แตะที่ 1.2626 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2653 ยูโร/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.2658 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 93.170 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.680 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 93.22 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.27-32.35 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.22-32.29 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
? รัฐบาลสเปนประกาศใช้มาตรการลดการขาดดุลงบประมาณขั้นเฉียบขาด รวมถึงการลดเงินเดือนข้าราชการเฉลี่ย 5% ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีนี้ และระงับการขึ้นเงินเดือนในปี 2554 ซึ่งรัฐบาลสเปนคาดว่าจะช่วยลดรายจ่ายได้มากกว่า 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.9 หมื่นล้านดอลลาร์) ภายในระยะเวลาสองปี ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความพยายามล่าสุดเพื่อรับประกันว่าสเปนจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับกรีซ โดยปัจจุบัน สเปนมียอดขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ 11% ของจีดีพี
? นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษกล่าวว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะต้องการรอดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้
? กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 7 พ.ค. พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 362.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
? สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร 16 ประเทศประจำไตรมาสแรกของปี 2553 ขยายตัว 0.2% จากไตรมาสสี่ปี 2552 ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคส่งออกช่วยชดเชยวิกฤตหนี้กรีซและการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ยังซบเซา