Happily N’ever After “ผจญภัยเทพนิยายพิลึกโลก”

ข่าวทั่วไป Monday June 18, 2007 15:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อดินแดนเทพนิยายกลับตาลปัตร และนิทานทุกเรื่องถูกป่วนไม่ให้จบอย่างมีความสุข ผลงานแอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของทีมสร้าง Shrek และ Shrek 2
ประเภท แอนิเมชั่น / แฟนตาซี / ครอบครัว
กำกับภาพยนตร์ พอล เจ โบลเกอร์
อำนวยการสร้าง จอห์น เอช วิลเลียมส์ (Shrek, Shrek 2, Valiant)
ให้เสียงพากย์ เฟรดดี้ พรินซ์ จูเนียร์ (She’s all That, Scooby Doo)
ซาร่าห์ มิเชลล์ เกลล่าร์ (The Grudge, Cruel Intention)
ซิเกอร์นี่ย์ วีเวอร์ (Aliens, The Ice Storm, Holes)
กำหนดฉาย 28 มิถุนายน 2007
จัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
Official Site http://www.happilyneverafterthefilm.com/
เรื่องย่อ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดินแดนเทพนิยาย ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ซินเดอเรลล่ากำลังเต้นรำกับเจ้าชาย, ราพุนเซลกำลังหย่อนผมลงมาจากหอคอย, เจ้าชายกำลังจะจุมพิตเจ้าหญิงนิทรา...แต่เรื่องราวกลับไม่ได้จบลงอย่าง “มีความสุขตลอดไป” เหมือนที่เราเคยได้ยินมา เมื่อพ่อมดผู้ดูแลความสมดุลระหว่างความดีและความชั่วลาพักร้อน ส่วนมัมโบและมังค์ ผู้ช่วยทั้งสองของเขาก็ถูก ฟรีด้า แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลล่ายึดคฑาวิเศษไปใช้ โดยเป้าหมายของเธอจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการยึดครองอาณาจักรเทพนิยาย เริ่มจากปล่อยให้พวกตัวร้ายชนะ และเปลี่ยนตอนจบให้กลายเป็น “ขมขื่นตลอดกาล”
งานนี้ ซินเดอเรลล่า (หรือที่เพื่อนๆเรียกว่า เอลล่า) จำใจต้องตื่นจากฝันหวานและฉีกบทนางเอกใสซื่อที่รอคอยเจ้าชายมาสวมบทหญิงแกร่งผู้นำทีมต่อกรกับฟรีด้าเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความดีและความชั่วให้กลับไปเหมือนเดิมอีกครั้ง เอลล่าผนึกกำลังกับ ริค เพื่อนสนิท, กองทัพคนแคระ, นางฟ้า, มัมโบและมังค์ ลุกขึ้นสู้ แต่เธอจะกู้อาณาจักรเทพนิยายสำเร็จหรือไม่ แล้วเธอจะทำอย่างไรเมื่อรักแท้ที่พบเจอกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิด
ตัวละครและนักแสดงผู้ให้เสียงพากย์
ซินเดอเรลล่าที่เราคุ้นเคยดี แต่ครั้งนี้เมื่อดินแดนเทพนิยายกลับตาลปัตร เธอก็จำเป็นต้องสลัดมาดนางเอกบอบบางทิ้ง แล้วลุกขึ้นสู้กับฝ่ายอธรรมด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งเจ้าชายรูปงามอีกต่อไป
เด็กล้างจานก้นครัวเพื่อนรักของเอลล่า ริคแอบรักเอลล่ามานานแต่ไม่กล้าบอก เพราะหญิงสาวเฝ้าพร่ำเพ้อถึงแต่เจ้าชาย แต่เมื่อดินแดนเทพนิยายกลับตาลปัตร เขานี่แหละที่อยู่เคียงข้างเอลล่า และเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้ ไม่ใช่เจ้าชาย
แม่เลี้ยงใจร้ายของซินเดอเรลล่าที่ได้ทียึดไม้เท้าวิเศษจากพ่อมดผู้ดูแลดินแดนเทพนิยายและเปลี่ยนตอนจบของนิทานทุกเรื่องให้ “ไร้ความสุขตลอดกาล” เธอปล่อยให้ตัวร้ายชนะและวางแผนครองดินแดนเทพนิยาย แต่ถูกเอลล่าและพรรคพวกขัดขวางเสียก่อน จนเกิดการต่อสู้กันขึ้น
เจ้าชายรูปงามที่คอยอ่านคู่มือเจ้าชายตลอดเวลาเพราะไม่มั่นใจในตัวเอง เขารูปงามก็จริงแต่ไม่ได้องอาจและเก่งกล้าอย่างในนิทานที่ทุกคนเคยอ่าน ทุกอย่างที่เขาทำก็เพราะมันเขียนไว้ในหนังสือแบบนั้น แต่หลังจากที่ดินแดนเทพนิยายกลับคืนสู่สภาพปกติ เขาก็ได้รับบทเรียนและเลือกทางเดินของตัวเองได้ในที่สุด
พ่อมดที่คอยรักษาสมดุลระหว่างความดีละความชั่วในดินแดนเทพนิยาย เขาทำงานนี้มานานหลายร้อยปี ไม่เคยหยุดพัก จนตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าหมดแรง พ่อมดคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องไปพักผ่อน จึงฝากหน้าที่สำคัญนี้ไว้ให้ มัมโบและมังค์ ผู้ช่วยสองตัวดูแล โดยไม่เอะใจเลยว่าความปั่นป่วนกำลังจะเกิดขึ้น
แมวจอมป่วนกับหมูงุ่มง่าม ผู้ช่วยของพ่อมดผู้ดูแลอาณาจักรเทพนิยาย ทั้งคู่สัญญากับพ่อมดว่าจะทำหน้าที่แทนระหว่างที่เขาไปพักร้อน แต่มัมโบกลับก่อความวุ่นวายโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเขาเซ็งเรื่องราวในดินแดนเทพนิยายและแอบเล่นเครื่องมือของพ่อมดจนเกิดเสียทีให้ฟรีด้าคว้าไม้เท้าวิเศษไปครอง
บทสัมภาษณ์ทีมงาน
เกี่ยวกับปฏิกิริยาของผู้ชม
“ฉันคิดว่าคนดูจะชอบหนังเรื่องนี้เพราะพวกเขาจะได้เห็นนิทานที่ตัวเองชอบหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น หนูน้อยหมวกแดงหรือเจ้าหญิงนิทรา แต่เรืองราวจะกลับตาลปัตรไม่เหมือนที่เคยอ่าน ฉันว่าสนุกดีนะ ที่ได้เห็นพวกตัวร้ายลุกขึ้นมาป่วน ตัวละครพวกนี้มีความเป็นมนุษย์มาก พวกเขาดื่มเหล้าเมา นั่งเล่นสบายอารมณ์ ไม่อยากทำงานหนัก ฟรีด้าคือคนที่ทำให้พวกเขามีอำนาจขึ้นมา เธอช่วยตัวปัญหา เพราะฉะนั้นมันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร และทันสมัยมากๆ ฉันว่าบทเขียนได้ดี พูดแล้วก็อยากดูเร็วๆ”
เกี่ยวกับบทหนัง
“มันตลกมากเลย ฉันว่ามันเต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความเป็นมนุษย์ มีหนังติดต่อให้แสดงบทแม่มดใจร้ายหรืออะไรทำนองนั้นเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะบทจะร้ายตลอดเวลาแบบไม่มีเหตุผล ฉันชอบบทฟรีด้านะ และรู้สึกเข้าถึงตัวเธอได้ มันไม่ใช่แค่ว่าเธอร้ายหรือเกลียดซินเดอเรลล่า แต่เธอเบื่อ เหนื่อยกับสิ่งที่ต้องทำซ้ำๆ พอมีโอกาสได้อำนาจเปลี่ยนทุกอย่าง เธอก็เลยคว้าโอกาสนั้นไว้ ซึ่งเธอสนุกกับมันมาก ฉันรู้สึกว่าฟรีด้ามีความเป็นมนุษย์มากจนฉันเข้าถึงเธอได้ นักแสดงที่ร่วมพากย์ก็มีความสามารถมาก เรื่องราวก็น่าติดตาม”
เกี่ยวกับตัวละคร ฟรีด้า
“ฉันว่าบทหนังเขียนดีมาก คุณจะได้พบกับฟรีด้าที่ไม่เหมือนแม่เลี้ยงใจร้ายที่เราคุ้นเคย เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนนึงที่ต้องเลี้ยงลูกสาวสองคนที่อัปลักษณ์และไม่มีเสน่ห์ ไม่ว่าเธอจะทำยังไง ก็เข็นลูกไม่ขึ้นซักที เพราะนั้นเอมีโอกาสได้ยึดอำนาจ เธอจึงไม่ลังเลที่จะคว้าบทนำในหนังและจัดการให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป ฉันว่าตลกดีที่เห็นเธอสนุก ฟรีด้าเป็นคนชอบสนุก เธอมีเวลาหนึ่งวันในการสร้างหายนะ และเธอก็ไม่ลังเลที่จะทำ”
เกี่ยวกับการทำงานในภาพยนตร์แอนิเมชั่น
“ฉันไม่เคยพากย์เสียงแอนิเมชั่นมาก่อน เพราะฉะนั้น ครั้งที่สองที่อัดเสียง ฉันเข้าไปกับมือเขียนบท อย่างหนึ่งที่ฉันประหลาดใจก็คือ คุณจะไม่ได้ทำงานพร้อมกับนักแสดงคนอื่น คุณอาจได้เห็นภาพการ์ตูน 2-3 ภาพว่าตัวละครเป็นยังไง แล้วก้เริ่มบรรเลงเลย ฉันว่าฟรีด้าต้องมาจากนิวยอร์กแน่ๆ ฉันรู้สึกเหมือนรู้จักเธอ ฉันเจอคนแบบฟรีด้ามาก็เยอะ แต่ฉันว่าฟรีด้าคนนี้น่ารักที่สุด หายากนะที่ตัวร้าย โดยเฉพาะในแอนิเมชั่น จะไม่ร้ายมาก”
เกี่ยวกับความสนใจในภาพยนตร์
“ฉันเป็นแฟนนิทานพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก และคิดว่าต้องสนุกแน่ถ้านำมันมาพลิกแพลงให้ให้กลายเป้นตรงข้าม ฉันชอบไอเดียที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกผู้ร้ายลุกขึ้นมามีอำนาจ และพวกฝ่ายดีจะรับมือยังไง ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราเคยรู้ แล้วอะไรจะเปลี่ยนไปบ้าง ฉันก็เลยอยากมีส่วนร่วมกับมัน”
เกี่ยวกับตัวละคร “เอลล่า”
“ฉันเป็นแฟนนิทานพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก และคิดว่าต้องสนุกแน่ถ้านำมันมาพลิกแพลงให้ให้กลายเป้นตรงข้าม ฉันชอบไอเดียที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกผู้ร้ายลุกขึ้นมามีอำนาจ และพวกฝ่ายดีจะรับมือยังไง ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราเคยรู้ แล้วอะไรจะเปลี่ยนไปบ้าง ฉันก็เลยอยากมีส่วนร่วมกับมัน”
เกี่ยวกับตัวละคร “เอลล่า”
“ความจริงแค่รูปร่างหน้าตาของเอลล่าก็ต่างจากซินเดอเรลล่าที่เราคุ้นเคยแล้วนะ เพราะเธอผมสั้น ช่วงแรกเธอจะเหมือนกับซินเดอร์เรลล่าคือใฝ่ฝันถึงเจ้าชายตลอดเวลา ทุกอย่างเกือบจะจบลงอย่างมีความสุขอยู่แล้ว แต่ฟรีด้า แม่เลี้ยงของเธอวางแผนครองดินแดนเทพนิยายซะก่อน ชีวิตของเอลล่าก็เลยผิดแผน สุดท้ายเธอก็ต้องออกโรงสู้กับฟรีด้า โดยมีเพื่อนชายชื่อริค คอยช่วยเหลือ และสุดท้ายเธอก็พบรักกับริค ไม่ใช่เจ้าชาย”
เกี่ยวกับความสนใจในภาพยนตร์
“อย่างแรกที่ทำให้ผมสนใจคือการพลิกบทของตัวละคร และการทำลายนิทานทุกเรื่องไม่ให้จบอย่างมีความสุข ให้พวกตัวร้ายเป็นฝ่ายชนะ นั่นแหละคือสิ่งแรกที่ทำให้ผมสนใจ”
เกี่ยวกับตัวละคร “ริค”
“ริคเป็นพระเอกที่ไม่มีคุณสมบัติพระเอก เขาพยายามจะเป็นฮีโร่ แต่ลังเลที่จะสู้ เหมือน อินเดียน่า โจนส์ ที่บอกว่า ได้เลย ผมจะหยุดสงครามนี้เอง” “ริคเป็นคนล้างจาน เป็นผู้ชายธรรมดา เขาไม่อยากเข้าไปมีส่วนกับปัญหาใดๆ ไม่เคยคิดจะเป็นผู้นำกลุ่ม แต่เมื่อสถานการณ์บังคับ เขาก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยอยู่เคียงข้างคอยช่วยนางเอกตลอด ความจริงเขามีความเป็นผู้นำ แต่พยายามกลบเกลื่อนปกปิด เพราะไม่อยากแบกความรับผิดชอบ เมื่อถึงเวลา เขาทำพลาดนิดหน่อย แต่ก็คิดได้ และในที่สุดก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
เกี่ยวกับการทำงานในภาพยนตร์แอนิเมชั่น
“งานพากย์สนุกอยู่แล้วล่ะ ผมเคยทำสองสามครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ทำเต็มตัว และมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะคุณสามารถบ้าได้เต็มที่ คุณจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ และทีมงานก็สนับสนุนด้วย” แล้วการพากย์เสียงแอนิเมชั่นกับการแสดงภาพยนตร์ต่างกันยังไง
“โลกความจริงมีข้อจำกัด ในแอนิเมชั่นคุณสามารถตะโกนใส่หูใครซักคน แล้วคำนั้นอาจจะเข้าหูซ้าย ทะลุหูขวาของคนนั้น แล้วเด้งมากระแทกหน้าคุณ ก็เป็นไปได้ พวกเขาทำจริงๆนะ มันเป็นโลกที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ในโลกแห่งความจริงไม่มีหรอกครับที่คำพูดจะทะลุเข้าหูแล้วไหลออกมาตบคุณน่ะ”
เกี่ยวกับการทำงานกับภรรยา (ซาร่าห์ มิเชลล์ เกลล่าร์)
“สนุกดีครับ เพราะเราเข้ากันได้ดีอยู่แล้ว หรือไม่เราก็หวังว่าจะไม่ทำทุกอย่างพังก่อนจะเริ่ม เราเข้าไปพากย์เสียงในห้องเดียวกัน ฉากหนึ่ง ตัวละครของเธอทำผมโมโหและไม่พูดอะไรซักคำ ซาร่าห์เป็นแบบนั้นเลย (ผมก็ด้วย) เพราะฉะนั้น เวลาทั้งคู่มีปัญหา เราจะสนุกมาก เพราะเรารู้ว่าควรจะเล่นมุขอะไรใส่กันดี และเมื่อไหร่ที่ควรจะทำให้อีกฝ่ายนึงเครียด ซึ่งเราสนุกกันมาก และบทหนังก็มีฉากแบบนั้นเยอะซะด้วย เช่น ฉากที่เถียงกัน เขาอยากให้เธอบินไปด้วย แต่เธอไม่ยอม เพราะคิดว่าควรรอเจ้าชายมากกว่า แต่เจ้าชายก็ไม่ได้เรื่อง ตัวละครของผมพยายามทำสิ่งที่ถูก แต่เธอก็ไม่ยอมเชื่อ เราก็เลยสนุกที่ได้แสดงฉากแบบนี้”
เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในตัวละคร
“ไม่มีใครเป็นต้นแบบเฉพาะของตัวละครแต่ละตัวหรอกครับ เรามีแหล่งอ้างอิงเยอะ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือบุคลิกตัวละคร ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา เราสนใจมากกว่าว่าเขาคิดอะไร มีปฏิกิริยายังไง เดินยังไง พูดยังไง เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงบุคคลอ้างอิง ยกตัวอย่างนะครับ ออเดรย์ เฮปเบิร์น คือต้นแบบของเอลล่า เพราะเราตัดสินใจตังแต่แรกแล้วว่าจะให้เอลล่าผมสั้น เราต้องการให้รูปลักษณ์และบุคลิกของเธออกมาสวยน่ารัก
เราถ่ายวิดีโอคนในสตูดิโอบางคนไว้เพื่อเป็นต้นแบบตัวละคร ก็เลยได้ไอเดียดีๆมาใช้เยอะ มังค์กับมัมโบเป็นตัวละครที่เป็นการ์ตูนมากๆ นิสัยมัมโบจะซน ชอบหาเรื่องป่วน ไหลไปเรื่อย ส่วนมังค์จะเป็นหมูงุ่มง่าม ทำอะไรช้า ไม่ทันคน จะเห็นว่าตรงข้ามกัน แถมบังเอิญนักแสดงของเรายังเหมือนตัวละครด้วย นี่ไม่ได้ตั้งใจนะครับ”
เกี่ยวกับการทำงานกับนักแสดง
“ทำงานกับนักแสดงที่มีพรสวรรค์สนุกและน่าสนใจมากครับ เราทำงานกันที่นิวยอร์กและลอสแองเจลลิส ส่วนซิเกอร์นี่ย์ วีเวอร์ เข้าห้องพากย์กับมือเขียนบท ร็อบ มอร์แลนด์ ที่ฟิลาเดลเฟียหรือที่ไหนซักแห่ง ไม่ได้เข้าพร้อมกันน่ะครับ ครั้งแรกผมไปห้องเสียงที่แอลเอในการพากย์ครั้งแรก และเรามีผู้กำกับการพากย์มาทำงานกับผม ซึ่งเขาคอยกำกับการพูดของนักแสดง ผมเองก็มาจากวงการแอนิเมชั่น แต่รู้สึกว่าคราวนี้ผมเรียนรู้เร็วที่สุด
สนุกมากครับที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา ทุกคนมีฝีมือและรักหนังเรืองนี้ เราประทับใจที่นักแสดงยินดีช่วยเหลือเมื่อต้องอัดเสียงซ่อม หรือเมื่อมีการแก้บท พวกเขาจะกระตือรือร้นมาก มันน่าสนใจที่ได้เห็นพวกเขาทำงาน เพราะเราไม่ได้หวังหน้าตาเขา เราหวังเสียงเขา แต่เราก็อัดวิดีโอพวกเขาเอาไว้นะ เอาไว้เป็นต้นแบบสร้างตัวละคร โดยเฉพาะซาร่าห์ มิเชลล์ เกลล่าร์ กับตัวละครเอลล่า เราสังเกตการเดิน การแสดงออกทางสีหน้าของเธอ แต่ไม่ได้ก๊อปปี้นะ แค่ดูเป็นต้นแบบ”
เกี่ยวกับภาพรวมของหนัง
“ผมรู้สึกว่าหนังควรจะมีสไตล์เฉพาะตัว ไม่ต้องสมจริง เพราะฉะนั้นผมถึงเลือก ดีน เทย์เลอร์ มาช่วย เราสองคนตัดสินใจว่าไม่ต้องสนใจความสมจริง เราใช้งานออกแบบสถาปัตย์ของ โกดิ เป็นต้นแบบ ส่วนการออกแบบตัวละคร ผมทำเอง จากนั้นทีมพัฒนาตัวละครและทีมออกแบบคือคนที่ทำให้มันมีชีวิต เพราะฉะนั้นบรรยากาศในหนังจะเหมือนแกในละคร เหมือนมีคนสร้างมันขึ้นมา ถ้าปีนขึ้นไปบนต้นไม้ มันอาจไม่ใช่ต้นไม้เลยก็ได้ อาจเป็นแค่แท่งไฟเบอร์กลาส ทุกอย่างเหมือนใช้มือประดิษฐ์ขึ้นมา ตัวละครก็เหมือนกัน พวกเขาเหมือนการ์ตูนล้อเลียนคน ไม่สมจริง เราพยายามจับภาพ แล้วนำภาพไปทำเป็น 3 มิติ ซึ่งภาพจะแปลกๆหน่อย แต่ก็ไม่ต่างจากที่คนดูเคยเห็นมาก ผมพยายามทำให้ดูคุ้นเคย โดยพื้นฐานแล้วผมอ้างอิงงานของโกดิ จากหนังสือการ์ตูน นิยายภาพ ผมเอ่ยชื่อศิลปินได้เป็น 10 ชื่อเลยที่ผมใช้งานของเขาเป็นต้นแบบ แต่แหล่งวัตถุดิบที่สำคัญที่สุดคือสมองของทีมงานเราเองที่ใส่แสงสีเข้าไป สุดท้ายเราก็ได้งานศิลป์ที่สวยงาม และส่งต่อให้ทีม CG ซึ่งทำงานได้เยี่ยมมาก งานออกมาเหมือนภาพที่วาดเลย เว้นแต่เป็น 3 มิติเท่านั้นแหละ เพราะฉะนั้นมันมีรูปร่าง จับต้องได้ โดยมีพื้นฐานมาจากภาพประกอบนิทาน
เครดิตทีมพากย์
ซาร่าห์ มิเชลล์ เกลล่าร์ พากย์เสียง เอลล่า
ผลงาน >> Buffy the Vampire Slayer (ทีวีซีรี่ย์), I Know What You Did Last Summer, Scream 2, Cruel Intention, Scooby-Doo, Scooby-Doo 2: Monster Unleashed, The Grudge, The Grudge 2, The Return
เฟรดดี้ พรินซ์ จูเนียร์ พากย์เสียง ริค
ผลงาน >> I Know What You Did Last Summer, She’s All That, Wing Commander, Down to You, Boys and Girl, Head Over Heels, Scooby-Doo, Scooby-Doo 2: Monster Unleashed
วิเกอร์นี่ย์ วีเวอร์ พากย์เสียง ฟรีด้า
ผลงาน >> Alien, Ghost Busters, Aliens, Ghost Buster II, Alien3, Death and the Maiden, Copycat, The Ice Storm, Alien: Resurrection, Galaxy Quest, Heartbreakers, Tadpole, Imaginary Heroes, Holes, The Village
เครดิตทีมสร้าง
พอล เจ โบลเกอร์ — กำกับภาพยนตร์
ผลงาน >> แอนิเมเตอร์ภาพยนตร์เรื่อง Cool World, The Princess and the Cobbler
จอห์น เอช วิลเลี่ยมส์ — อำนวยการสร้าง
ผลงาน >> Shrek, Shrek 2, Shrek 3, Valiant, Seven Years in Tibet, The Tuxedo
ร็อบบ์ มอร์แลนด์ — เขียนบท
ผลงาน >> Thunder pig, Ground Control
ดีน เทย์เลอร์ — ออกแบบงานสร้าง
ผลงาน >> The Nightmare before Christmas, All Dogs Go to Heaven 2
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ