กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--Dacon Inspection Services
ภายหลังจากที่เจ้าหนูแซนดี้ เด็กไทยวัยเพียง15ปี ผู้มากความสามารถภายใต้การสนับสนุนของเดอะพิซซาคอมปะนี และดาคอนอินสเป็คชั่นเซอร์วิสเซส ทำคะแนนนำได้สูงสุดถึง 48 คะแนน จากการแข่งขันสนามที่1และ2ในศึกเอเชี่ยน ฟอร์มูล่า เรโนลด์ 2010 ซึ่งที่ผ่านมาจัดขึ้นในสนามซูไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง แต่สำหรับสนามที่ 3 และ4 นั้น จะจัดขึ้นที่สนามเฉิงตู อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 26-27 มิถุนายน นี้
สนามเฉิงตู อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต หรือที่ชาวจีนเรียกกันในนาม เฉิงตู โกลเด้นพอร์ต เซอร์กิต เป็นสนามที่มีความยาวถึง 3,376 กิโลเมตร หรือ 2,019 ไมล์ มีโค้งทั้งหมด 14 โค้ง ทิศทางการขับคือหมุนตามเข็มนาฬิกา ส่วนที่กว้างที่สุดของสนามกว้างถึง 22 เมตร ในขณะที่ส่วนที่แคบที่สุดมีความกว้าง 12 เมตร ซึ่งถือได้ว่ามีพื้นที่มากพอที่จะทำให้นักแข่งโชว์ฝีมือในการแซง หรือขับตีคู่กันไปได้อย่างเต็มที่ โดยสนามดังกล่าวนั้นได้ผ่านการจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย อาทิ Asian Touring Car Series (ATCS), Formula A6 Asia และ A1 Grand Prix สำหรับ ศึกเอเชี่ยน ฟอร์มูล่า เรโนลด์ 2010 สนามที่ 3และ4 ก็จะเกิดขึ้นในสนามแห่งนี้เช่นกัน ในวันที่ 26-27 มิถุนายนนั้น ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับเจ้าหนูแซนดี้ เพราะยังไม่เคยได้ฝึกซ้อมในสนามนี้มาก่อน แต่ก็มีแผนเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนแข่งในวันที่ 23-25 มิถุนายนในสนามจริง
โค้ชชาวฝรั่งเศศ จาก Asia Racing Team “ฟิลิป เดคองเบ้” ซึ่งมีดีกรีเป็นอดีตแชมป์ F3 ในฐานะผู้ฝึกสอนแซนดี้ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความยากของสนามและความสามารถของแซนดี้ ดังนี้
โค้ชมีความกังวลใดใดหรือไม่กับการแข่งขันใน เฉิงตู อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ในขณะที่แซนดี้คุ้นเคยกับสนามซูไห่ เพราะแข่งที่นั่นตลอด 4 เรซที่ผ่านมา (ตั้งแต่วินเทอร์คัพ) แต่สำหรับเฉิงตูนั้นถือว่าเป็นสนามที่ใหม่สำหรับแซนดี้
ฟิลิป: ผมไม่รู้สึกกังวลซักเท่าไร แต่ว่าแทรคที่เฉิงตูจัดได้ว่าเป็นสนามที่ยากมากสนามนึง ด้วยความขรุขระของแทรค
ผู้ที่เข้าแข่งขันในสนามนี้ควรจะต้องพัฒนาและเรียนรู้เทคนิคอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ในการเตรียมพร้อมที่จะแข่งในสนามนี้
ฟิลิป: มันมีเส้นทางที่ไม่ธรรมดาสำหรับสนามนี้ เนื่องจากนักแข่งจะต้องคอยหลบหลุมและเนินที่ขรุขระซึ่งเป็นอุปสรรค พร้อมกับบางโค้งที่ไม่สามารถที่จะเหยียบได้เต็มที่ อาจจะใช้ความเร็วได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น มิฉะนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุที่จะทำให้นักแข่งหลุดออกไปนอกแทรคได้เช่นกัน นั่นคือนักแข่งต้องมีความกล้ามากเลยทีเดียว เรียกได้ว่า วัดใจ!!
มีโค้งไหนบ้างที่ยากเป็นพิเศษซึ่งนักแข่งจะต้องระวัง เพราะอะไร
ฟิลิป: สำหรับผม ผมมองว่า โค้งที่ 7-8-9-11 เพราะโค้งดังกล่าวเป็นจังหวะที่นักแข่งต้องทำความเร็วบนช่วงที่ขรุขระที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ทำให้นักแข่งทุกคนต้องเรียนรู้เทคนิคที่จะขับบนแทรคที่ขรุขระ ในขณะที่จะต้องประคองความเร็วเอาไว้ด้วย เพื่อไม่ให้คู่แข่งแซงได้
โค้ชรู้สึกอย่างไรกับความสามารถของเจ้าหนูแซนดี้
ฟิลิป: ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมรู้สึกทึ่งในความสามารถของเด็กไทยคนนี้มากทีเดียว แซนดี้เป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นและแน่วแน่ เขามีสิ่งที่ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเป็นเสมือนเพชรแท้ที่ผ่านการเจียระไน เพื่อที่จะเป็นเจ้าแห่งความเร็วที่สมบูรณ์แบบ มันเป็นสิ่งที่เราต้องพยายามไปด้วยกัน แต่ ณ ตอนนี้ผมก็รู้สึกแฮปปี้มากแล้ว ในการพัฒนาความสามารถของเขา
อะไรที่เป็นจุดแข็งของเจ้าหนูแซนดี้
ฟิลิป: แม้ว่าเขาจะอายุเพียง 15 ปี ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ แต่เขามีความเป็นผู้ใหญ่พอ เขาเข้าใจและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในสิ่งที่ผมได้สอนและให้ข้อมูลแก่เขา
สุดท้ายนี้ถ้าให้พูดถึงแซนดี้ โค้ชจะนึกถึงอะไร
ฟิลิป: ในสนามแข่งแซนดี้ไม่ใช่ “เด็ก” เขาเป็นนักแข่งที่มีความสามารถอย่างแท้จริง
สำหรับเจ้าหนูแซนดี้เอง ได้เผยความความรู้สึกถึงการเตรียมความพร้อมที่จะรับศึกหนักที่เฉิงตู ที่กำลังจะมาถึงดังนี้
รู้สึกอย่างไรบ้างกับการแข่งขันในสนามต่อไปที่ เฉิงตู
แซนดี้ : ผมรู้สึกมั่นใจครับกับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงนี้ ผมหวังว่าผมจะสามารถปรับตัวกับแทรคใหม่ได้โดยเร็ว ผมไม่เคยไปที่เมืองเฉิงตูมาก่อนเลยครับ มันเป็นทริปแรกเลยที่เข้าสู่ศูนย์กลางของจีน ผมมีแผนที่แทรคและโน๊ตเกี่ยวกับแทรคที่ต้องศึกษาและเตรียมพร้อมก่อนลงแข่ง ผมตั้งใจที่จะไปอย่างพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และหวังอยากจะขึ้นโพเดียมในสนามใหม่แห่งนี้ซึ่งเป็นสนามที่ผมยังไม่เคยไปมาก่อนด้วยครับ
แซนดี้มีการเตรียมความพร้อมอย่างไรบ้าง
แซนดี้ : โดยปกติแล้วผมฝึกซ้อมขับกับ Race Simulator ที่บ้านด้วย แต่ว่าน่าเสียดายที่ไม่มีแทรคของเฉิงตูให้ลองขับ ดังนั้นผมจึงพยายามศึกษาแผนที่แทรคที่ได้จากโค้ชฟิลิป เพื่อที่จะรู้ว่าจะใช้เกียร์อะไรในแต่ละโค้ง ช่วงไหนจะต้องเบรคอย่างไร เพื่อที่จะรับมือกับแต่ละโค้งทั้งหมดได้ ส่วนด้านร่างกายนั้น ตอนนี้ผมปั่นจักรยานทุกวันเพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในขณะเดียวกันก็เพื่อลดน้ำหนักลงด้วยเช่นกันครับ
ภายหลังจากผ่านการแข่งขัน 4 เรซที่ผ่านมาคิดว่ามีอะไรที่ต้องปรับปรุงเพิ่มอีกหรือไม่
แซนดี้ : ผมมองว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุด หลักๆเลยคือ ต้องปรับตัวให้เข้ากับแทรคใหม่ ที่ผมไม่เคยเจอและผมหวังว่ามันจะไม่ยากไปนักที่จะเรียนรู้ แทรคนี้ดูไม่น่าจะยากเกินไปนักแต่เราก็ยังไม่มั่นใจจนกว่าจะไปถึงและได้สัมผัสมันจริงๆ แต่อย่างไรก็ดี สเป็ครุ่นของเรโนลด์ที่ผมขับนั้นมี Aero package (แอโรแพคเกจ-การออกแบบเพื่อลดแรงต้านทานจากลม) ที่ลงตัวในการทำความเร็วในแทรคที่เป็นเส้นโค้งเลื้อยไปมา ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผมในการรับมือกับ down force (แรงกดอากาศ) ใน 4โค้งหลักๆ ซึ่งผมมีโอกาสที่จะทำเวลาได้
** ในบางรุ่นของเรโนลด์ อาจจะออกแบบเพื่อที่จะลด down force ในเส้นทางตรง ซึ่งก็จะทำความเร็วได้ดีกว่าในทางตรง แต่รุ่นที่แซนดี้ขับนั้น เหมาะที่จะทำความเร็วในช่วงทางโค้ง
ตั้งเป้าหมายไว้อย่างไรบ้างกับเอเชี่ยนฟอร์มูล่าเรโนลด์ 2010 นี้
แซนดี้ : สำหรับซีซันนี้ ผมอยากจะให้สิ้นสุดลงด้วยคะแนนสูงที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ครับ
ที่ผ่านมา ครอบครัวให้การสนับสนุนแซนดี้อย่างไรบ้าง
แซนดี้ : ผมโชคดีมากครับที่ครอบครัวให้การสนับสนุนอย่างดีในเส้นทางการเป็นนักแข่งรถ ผมขอขอบคุณทุกๆคน ไม่ว่าจะเป็นคุณลุง คุณป้า คุณปู่ บรรดาญาติๆ และที่สำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่ของผม ท่านช่วยเหลือผมมากมาย ผมคงไม่สามารถมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ ถ้าไม่ได้รับการผลักดันและไดรับกำลังใจจากพวกท่าน
แซนดี้อยากฝากอะไรทิ้งท้ายไว้ไหม
แซนดี้ : ผมขอขอบคุณสปอนเซอร์ คือ เดอะพิซซ่า คอมปะนี และ ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซสที่ให้การสนับสนุนตลอดมา รวมถึงขอบคุณบรรดาแฟนคลับ และทุกคนที่คอยเชียร์ผม มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีของซีซันนี้ และผมก็อยากให้มันไปได้สวยตลอดซีซันนี้ครับ อย่าลืมเอาใจช่วยผมนะครับ ขอบคุณครับ