กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
DAY TRADER
GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18660 — 18760 ขายในช่วงราคา 18910 - 18960
GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18770 - 18860 ขายในช่วงราคา 19000 — 19060
SWING TRADER
ทิศทางราคาทองคำระยะกลางและยาวยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น ช่วงนี้ทิศทางราคาทองคำกำลังปรับตัวเข้าสู่ขาขึ้น โดยมีแนวรับ-แนวต้าน1200-1220 คำแนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรจากทิศทางราคาทองคำแกว่งตัว คาดว่าวันนี้น่าจะมีการขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนรายสัปดาห์ขายทำกำไรบ้าง ให้เหลือ LONG POSITIONเป็น50%ของPORTFOLIO
GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18800 รอขายที่ระดับ 18950
GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18900 รอขายที่ระดับ 19050
ปัจจัยสำคัญ
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า อันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ Aaa อาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในอนาคตอันใกล้นี้ นอกเสียจากว่าสหรัฐจะใช้มาตรการเพิ่มเติมในการลดยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ในขณะนี้ โดยมูดีส์ระบุว่า สัดส่วนหนี้สินต่อตัวเลขจีดีพีของสหรัฐ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มว่าจะสูงกว่าประเทศอื่นๆที่มีอันดับเครดิต Aaa เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.9% ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 14.8% แตะที่ 504,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากชาวอเมริกันแห่ทำสัญญาซื้อบ้านใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล
สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) กำลังประชุมร่วมกับกลุ่มผู้บริหารธนาคารทั้งในและต่างประเทศที่กรุงปักกิ่ง เพื่อทบทวนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลในยุโรป ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดเสถียรภาพด้านการเงินในยุโรป และความกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงของรัฐบาลยุโรป รวมถึงกรีซและโปรตุเกส ทั้งนี้ SAFE ถือครองพันธบัตรยูโรโซนราว 6.30 แสนล้านดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนซึ่งมูลค่าสูงถึง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด เข้าถือครองทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 0.304 ตัน สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,267.626ตันเมื่อวันที่ 26 พ.ค. จากระดับของวันที่ 25 พ.ค.ที่ 1,267.322 ตัน
GOLD Market Recap : 26/05/2010
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,202 $ ส่วน Gold Future M10 เปิดที่ 18,740 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,500 ปรับขึ้น 150 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำปรับเป็นขาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเงินบาทอ่อนค่าลง อยู่ที่ 32.64 ต่อดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงเช้าราคาทองคำทรงตัวปรับตัวขึ้น ส่วนในช่วงบ่ายยังขึ้นต่อเนื่อง ปิดตลาด Gold Future M10 ปิดตลาดที่ 18,860 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 150 บาทอยู่ที่ 18,650 บาท นักลงทุนทำกำไรขาขึ้น ตามการปรับขึ้นspot Gold
NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1203 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1202 - 1216 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1214 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1209 - 1215 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1213.6 เหรียญ
ข้อมูลทองคำวันนี้
? ราคาสมาคม เปิดที่ 18,400 - 18,500
? ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,212
? อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.57 — 32.62
? GFM10 Hi- Low 18,870— 18,710 ปิดที่ 18,860
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 15.40 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,213.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,201.00 - 1,216.90 ดอลลาร์เนื่องจากวิกฤตหนี้สินในยุโรปและการร่วงลงของสกุลเงินยูโร ยังคงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาพลาตินัมและพัลลาเดียมทะยานขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดลบ 69.30 จุด หรือ 0.69% แตะที่ 9,974.45 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.08 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1,067.95 จุด หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า จีนกำลังทบทวนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลยุโรป อันเนื่องมาจากความวิตกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สิน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเข้ามาเทขายหุ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่ามาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลในยุโรปนำมาใช้เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณนั้น จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยุโรปด้วย
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.76 ดอลลาร์ หรือ 4.01% ปิดที่ 71.51 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 71.65 - 71.51 ดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งขึ้นเกินคาด บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวที่ดี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 27 พ.ค. ซื้อเพิ่ม 0.31 ตัน ปรับการถือครองจากระดับ 1,267.32 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,267.63 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า จีนกำลังทบทวนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลยุโรป อันเนื่องมาจากความวิตกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สิน ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินยูโร ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.59% สู่ระดับ 1.2169 ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2365 ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.2194 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 90.180 เยน จากระดับ 90.130 เยน แต่ร่วงลง 0.28% โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 89.99 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.50-32.58 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.52-32.60 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
?หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในสังกัดธนาคารกลางจีน กำลังประชุมร่วมกับกลุ่มผู้บริหารธนาคารต่างชาติที่กรุงปักกิ่ง เพื่อหารือและทบทวนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลยุโรป ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดเสถียรภาพด้านการเงินในยุโรป และความกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในยุโรป รวมถึงกรีซและโปรตุเกส รายงานระบุว่า SAFE ถือครองพันธบัตรยูโรโซนราว 6.30 แสนล้านดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนซึ่งมูลค่าสูงถึง 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลทั้งในตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดหุ้นนิวยอร์ก จนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหลุดจากระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 4 เดือน และฉุดค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.)
? กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.9% ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.3% ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านการขนส่ง ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 25 ของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนโดยรวม ทะยานขึ้น 16.1% และหากไม่นับรวมยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านการขนส่งแล้ว ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนโดยรวมในเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลง 1.0%
? มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เตือนว่า อันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ Aaa อาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในอนาคตอันใกล้นี้ นอกเสียจากว่าสหรัฐจะใช้มาตรการเพิ่มเติมในการลดยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ในขณะนี้ โดยมูดีส์ระบุว่า สัดส่วนหนี้สินต่อตัวเลขจีดีพีของสหรัฐ อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มว่าจะสูงกว่าประเทศอื่นๆที่มีอันดับเครดิต Aaa เหมือนกัน
? กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย.ทะยานขึ้น 14.8% แตะที่ 504,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี และทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อเข้าทำสัญญาซื้อบ้านใหม่เพื่อใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล
? กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.9% ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง
? กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 พ.ค. เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 365.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล