กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--IR PLUS
TKS โชว์ผลงานไตรมาสแรก กำไร 29.6 ลบ. เพิ่มขึ้น 238.3% จากปีก่อนที่ทำได้ 8.75 ลบ."ศิริวรรณ สุกัญจนศิริ" ย้ำความมั่นใจนักลงทุน เชื่อครึ่งแรกของปี TKS ยังทำงานผลงานโตเข้าเป้า หลังธุรกิจการพิมพ์เริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดี ตลาดต่างประเทศเริ่มขยายตัว ในขณะที่ตลาดในประเทศได้อานิสงส์ราคากระดาษพุ่งแถมรับงานพิมพ์ จนเต็มกำลังการผลิต มั่นใจสิ้นปีปั๊มรายได้ขยายตัว 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,001.65 ลบ.
นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)(TKS) เปิดเผย ถึงผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 1/2553 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ว่ามีกำไรสุทธิ 29.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.85 ล้านบาท หรือ ร้อยละ238.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 8.75 ล้านบาท หลังจากที่ในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 270.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 247.78 ล้านบาท (ไม่รวมยอดขาย SYNEX) โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากงานพิมพ์ในกลุ่ม Advance & Security และงานพิมพ์ดิจิตอล นอกจากนั้นส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจำนวน 28.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งฯ 13.24 ล้านบาท จึงส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว
สำหรับในไตรมาสที่ 2 ของปี นางสาวศิริวรรณ กล่าวว่าธุรกิจของบริษัทฯ ยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ทำให้ความต้องการใช้สินค้ากระดาษและสิ่งพิมพ์ เพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้ยอดขายของกระดาษและสิ่งพิมพ์เพิ่มมากขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับในช่วงไตรมาสที่ 1/2553 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 2/2553 บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคากระดาษราว 5-10% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนั้น ยังได้รับงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทฯ ต้องเปิดทำการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงไตรมาส 2 ของปี จึงทำให้ในช่วงดังกล่าวคาดว่าบริษัทฯ จะมีรายได้เติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2553 ยังเติบโตในทิศทางที่ดีตามเป้าหมายที่วางไว้
กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เค.เอส. เทคโนโลยี กล่าวต่อถึงแนวโน้มธุรกิจสิ่งพิมพ์ในปีนี้ว่า ยังมีทิศทางค่อนข้างสดใส เนื่องจากลูกค้าจากต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจงานพิมพ์ของบริษัทฯ มากขึ้น หลังจากที่ได้รับรางวัลจากการประกวดงานพิมพ์ในระดับนานาชาติหลายรางวัลในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า TKS สามารถผลิตงานพิมพ์ได้ในระดับเวิลด์คลาส และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานพิมพ์จากประเทศไทย ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ TKS มีเป้าหมายจะเพิ่มรายได้จากลูกค้าต่างประเทศเป็นสัดส่วน 20% ของรายได้ จากปีก่อนที่อยู่ในสัดส่วน 10%
นอกจากนั้นธุรกิจงานพิมพ์ในประเทศเชื่อว่าในปีนี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจการบริหารคลังสินค้า งานพิมพ์ดิจิตอล และงานพิมพ์ Advance&Security เพราะเป็นงานที่รองรับความต้องการลดต้นทุนของลูกค้าได้เป็น อย่างดี โดยธุรกิจบริหารคลังสินค้าของ TKS มุ่งให้ลูกค้าลดภาระเรื่องการจัดพิมพ์ จัดเก็บ และจัดส่งเอกสารทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าตลาดเหล่านี้จะขยายตัวได้ และเมื่อรวมกับงานอื่นๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะผลักดันให้รายได้จากธุรกิจการพิมพ์ในปีนี้ เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,001.65 ลบ.
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งผลักดันให้กำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยได้หันมาบริหารต้นทุน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างระมัดระวังและต่อเนื่อง ทั้งการลดการสูญเสียของกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการขนส่งและอื่นๆ เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นได้จากในไตรมาสที่ 1/2553 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ร้อยละ 21.1เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ร้อยละ 16.4 ถือเป็นอัตตราที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ถึงคาดว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางที่ดีได้ เช่นเดียวกัน ซึ่งยังไม่รวมการรับรู้รายได้จากเงินปันผลในบริษัทร่วม คือ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ประมาณ 40%
ข้อมูล บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (TKS)
บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เป็นผู้ประกอบธุรกิจด้านการพิมพ์ อย่างครบวงจร ทั้งงานพิมพ์แบบต่อเนื่องและแบบแผ่น รวมไปถึงงานพิมพ์เอกสารแบบฟอร์มต่างๆของธนาคาร, ตั๋วสัญญาใช้เงิน, สมุดเงินฝากบัญชีประเภทต่างๆ ของธนาคารและสหกรณ์ออมทรัพย์,พิมพ์สมุดเช็ค,รายงานประจำปี, นิตยสาร, ปฏิทิน, แผ่นผับโฆษณา และให้บริการในด้านการบริหารคลังให้กับองค์กรขนาดใหญ่ โดยธุรกิจงานพิมพ์ดังกล่าวได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท บริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TKS ถือหุ้น 100% ในขณะเดียวกันยังดำเนินธุรกิจค้าส่งและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ซอฟท์แวร์ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ผ่าน บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ที่บริษัท ถือหุ้นในสัดส่วน 39.29% โดยปัจจุบัน SYNEX เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มเทคโนโลยี และสารสนเทศ ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และ ไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมา มีรายได้สูงถึง 11,586.67 ล้านบาท
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย)
IR PLUS โทร. 02-554-9396, E-mail :
[email protected]