ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน ขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% 4 เดือนขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8%

ข่าวยานยนต์ Tuesday May 18, 2010 17:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนเมษายน 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 26,274 คัน เพิ่มขึ้น 64.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 30,854 คัน เพิ่มขึ้น 30.0% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 25,885 คัน เพิ่มขึ้น 23.0% ประเด็นสำคัญ 1.) ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน มีปริมาณการขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่แปด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 26,274 คัน เติบโต 64.4% สูงสุดในรอบ 16 เดือน รถเพื่อการพาณิชย์ 30,854 คัน เติบโต 30.0% เป็นอัตราการเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่เจ็ด รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้ 25,885 คัน เติบโต 23.0% ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดจองในงานมอเตอร์โชว์ ความนิยมต่อเนื่องของรถยนต์นั่งรุ่นใหม่หลายรุ่น ทั้งรถยนต์ประหยัดพลังงาน รถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัว ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยรวม 2.) ตลาดรถยนต์สะสม 4 เดือน มีปริมาณการขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา และมียอดขายใกล้เคียงกับยอดขายสะสม 4 เดือนของปี2549 ที่มียอดขายรวมที่กว่า 680,000 คัน โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 54.3% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50.1% แสดงถึงการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ การขยายตัวของมูลค่าการส่งออกและการลงทุนในประเทศ การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันไม่ผันผวนมากนัก ประกอบกับอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม ตลอดจนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปี 3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน พฤษภาคม คาดว่ายังคงเติบโต จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่แนะนำมาตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าราคาสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะราคาข้าวที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของตลาดโลก แต่สินค้าทางการเกษตรหลักอื่นๆ อาทิ ยางพารา อ้อย ยังอยู่ในระดับราคาที่สูง อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมอาจได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากมีคำสั่งซื้อรถจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมาณการผลิตโดยรวมยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้มากตามความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศ ทำให้รถยนต์บางรุ่น บางแบบนั้นมียอดสั่งจองมากกว่า 2 เดือน โดยเฉพาะรถกระบะขนาด 1 ตัน ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนเมษายน 2553 1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% อันดับที่ 1 โตโยต้า 22,605 คัน เพิ่มขึ้น 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 39.6% อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,722 คัน เพิ่มขึ้น 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 18.8% อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,846 คัน เพิ่มขึ้น 17.7% ส่วนแบ่งตลาด 13.7% 2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 26,274 คัน เพิ่มขึ้น 64.4% อันดับที่ 1 โตโยต้า 10,747 คัน เพิ่มขึ้น 77.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.9% อันดับที่ 2 ฮอนด้า 7,308 คัน เพิ่มขึ้น 12.9% ส่วนแบ่งตลาด 27.8% อันดับที่ 3 มาสด้า 3,114 คัน เพิ่มขึ้น 437.8% ส่วนแบ่งตลาด 11.9% 3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 25,885 คัน เพิ่มขึ้น 23.0% อันดับที่ 1 โตโยต้า 10,228 คัน เพิ่มขึ้น 14.8% ส่วนแบ่งตลาด 39.5% อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,945 คัน เพิ่มขึ้น 24.3% ส่วนแบ่งตลาด 38.4% อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,195 คัน เพิ่มขึ้น 107.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.5% *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 3,335 คัน โตโยต้า 1,688 คัน- มิตซูบิชิ 949 คัน - อีซูซุ 621 คัน - ฟอร์ด 77 คัน 4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,550 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% อันดับที่ 1 อีซูซุ 9,324 คัน เพิ่มขึ้น 24.0% ส่วนแบ่งตลาด 41.3% อันดับที่ 2 โตโยต้า 8,540 คัน เพิ่มขึ้น 9.8% ส่วนแบ่งตลาด 37.9% อันดับที่ 3 นิสสัน 1,719 คัน เพิ่มขึ้น 14.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.6% 5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,854 คัน เพิ่มขึ้น 30.0% อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,858 คัน เพิ่มขึ้น 21.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.4% อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,722 คัน เพิ่มขึ้น 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 34.8% อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,195 คัน เพิ่มขึ้น 107.5% ส่วนแบ่งตลาด 7.1% สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — เมษายน 2553 1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% อันดับที่ 1 โตโยต้า 92,406 คัน เพิ่มขึ้น 53.3% ส่วนแบ่งตลาด 41.3% อันดับที่ 2 อีซูซุ 46,071 คัน เพิ่มขึ้น 43.8% ส่วนแบ่งตลาด 20.6% อันดับที่ 3 ฮอนด้า 29,739 คัน เพิ่มขึ้น 18.8% ส่วนแบ่งตลาด 13.3% 2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 92,521 คัน เพิ่มขึ้น 54.3% อันดับที่ 1 โตโยต้า 39,242 คัน เพิ่มขึ้น 47.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.4% อันดับที่ 2 ฮอนด้า 27,626 คัน เพิ่มขึ้น 16.5% ส่วนแบ่งตลาด 29.9% อันดับที่ 3 มาสด้า 8,747 คัน เพิ่มขึ้น 489.0% ส่วนแบ่งตลาด 9.5% 3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 112,947 คัน เพิ่มขึ้น 48.4% อันดับที่ 1 โตโยต้า 47,519 คัน เพิ่มขึ้น 56.3% ส่วนแบ่งตลาด 42.1% อันดับที่ 2 อีซูซุ 42,982 คัน เพิ่มขึ้น 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 38.1% อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,002 คัน เพิ่มขึ้น 85.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.1% *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 12,613 คัน โตโยต้า 6,685 คัน - มิตซูบิชิ 3,427 คัน - อีซูซุ 2,204 คัน - ฟอร์ด 297 คัน 4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 100,334 คัน เพิ่มขึ้น 46.5% อันดับที่ 1 โตโยต้า 40,834 คัน เพิ่มขึ้น 56.4% ส่วนแบ่งตลาด 40.7% อันดับที่ 2 อีซูซุ 40,778 คัน เพิ่มขึ้น 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 40.6% อันดับที่ 3 นิสสัน 7,558 คัน เพิ่มขึ้น 34.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.5% 5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 131,409 คัน เพิ่มขึ้น 50.1% อันดับที่ 1 โตโยต้า 53,164 คัน เพิ่มขึ้น 58.1% ส่วนแบ่งตลาด 40.5% อันดับที่ 2 อีซูซุ 46,071 คัน เพิ่มขึ้น 43.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.1% อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 8,003 คัน เพิ่มขึ้น 85.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ