กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--กทม.
รองผู้ว่าฯ พนิช พร้อมผู้บริหารกทม. ลงพื้นที่ตรวจการเดินเรือของห้างหุ้นส่วนจำกัดครอบครัวขนส่ง การเตรียมการปรับปรุงท่าเทียบเรือ รับทราบปัญหาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาการเดินเรือคลองแสนแสบ ให้ได้มาตรฐานและปลอดภัย เชื่อมโยงระบบขนส่งมวลชนทุกระบบ
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง และข้าราชการเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจการเดินเรือของห้างหุ้นส่วนจำกัดครอบครัวขนส่ง การเตรียมการปรับปรุงท่าเทียบเรือ รับทราบปัญหาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาการเดินเรือคลองแสนแสบ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเดินเรือในคลองแสนแสบปัจจุบัน ดำเนินการโดยห้างหุ้นส่วนจำกัดครอบครัวขนส่ง ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี มีจำนวนท่าเรือ 27 ท่า ระยะทาง 17 กิโลเมตร มีผู้โดยสารประมาณวันละ 5 หมื่นคน ซึ่งการตรวจเยี่ยมครั้งนี้เพื่อทราบปัญหาอุปสรรค การดำเนินการด้านความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งในคราวประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ตนได้รายงานให้ที่ประชุมทราบสถานการณ์เดินเรือในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และกรุงเทพมหานครมีนโยบายให้เกิดการเชื่อมโยงการเดินทางให้เต็มระบบ ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
สำหรับท่าเรือในคลองแสนแสบนั้นจะได้รวบรวมข้อมูลการเดินเรือ ปัญหาอุปสรรค และข้อมูลการดำเนินการทั้งหมดเสนอคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครภายใน 1 เดือนนับจากนี้ เพื่อกำหนดเป็นนโยบายการเดินเรือในคลองแสนแสบอย่างเป็นระบบ และจะพิจารณาตั้งงบประมาณประจำปีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมท่าเรือ ปรับปรุงท่าเรือบางท่าที่มีประชาชนมาใช้เป็นจำนวนมากให้มีความแข็งแรง และขนาดใหญ่ขึ้นรองรับกับปริมาณผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต หากมีการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบแล้ว นอกจากนั้นยังจะมีการเปลี่ยนแปลงท่าเรือให้เหมาะสมกับการเชื่อมโยงระหว่างระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ซึ่งจะหารือในรายละเอียดกับคณะกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางน้ำของกรุงเทพมหานคร
สำหรับสิ่งแวดล้อมรอบๆ คลองแสนแสบที่ได้รับผลกระทบจากการเดินเรือ ทางกรุงเทพมหานครได้ตั้งงบประมาณสำหรับการซ่อมแซม ทั้งเขื่อนริมคลอง ทางเดินริมคลอง ผนังกั้น ประมาณปีละ 100 ล้านบาท และผลกระทบจากมลภาวะทางเสียงนั้น สำนักสิ่งแวดล้อมได้วัดระดับเสียงแล้วระดับเสียงไม่เกินมาตรฐานแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ก็จะได้ประสานกับผู้ประกอบการเดินเรือให้ตรวจสอบระดับเสียงของเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอไม่ให้รบกวนประชาชน นอกนั้นยังได้กำชับเรื่องของความปลอดภัยในการขึ่น-ลงเรือให้ประชาชนได้รับความสะดวกและปลอกภัยมากที่สุด