กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--IR PLUS
'พีท ริมชลา'ผู้บริหาร บมจ.แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ เล็งเพิ่มฐานการผลิตเจาะแหล่งลงทุนตลาดนอก-เน้นส่งออกผลิตภัณฑ์ High Margin รับมือการเมืองป่วน หวั่นระยะยาวผู้ผลิตแห่ย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ ล่าสุดโชว์ผลงานไตรมาส 1/53 พุ่งกระฉูด 221.69% หลังอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-ฮาร์ดดิสไดรฟ์ฟื้นตัว หนุนออเดอร์ทะลัก พร้อมประเมินแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก
นายพีท ริมชลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH กล่าวถึงปัญหาทางการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า แม้ในระยะสั้นจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อาจเกิดการย้ายฐานการลงทุนหรือฐานการผลิตของต่างชาติไปยังประเทศอื่นๆ ได้ ดังนั้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
บริษัทฯ มีแนวคิดที่จะเพิ่มฐานการผลิตไปตามแหล่งการลงทุนยังประเทศต่างๆ ตามสัดส่วนที่เหมาะสม อีกทั้งยังเน้นส่งออกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็น High Margin มากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศ 40% ส่วนในประเทศอยู่ที่ 60%
“เหตุการณ์การเมืองถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องติดตาม แม้ช่วงสั้นจะไม่กระทบมากนัก แต่ในอนาคตอาจจะทำให้ประเทศผู้ผลิตอย่างเรา รวมถึงประเทศอื่นๆ ย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ได้ ทางรอดของบริษัทฯ อาจจะต้องหันมาเพิ่มฐาน
การผลิตตามแหล่งการลงทุนไปยังประเทศนั้นๆ เนื่องจากพบว่าความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive:HDD) ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นพร้อมกันทั้งภูมิภาค ซึ่งลูกค้าในต่างประเทศของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ นายพีทกล่าว
เขากล่าวต่อถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2553 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 บริษัท มีอัตรากำไรสุทธิ 22.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 15.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 221.69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.10 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากยอดขายเพิ่มขึ้นและต้นทุนขายลดลง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก33.68% ในไตรมาส 1/2552 เป็น 43.52% ในไตรมาส 1/2553 หรือ เพิ่มขึ้น 9.84%
"ภาพรวมของผลประกอบการไตรมาส1/2553 ออกมาดีกว่าคาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก จากเดิมคาดว่ารายได้น่าจะเพิ่มขึ้น 25% จากค่าเฉลี่ยต่อไตรมาสของปี 2552 ที่อยู่ที่ 61.3 ล้านบาท แต่งบกลับออกมาดีเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ สาเหตุเพราะเครื่องจักรใหม่ เดิมคาดว่าจะเข้ามา 5 เครื่องในปลายเดือนมีนาคม 2553 แต่บางส่วนเข้ามาก่อน จึงทำให้กำลังการผลิตมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับช่วงเดือนมีนาคม ขณะที่ความต้องการใช้ cutting tools ของลูกค้าก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องใช้อัตราการผลิตเต็ม 100% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางช่วงการผลิตก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เข้ามา จะเห็นได้ว่าในไลน์ผลิตบางส่วนกำลังปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพในการผลิตมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเราจะทบทวนแผนลงทุนใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป ดังนั้นจึงมองว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/2553 น่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือเพิ่มขึ้น 40% จากผลประกอบการเฉลี่ยต่อไตรมาสของปี 2552"นายพีทกล่าว
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (Hard Disk Drive:HDD) ใน
ครึ่งปีหลังน่าจะยังขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเชื่อว่ายังคงมีความต้องการสูงสม่ำเสมอไป
จนถึงสิ้นปี ซึ่งในส่วนของบริษัทเองยังคงเป็นการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอย่าง ต่อเนื่อง โดยพยายามสร้างบุคคลากร
รุ่นใหม่ทั้งด้านการบริหาร การผลิต และการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของ Technology ในอุตสาหกรรมต่างๆ อีกทั้งการทำ R&D ยังต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เปิดทางเลือกให้กับอุตสาหกรรมต่างๆเพิ่มมากขึ้น และสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทางฝ่ายบริหารต้องพยายามเพิ่มความเป็นเจ้าของร่วมกับพนักงานทั้งบริษัทเราปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ และเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าๆ และหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่ม บริษัทยังคงต้องรักษาระดับคุณภาพสินค้า การออกแบบลักษณะของ Cutting Tool ให้ลดเวลาทำงานให้กับลูกค้าได้ การบริการต้องฉับไว และราคาต้องสมเหตุสมผล เพื่อให้ลูกค้ายอมรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทในภาพรวม
ข้อมูลบริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน)
ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิตและจำหน่ายเครื่องมือที่ทำมาจากเพชรสังเคราะห์ (Polycrystalline Diamond; PCD) สำหรับใช้ในการตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tools) เพื่อใช้ได้ชิ้นงานที่มีความเที่ยงตรงสูง (High precision part) โดยบริษัทเน้นการผลิต PCD Tools เป็นส่วนใหญ่เพราะมีคุณสมบัติเด่น คือ อายุการใช้งานให้ผลที่ดีกว่าเครื่องมือประเภท Carbide ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภท คือ PCD boring tool, PCD endmill tool, PCD insert, PCD brazing tool, PCD reamer และ PCD hollow tool โดยทั่วไป เครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting tools) จะมีคุณสมบัติ คือ ความแข็ง (Hardness) และความทนการต่อการเสียดสีสูง (Wear Resistance) ซึ่งเครื่องมือประเภท PCD และ Carbide จะมีคุณภาพและความสามารถในการใช้งานต่างกันตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: IR PLUS
คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549394 , Mobile 085-1330184 E-mail : phapada@irplus.in.th