กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--แอสเซท พลัส
กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART2) จ่ายคืนผลตอบแทนด้วยวิธีรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเป็นครั้งที่ 3 ในอัตรา 0.50 บาท รวมอัตรารับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน คิดเป็น 15% ขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัว 4.7% ในช่วงเดียวกัน ทั้งนี้ บลจ.แอสเซท พลัส มองตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นที่ 820 จุด พร้อมเปิดขาย IPO กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 5 (ASP-SMART5) ระหว่างวันที่ 14-22 มิถุนายน นี้
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ลดน้อยลงจากปัจจัยต่างประเทศเริ่มส่งสัญญาณเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการส่งออกของจีนซึ่งเติบโตกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปที่เริ่มคลายความกังวลลง ซึ่งสะท้อนจากค่าชดเชยความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ (Credit Default Swap : CDS) ของธนาคารในยุโรปหลายแห่งปรับตัวลดลง ทั้งนี้ การปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 2 (ASP-SMART 2) มีมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นจนสามารถรับซื้อคืนหน่อยลงทุนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน (Auto Redemption) ได้อีก 0.50 บาท คิดเป็นอัตราการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 52 รวม 15% ขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้น 4.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน
นางลดาวรรณ กล่าวว่า สำหรับมุมมองการปรับตัวของตลาดหุ้นในปีนี้ คาดว่า หากความกังวลด้านปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศยุโรป และความกังวลด้านการเมืองในประเทศปรับลดลง ตลาดหุ้นไทยก็มีโอกาสที่ตลาดจะเริ่มปรับสูงขึ้นได้ จากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจและแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนและอัตราการจ่ายเงินปันผลยังอยู่ในระดับที่ดี โดยบริษัทฯ คาดว่าเป้าหมายดัชนีในปีนี้น่าจะมีโอกาสปรับขึ้นมาที่ระดับ 820 จุดได้
บริษัทฯ เห็นว่าช่วงนี้เป็นจังหวะเหมาะในการลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีหลายๆ ตัวที่มีราคาในระดับราคาที่น่าสนใจ จึงเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสมาร์ท 5 (ASP-SMART5) ตั้งแต่วันนี้ — 22 มิถุนายน เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงขึ้นจากการปรับตัวของตลาดหลักทรัพย์ที่ระดับเป้าหมาย 10% โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ทยอยสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนตามจังหวะตลาดแต่ละช่วง ซึ่งวิธีการบริหารกองทุนที่เน้นการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กองทุน SMART Series ทั้ง 4 กองทุน มีผลการดำเนินงานที่ดีและให้ผลตอบแทนที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ
“สำหรับกองทุน ASP-SMART5 จะเน้นลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยเฉพาะผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ ที่มีความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนต่ำ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มชิ้นส่วนรถยนต์ หุ้นขนาดใหญ่ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และหุ้นของบริษัทที่เป็นผู้นำอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิหรือมีศักยภาพในการเติบโตสูง ได้แก่ หุ้นในกลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มการแพทย์ หุ้นกลุ่มอิเลคทรอนิค และกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งหุ้นทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่เลือกลงทุนจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูง
ทั้งนี้ ASP-SMART5 เป็นกองทุนผสมที่มีอายุโครงการ 1 ปี สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ได้ 0—100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนมีความยืดหยุ่นในด้านการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น เพื่อหาจังหวะเข้าลงทุนในช่วงที่ตลาดเหมาะสม และมีเป้าหมายการสร้างผลตอบแทนสุทธิที่ระดับ 10% โดยเริ่มทยอยทำกำไรด้วยวิธีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่านจุดที่มีมูลค่าเท่ากับ 10.50 บาทหรือ 5% ของเงินลงทุนเริ่มแรก และปิดกองทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนผ่านระดับ 11.00 บาท หรือเมื่อครบอายุกองทุน 1 ปี แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดก่อน” นางลดาวรรณ กล่าว
ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.แอสเซท พลัส โทร 02-672-1111 และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่บริษัทฯ แต่งตั้ง
สื่อมวลชน ติดต่อส่วนงานประชาสัมพันธ์
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1019 อีเมล์: [email protected]