กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--iTAP
iTAP และซอฟต์แวร์พาร์ค ร่วมภาคี SIPA หนุนงบกว่า 30 ล้านบาท สานต่อความสำเร็จในโครงการ SPI@ease II ทำมาตรฐานซอฟต์แวร์ CMMI ช่วยผู้ประกอบการไอทีผ่านประเมิน ชี้รุ่นแรกสำเร็จกว่า 20 บริษัท ส่งผลให้ไทยติดอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมดันโครงการต่อรุ่น 2 หวังช่วยบริษัทซอฟต์แวร์ไทย ลดการทำงานซ้ำซ้อน-ลดเวลา-ลดต้นทุน-สร้างกำไร มีมาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับ สร้างความพร้อมปักธงในตลาดซอฟต์แวร์โลก
อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ มีมูลค่าทางการตลาดสูงและมีบทบาทสำคัญต่อความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ แต่การจะทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เติบโตและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนนั้นจำเป็นต้องมีกลไกการบริหารจัดการที่ดี เพื่อตอบสนองทั้งความต้องการของผู้ใช้และสร้างศักยภาพตลาดสู่สากล
โครงการสนับสนุนเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(iTAP) และเขตอุตสาหกรรมซอฟแวร์ประเทศไทย (ซอฟต์แวร์พาร์ค : SWP) ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) จึงเร่งผลักดันให้บริษัทซอฟต์แวร์ไทยมีมาตรฐานผ่าน “โครงการสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจซอฟต์แวร์ในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ โครงการ SPI@ease รุ่น 1 ”เพื่อสร้าง “มาตรฐานการผลิตซอฟต์แวร์ไทย” อันจะนำไปสู่การสร้างศักยภาพทางการแข่งขันในตลาดโลก
รศ.ดร.สมชาย ฉัตรรัตนา รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สวทช. กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพนั้นจะเกิดจากบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ที่มีทั้งกระบวนการผลิตและการบริหารโครงการผลิตซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานและเป็นมาตรฐานที่ต้องได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ”
โดยเฉพาะมาตรฐานสำหรับด้านซอฟต์แวร์อย่าง CMMI หรือ Capability Maturity Model Integration ที่สถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Software Engineering Institute, SEI) แห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน (Carnegie Mellon) สหรัฐอเมริกาพัฒนาขึ้น ซึ่งเป็นที่ยอมรับและนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก อีกทั้งหากบริษัทซอฟต์แวร์ใดที่นำมาตรฐาน CMMI มาใช้จะมีการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้น ทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันและสร้างมูลค่าทางการตลาดให้สูงขึ้นตามมา ดังนั้นจึงจำเป็นที่ประเทศไทยต้องส่งเสริมให้บริษัทผลิตซอฟต์แวร์หันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้ และเข้าร่วมการสอบรับรองคุณภาพกันแพร่หลายมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อวางรากฐานในการยกระดับขีดความสามารถของบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ไทยให้พร้อมแข่งขันในเวทีการค้าเสรี
จากความสำคัญข้างต้นทำให้เกิดโครงการ SPI@ease รุ่นแรกและประสบผลสำเร็จ คือ สามารถให้การสนับสนุนบริษัทในการเตรียมความพร้อมและประเมินมาตรฐาน CMMI จำนวน 25 บริษัท ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยในปีนี้มีบริษัทที่ผ่านการประเมิน CMMI รวมแล้วทั้งสิ้น 34 บริษัท และแบ่งเป็นผ่าน CMMIใน Level 2 จำนวน 10 บริษัท, CMMI ใน Level 3 จำนวน 23 บริษัท
นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ผ่านมาตรฐาน CMMI ใน Level 5 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดของมาตรฐานนี้ 1 บริษัท ทำให้รวมบริษัทซอฟต์แวร์ภายใต้โครงการ SPI@ease ที่ผ่านการประเมินมาตรฐานดังกล่าว ถึง 22 บริษัท ส่งผลให้มีจำนวนบริษัทซอฟต์แวร์ไทยที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน CMMI เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ในระยะเวลาเพียง 2 ปี ล่าสุดจากการประกาศผลอย่างเป็นทางการของสถาบันวิศวกรรมซอฟต์แวร์(SEI) เมื่อเดือนกันยายน 2552 ที่ผ่านมา ไทยยังมีบริษัทที่ผ่านการประเมิน CMMI จัดเป็นอันดับ 2 ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
จากความสำเร็จในรุ่นแรกของบริษัทต่างๆที่เข้าร่วมโครงการนี้ จึงได้มีการดำเนินงานต่อเนื่องเป็นรุ่นที่2 (SPI@easeII) และครั้งนี้ได้มีภาคีสำคัญอย่าง สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA เข้าร่วมสนับสนุนงบประมาณและการดำเนินงาน เพื่อสร้างศักยภาพของซอฟต์แวร์ไทยให้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสามารถปักธงในตลาดโลกได้
นาวาตรี ดร.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ รองผู้อำนวยการถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) กล่าวว่า “การที่จะสร้างอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้เติบโตและแข็งแรงอย่างยั่งยืนได้นั้น บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ควรจะมีกระบวนการผลิตอย่างมีระบบ มาตรฐานซอฟต์แวร์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่างมาตรฐาน CMMI ซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลกนั้น จะทำให้มีข้อกำหนดและระเบียบวิธีที่รัดกุมเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพเสมอต้นเสมอปลายและยังช่วยลดการทำงานซ้ำซ้อน รวมถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในการผลิต ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนลดลงอีกด้วย”
สำหรับโครงการ SPI@ease II เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2553 โดยครั้งนี้ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก SIPA ประมาณ 16 ล้านบาทและสวทช.ประมาณ 22 ล้านบาทโดยตั้งเป้าว่าจะมีบริษัทที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน CMMI รุ่น 2 นี้จำนวน 20 บริษัท
ด้าน นายสัมฤทธิ์ ตรงตรานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อ๊อปติมัส ซอฟต์ จำกัด (Optimus Soft Co., Ltd) 1 ในบริษัทที่ผ่านการประเมินมาตรฐาน CMMI จากโครงการ SPI@ease รุ่นแรก กล่าวด้วยว่า จากการเข้าร่วม โครงการ SPI@ease ทำให้สามารถผ่านมาตรฐาน CMMI Level 3 และเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการทำงานทั้งด้านพัฒนาซอฟต์แวร์และครอบคลุมมาตรฐานของทั้งองค์กร
“โดยทุกคนในบริษัทยังยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรว่า CMMI ทำให้กระบวนการทำงานเป็นระบบดีขึ้นทั้งมาตรฐานนี้ยังเป็นมาตรฐานระดับโลกที่ทุกคนรู้จัก และนับเป็นการสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับบริษัทได้อีกทางหนึ่งทำให้คู่ค้าและลูกค้าด้านไอทีให้การยอมรับ เนื่องจากมีมาตรฐานที่ทำให้เข้าใจตรงกันว่าต้องทำอย่างไร และหากเกิดปัญหาต้องแก้ไขอย่างไร เป็นต้น และยังเชื่อมั่นว่าหากบริษัทซอฟต์แวร์ไทยให้ความสำคัญกับระบบมาตรฐานจะเกิดประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ต่อไปได้”
สนใจเข้าร่วมโครงการ
การสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจซอฟต์แวร์ในการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์
รุ่นที่ 2 (SPI@ease II)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-583-9992 ต่อ 1433, 1437 หรือ 02-564-7000 ต่อ 1304, 1385
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการ iTAP โทร.02-270-1350-4 ต่อ 114,115