กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--เอ้าท์ดอร์ พีอาร์
ผู้บริหารบริษัทเครือข่ายเสริมอาหารชนิดเจล ค่าย “เอเจล” ประกาศพร้อมแล้วจัดงานประชุมครั้งยิ่งใหญ่ และครั้งแรกในเมืองไทย “เอเจล เวิลด์ ทัวร์ - เอเชีย 2010” นำทัพโดยผู้บริหารจากบริษัทแม่ และสมาชิกจาก 15 ประเทศทั่วโลกกว่าหมื่นคน ชักแถวเข้าร่วมงานในวันที่ 15-16 พฤษภาคม ศกนี้ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ย้ำช่วยสร้างภาพลักษณ์และความมั่นใจคนไทย ได้เห็นศักยภาพธุรกิจเอเจลโดยรวม ..
นายชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์ ผู้อำนวยการบริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เอเจล เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นับว่าเป็นการจัดประชุมครั้งแรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ที่เราได้รับโอกาสและมีความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน “เอเจล เวิลด์ ทัวร์ — เอเชีย 2010” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-16 พฤษภาคมนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในครั้งนี้จะมีเครือข่ายเอเจลจากทั่วโลกเข้าร่วมงานประชุมกว่า 10,000 คน โดยแบ่งเป็นคนไทย 6,000 คน ชาวต่างชาติ 4,000 คน (เอเชียประมาณ 3,000 คน สหรัฐฯและยุโรปประมาณ 1,000 คน)
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เป็นการรวมพลังชาวเอเจลครั้งยิ่งใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และความอลังการของการจัดงาน จากคณะผู้บริหารและผู้นำระดับแนวหน้าที่จะมานำเสนอแนวทางธุรกิจเครือข่ายสร้างโอกาสให้ผู้คนจากทั่วโลกได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยงานนี้จะมีผู้บริหารระดับสูงของเอเจล ประกอบด้วย นายเกลน เจ็นเซน ซีอีโอ , นายเคร็ก แบรดลี่ ผู้สถาปนาและก่อตั้งเอเจล ,ดร.แรนดัล แม็กซี่ ผู้เชี่ยวชาญงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ , นายดาเร็น เจ็นเซน ผู้บริหารระดับสูงภาคพื้นเอเชีย นายเจฟ ฮิกกินสัน ผู้บริหารฝ่ายขายอาวุโส นายเบร็นท์ เจ็นเซน ผู้บริหารระดับสูงภาคพื้นตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมทั้งผู้บริหารระดับเพชรอีกมากมายร่วมงาน
“สาเหตุที่บริษัทแม่ ได้เลือกเมืองไทยเป็นประเทศแรกในการจัด เอเจล เวิลด์ ทัวร์ — เอเชีย 2010 ในภูมิภาคเอเชียนั้น เป็นเพราะประเทศไทยมีจำนวนสมาชิกระดับเพชรอยู่มากที่สุด และงานครั้งนี้จะเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนแนวคิดจากนักธุรกิจเอเจลทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไทย ได้เห็นศักยภาพของธุรกิจโดยรวม ซึ่งปัจจุบัน “เอเจล” ได้มีสาขามากกว่า 55 ประเทศทั่วโลก และมีสมาชิกมากกว่า 5 ล้านคน ในอนาคตยังมีแนวโน้มที่ขยายตลาดและสมาชิกเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะเรามีจุดเด่นในตัวสินค้าภายใต้นวัตกรรมเทคโนโลยีเสริมอาหารชนิดเจล ถือว่าเป็นเทรนด์ใหม่ที่มีความสะดวกในการพกพาและรับประทาน ที่เป็นจุดแข็งของเอเจลนั่นเอง ” นายชัยวัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายชัยวัฒน์ ยังได้กล่าวถึงการขึ้นมารับตำแหน่งใหม่ในฐานะผู้อำนวยการบริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ฯ ให้มาดูแลและบริหารงานในภาคพื้นเอเชีย โดยในเบื้องต้นตนมีแนวคิดจะจัดประชุมในรูปแบบเดียวกันให้การทำงานข้ามประเทศมีความเข้มข้นขึ้น อีกทั้งที่ผ่านมาเอเจลประเทศไทยยังได้รับความไว้วางใจ และการสนับสนุนจากบริษัทแม่ให้เป็นศูนย์การให้ความรู้ของเครือข่ายในภูมิภาคอาเซียน และการจัดพิมพ์โฆษณาต่างๆ เพื่อนำไปเผยแพร่ในแต่ละประเทศ
“สำหรับในเมืองไทยภาพรวมของธุรกิจเสริมอาหารในปีนี้ยังมีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง มีบริษัทน้องใหม่ร่วมลงแข่งขัน และนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดในทุกๆปี อันเป็นผลพวงมาจากกระแสการดูแลในเรื่องสุขภาพของคนไทยที่มีอัตราเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของเอเจลเองเราก็มีการพัฒนาแต่ไม่ได้แข่งกับใคร แต่เรามุ่งแข่งกับตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาเราก็พิสูจน์ได้แล้วว่าสามารถชนะตัวเองได้ทุกปี โดยดูได้จากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปีนี้เราได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 1,400 ล้านบาท พร้อมด้วยการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทยอยลงสู่ตลาดในอนาคต” นายชัยวัฒน์ กล่าว