กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
DAY TRADER
GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18810 — 18860 ขายในช่วงราคา 18950 - 18980
GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18900 - 18950 ขายในช่วงราคา 19030 — 19050
SWING TRADER
ทิศทางราคาทองคำระยะกลางยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น คาดว่าน่าจะมีโอกาสไปทดสอบที่ระดับ1250แต่ตองระวังค่าเงินยูโรที่อาจจะแข็งค่าขึ้น คำแนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรจากการดีดกลับของทิศทางราคา นักลงทุนรายสัปดาห์ทยอยสะสมLONG POSITION 60%ของPORTFOLIO ระวังGFM10จะหมดอายุสัญญาวันที่ 29/06/2010 หาจังหวะเปลี่ยนไปลงทุนGFQ10 เมื่อSPREADมันแคบลง
GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19000 รอขายที่ระดับ 19100
GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19080 รอขายที่ระดับ 19180
ปัจจัยสำคัญ
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐ รวมถึงผลผลิตจากเหมืองแร่ จะขยายตัว 0.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนพ.ค.จะลดลง 0.2% หลังจากปรับตัวลง 0.1% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนีซีพีไอพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากทรงตัวในเดือนเม.ย. โดยดัชนีซีพีไอซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements หรือ BIS) เปิดเผยว่า ในปี 2552 ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลกรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน เป็นมูลค่ารวม 2.54 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 16 ของวงเงินกู้โดยรวม 1.58 ล้านล้านดอลลาร์ที่ปล่อยให้กับทั้งภาครัฐและเอกชนในกรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน ตัวเลขสถิติของ BIS บ่งชี้ว่า ธนาคารฝรั่งเศสและเยอรมันเป็นผู้ให้เงินกู้รายใหญ่ที่สุดต่อกรีซ ขณะเดียวกันธนาคารเยอรมันและฝรั่งเศสมีการลงทุนมากที่สุดในสเปน
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด เข้าถือครองทองคำเท่าเดิม ที่ระดับ 1306.137 ตัน เมื่อวันที่ 11มิ.ย. จากระดับของวันที่ 10มิ.ย.
GOLD Market Recap : 11/06/2010
MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,220 $ ส่วน Gold Future M10 เปิดที่ 18,900 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,750 ปรับลง 50 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ในช่วงเช้าราคาทองคำแกว่งตัวลงเล็กน้อย สำหรับช่วงบ่าย ยังทรงตัวจากช่วงเช้า ปิดตลาด Gold Future M10 ปิดตลาดที่ 18,920 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้นลง 50 บาท 3 ครั้ง ปิดตลาดอยู่ที่ 18,800 บาท นักลงทุนเทขายทำกำไรจากการร่วงลงของ Spot Gold
NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1221 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1216 - 1221 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1220 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1230.5 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1227 เหรียญ
ข้อมูลทองคำวันนี้
? ราคาสมาคม เปิดที่ 18,800 - 18,900
? ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,229
? อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.42 — 32.53
? GFM10 Hi- Low 18,940 — 18,840 ปิดที่ 18,920
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนส.ค.ไต่ขึ้น 8 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ระดับ 1,230.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,218.1 - 1,232.4 ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกันสองวันทำการ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ที่ร่วงลงอย่างพลิกความคาดหมาย ส่งผลให้เกิดความกังวลครั้งใหม่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปรับตัวขึ้น 38.54 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 10,211.07 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.76 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 1,091.60 จุด หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยยอดค้าปลีกที่อ่อนแอ ประกอบกับหุ้นเนชั่นแนล เซมิคอนดักเตอร์ คอร์ป ช่วยฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้เดินหน้า หลังจากที่บริษัทเปิดเผยกำไรและยอดขายที่เหนือกว่าการคาดการณ์ของตลาด
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 1.70 ดอลลาร์ หรือ 2.25% ปิดที่ 73.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 73.26 - 75.64 ดอลลาร์ หลังจากยอดค้าปลีกสหรัฐที่ร่วงลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ค. ได้จุดชนวนความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่สุดของโลก
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 14 มิ.ย. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,306.14 ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน เนื่องจากยอดค้าปลีกสหรัฐที่ร่วงลงโดยไม่คาดหมายในเดือนพ.ค.ได้จุดชนวนความวิตกกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจไม่ยั่งยืน ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินจากตลาดอื่นๆ อาทิ ตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน และหันมาซื้อเงินดอลลาร์เพราะเห็นว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.12% แตะ 1.2093 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2108 ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.2178 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐบวกขึ้น 0.35% แตะ 91.680 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 91.360 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 91.90 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.43-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.39-32.46 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
? ธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements หรือ BIS) เปิดเผยว่า ในปี 2552 ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปได้ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลกรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน เป็นมูลค่ารวม 2.54 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 16 ของวงเงินกู้โดยรวม 1.58 ล้านล้านดอลลาร์ที่ปล่อยให้กับทั้งภาครัฐและเอกชนในกรีซ ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน ทั้งนี้ BIS กล่าวในรายงานว่า "เงินกู้ที่ปล่อยให้กับรัฐบาลใน 4 ประเทศมีสัดส่วนน้อยกว่าเงินกู้ที่ปล่อยให้กับภาคเอกชน"
? นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดการณ์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐ รวมถึงผลผลิตจากเหมืองแร่ จะขยายตัว 0.8% ในเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้
? ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนพ.ค.จะลดลง 0.2% หลังจากปรับตัวลง 0.1% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนีซีพีไอพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากทรงตัวในเดือนเม.ย. โดยดัชนีซีพีไอซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
? กระทรวงพาณิชย์จีนคาดการณ์ อุตสาหกรรมการส่งออกของจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.นั้น มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพราะถูกกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะในประเทศยุโร สำนักงานศุลกากรจีนรายงานว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่ง 48.5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 48.3% ซึ่งทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์
? กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผย ยอดค้าปลีกร่วงลง 1.2% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 8 เดือน ส่งสัญญาณว่าผู้บริโภคเริ่มอดออม ในขณะที่การจ้างงานชะลอตัว อัตราว่างงานยังอยู่ในระดับสูง และตลาดหุ้นผันผวนรายงานระบุว่า ความต้องการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลงในสินค้าทุกประเภท ตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงเสื้อผ้า และวัสดุก่อสร้าง โดยในเดือนที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ร่วงลง 1.7% ซึ่งถ้าไม่รวมยอดขายรถ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ลดลง 1.1%
สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959