กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--โตโยต้า มอเตอร์
          นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนมิถุนายน 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 70,557 คัน เพิ่มขึ้น 62.6% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 32,946 คัน เพิ่มขึ้น 75.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 37,611 คัน เพิ่มขึ้น 52.5% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 31,327 คัน เพิ่มขึ้น 46.7%    
          ประเด็นสำคัญ
          1.) ตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายน มีปริมาณการขาย 70,557 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายของเดือนมิถุนายน และมีอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 62.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดรถยนต์นั่งที่มีปริมาณการขาย 32,946 คัน เพิ่มขึ้น 75.7% ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งยังมีส่วนหนึ่งที่ค้างส่งมอบและได้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 52.5% เป็นอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัว ตลอดจนบรรยากาศทางการเมืองที่คลี่คลายได้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค
          2.) ตลาดรถยนต์สะสม 6 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 356,692 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่โดยมีปริมาณการขายสูงกว่ายอดขายสะสม 6 เดือนแรกของปี 2548 กว่า 10,700 คัน ซึ่งในปี 2548 มียอดขายรวมทั้งปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 703,432 คัน และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 54.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยเป็นการเติบโตที่ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 ทั้งนี้ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 59.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50.3% สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากกำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาก ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม
          3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน กรกฎาคม ยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่ทยอยแนะนำเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งบางรุ่นยังคงมียอดค้างส่งมอบแม้ว่าจะได้มีปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องของบริษัทรถยนต์ต่างๆ ประกอบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และราคาสินค้าทางการเกษตรอาทิ ยางพารา และ มันสำปะหลังที่ดีขึ้นซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
          ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนมิถุนายน 2553
          1.)   ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 70,557 คัน เพิ่มขึ้น 62.6%                              
                อันดับที่ 1 โตโยต้า        26,969 คัน             เพิ่มขึ้น  43.1%        ส่วนแบ่งตลาด 38.2%          
                อันดับที่ 2 อีซูซุ           12,687 คัน             เพิ่มขึ้น  50.1%        ส่วนแบ่งตลาด 18.0%          
                อันดับที่ 3 ฮอนด้า         12,535 คัน             เพิ่มขึ้น  71.2%        ส่วนแบ่งตลาด 17.8%         
          2.)   ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 32,946 คัน เพิ่มขึ้น 75.7%                                
                อันดับที่ 1 โตโยต้า        12,018 คัน             เพิ่มขึ้น 46.6%         ส่วนแบ่งตลาด 36.5%       
                อันดับที่ 2 ฮอนด้า         11,175 คัน             เพิ่มขึ้น 64.3%         ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
                อันดับที่ 3 นิสสัน           3,576 คัน             เพิ่มขึ้น 261.2%        ส่วนแบ่งตลาด  10.9% 
          3.)   ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน*  (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย  31,327 คัน เพิ่มขึ้น 46.7%
                อันดับที่ 1 โตโยต้า        13,002 คัน             เพิ่มขึ้น  34.4%        ส่วนแบ่งตลาด 41.5% 
                อันดับที่ 2 อีซูซุ           11,920 คัน             เพิ่มขึ้น  50.5%        ส่วนแบ่งตลาด 38.1% 
                อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ          2,765 คัน             เพิ่มขึ้น 157.2%        ส่วนแบ่งตลาด  8.8%  
          *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 2,461 คัน
          โตโยต้า 977 คัน- มิตซูบิชิ 847 คัน - อีซูซุ 564 คัน - ฟอร์ด 73 คัน
          4.)   ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย  28,866 คัน เพิ่มขึ้น 50.1%
                อันดับที่ 1 โตโยต้า        12,025 คัน             เพิ่มขึ้น  43.2%        ส่วนแบ่งตลาด 41.7%  
                อันดับที่ 2 อีซูซุ           11,356 คัน             เพิ่มขึ้น  51.1%        ส่วนแบ่งตลาด 39.3%  
                อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ          1,918 คัน             เพิ่มขึ้น 192.4%        ส่วนแบ่งตลาด  6.6% 
          5.)   ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 37,611 คัน เพิ่มขึ้น 52.5%                    
                อันดับที่ 1 โตโยต้า        14,951 คัน             เพิ่มขึ้น  40.4%        ส่วนแบ่งตลาด 39.8%   
                อันดับที่ 2 อีซูซุ           12,687 คัน             เพิ่มขึ้น  50.1%        ส่วนแบ่งตลาด 33.7%   
                อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ          2,765 คัน             เพิ่มขึ้น  157.2%       ส่วนแบ่งตลาด  7.4%   
          สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — มิถุนายน 2553
          1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 356,692 คัน เพิ่มขึ้น 54.1%                              
             อันดับที่ 1 โตโยต้า          144,745 คัน             เพิ่มขึ้น   51.8%       ส่วนแบ่งตลาด 40.6%  
             อันดับที่ 2 อีซูซุ              70,552 คัน             เพิ่มขึ้น   44.4%       ส่วนแบ่งตลาด 19.8%  
             อันดับที่ 3 ฮอนด้า            51,782 คัน             เพิ่มขึ้น   29.6%       ส่วนแบ่งตลาด 14.5%   
          2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 153,275 คัน เพิ่มขึ้น 59.6%                                
             อันดับที่ 1 โตโยต้า           62,532 คัน             เพิ่มขึ้น    50.5%      ส่วนแบ่งตลาด 40.8% 
             อันดับที่ 2 ฮอนด้า            47,462 คัน             เพิ่มขึ้น    25.6%      ส่วนแบ่งตลาด 31.0% 
             อันดับที่ 3 มาสด้า            14,457 คัน             เพิ่มขึ้น   523.1%      ส่วนแบ่งตลาด  9.4% 
          3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย  173,393 คัน เพิ่มขึ้น  47.3%
             อันดับที่ 1 โตโยต้า          72,996 คัน              เพิ่มขึ้น   50.0%       ส่วนแบ่งตลาด 42.1%  
             อันดับที่ 2 อีซูซุ             65,848 คัน              เพิ่มขึ้น    43.5%      ส่วนแบ่งตลาด 38.0% 
             อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ           12,818 คัน              เพิ่มขึ้น    101.0%     ส่วนแบ่งตลาด  7.4%  
          *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 18,112 คัน
          โตโยต้า 9,327 คัน - มิตซูบิชิ 5,077 คัน - อีซูซุ 3,279 คัน - ฟอร์ด 429 คัน
          4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 155,281 คัน เพิ่มขึ้น 46.8%
             อันดับที่ 1 โตโยต้า          63,669 คัน               เพิ่มขึ้น    52.2%     ส่วนแบ่งตลาด 41.0%  
             อันดับที่ 2 อีซูซุ             62,569 คัน               เพิ่มขึ้น    43.8%     ส่วนแบ่งตลาด 40.3% 
             อันดับที่ 3 นิสสัน            10,879 คัน               เพิ่มขึ้น    29.1%     ส่วนแบ่งตลาด  7.0%  
          5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 203,417 คัน เพิ่มขึ้น 50.3%                    
             อันดับที่ 1 โตโยต้า          82,213 คัน               เพิ่มขึ้น   52.8%      ส่วนแบ่งตลาด 40.4%  
             อันดับที่ 2 อีซูซุ             70,552 คัน               เพิ่มขึ้น   44.4%      ส่วนแบ่งตลาด 34.7%  
             อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ           12,819 คัน               เพิ่มขึ้น  101.0%      ส่วนแบ่งตลาด  6.3%