สุขภาพสามเณรน่าเป็นห่วง สำรวจพบ80%เป็นโรคฟันผุ

ข่าวทั่วไป Monday July 19, 2010 14:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--สสส. พบสามเณรเป็นโรคฟันผุสูงถึงร้อยละ 80 ตรวจสุขภาพพบไม่ได้ออกกำลังกาย บริโภคอาหารไม่เหมาะสม อ้างสาเหตุเพราะต้องปฏิบัติตามกฎสามเณร ทำให้เกิดข้อจำกัดในการดูแลสุขภาพ สสส.แนะสร้างรูปแบบการออกกำลังกายและวิธีการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับสามเณร ผศ.ดร.พิมพาภรณ์ กลั่นกลิ่น คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะหัวหน้าโครงการกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพสามเณรวัดศรีโสดา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพสามเณรวัดศรีโสดา ถือเป็นกรณีศึกษาของนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยชียงใหม่ ที่เลือกเอาวัดศรีโสดา พระอารามหลวง เป็นสถานที่ทำโครงการ เพราะวัดแห่งนี้จัดเป็นโรงเรียนสำหรับสามเณรชาวเขาที่ด้อยโอกาส มีลักษณะเป็นโรงเรียนประจำ มีสามเณรทั้งสิ้น 305 รูป พระสงฆ์ 68 รูป ถือเป็นชุมชนขนาดย่อมที่อาศัยอยู่กันแออัด และพบว่าสามเณรกำลังประสบปัญหาด้านสุขภาพอนามัย ผศ.ดร.พิมพาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาด้านสุขภาพที่พบมากที่สุด ได้แก่ โรคฟันผุ มีถึงร้อยละ 80 ทั้งนี้เพราะขาดการเอาใจใส่ แปรงฟันไม่ถูกวิธี โรคผิวหนัง ผื่นคัน เนื่องจากไม่มีคนคอยแนะนำให้รักษาสุขภาพ สามเณรบางรูปไม่เห็นความสำคัญของการรักษาความสะอาด ขาดการออกกำลังกาย การบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม ขาดความรู้ในการป้องกันโรคและการดูแลสุขภาพตนเอง บางทีมีอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ หวัด ท้องร่วง ก็จะหายากินกันเอง กลัวการไปโรงพยาบาล บางคนก็รอให้เจ็บจนทนไม่ไหวถึงค่อยบอกพระอาจารย์ ประกอบกับเด็กและเยาวชนเหล่านี้ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสามเณร เช่น การถือศีล การสำรวมกาย วาจา ใจ เป็นต้น ทำให้เกิดข้อจำกัดในการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้สุขภาพร่างกายรวมไปถึงสุขภาพจิต และวุฒิภาวะอารมณ์ ของสามเณรไม่ได้รับการดูแลหรือประพฤติที่เหมาะสม ด้าน พระชินภัทร ชินภทฺโท พระผู้รับผิดชอบโครงการกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพฯ โดย สสส. กล่าวเสริมว่า อย่างเช่นช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือ ไข้หวัดใหญ่ 2009 ทางวัดก็มีสามเณรป่วยเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจากการตรวจไม่ใช่โรคไข้หวัด 2009 ก็ตาม แต่ก็ทำให้เกิดความตื่นตระหนก การแก้ปัญหาจากนี้ไปก็จะให้สามเณรรักษาสุขภาพ หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ “หลังจากที่เราได้สำรวจปัญหาด้านสุขภาพ และได้ให้แนวทางในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพแล้ว ก็ได้จัดตั้งกลุ่มผู้นำสามเณร หรือแกนนำสามเณรในการดูแลสุขภาพและสร้างเสริมสุขภาพสามเณรในวัดศรีโสดา ให้มีความเข้มแข็ง สามารถประสานงานกับทั้งหน่วยงานของภาครัฐและภาคีที่เกี่ยวข้องได้ต่อไป” พระชินภัทร กล่าว ทางด้าน นพ.ชาตรี เจริญศิริ กรรมการบริหารสำนักเปิดรับทั่วไป สสส. ให้ความเห็นว่า สามเณรที่บวชเรียนนั้นกระบวนการเรียนรู้ การศึกษา สิ่งแวดล้อม การรับประทานอาหาร การเข้าถึงด้านต่างๆ นั้น จะแตกต่างจากเด็กทั่วไป เนื่องด้วยข้อจำกัดในการเป็นสามเณร ซึ่งปัจจุบันทั่วประเทศมีสามเณรประมาณ 5 แสนรูป แน่นอนว่าส่วนหนึ่งย่อมเกิดปัญหาเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับสามเณรวัดศรีโสดา เมื่อคณะทำงานได้เข้าไปศึกษา และสำรวจสุขภาพของสามเณรแล้ว จะทำให้ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น โดยมีต้นเหตุและกระบวนการแก้ปัญหานั้นต้องทำอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วก็จะสามารถนำมาวางแผนและสร้างรูปแบบการออกกำลังกายและวิธีการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับสามเณรได้ และเชื่อว่าเมื่อกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพสามเณรวัดศรีโสดาแล้วเสร็จ จะทำให้องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ได้หันมาสนใจถึงปัญหานี้ จนนำไปสู่การสำรวจและการสร้างเสริมสุขภาพสามเณรทั่วประเทศต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ