กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีด้านบริการและการลงทุนที่มีผลใช้บังคับแล้ว 3 ฉบับ
นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นอกจากการเจรจาเขตการค้าเสรีในเวทีอาเซียน ซึ่งไทยได้เริ่มเจรจามาตั้งแต่ปี 2510 แล้ว ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ไทยได้กำหนดให้การเจรจาการค้าเสรีแบบทวิภาคี เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขยายช่องทางการค้าและการลงทุน โดยในส่วนของภาคบริการ คู่เจรจาของไทยได้เปิดตลาดบริการให้ไทยแล้ว 3 ประเทศคือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น ปี 2550 จึงเป็นปีที่คนไทยต้องเร่งใช้ประโยชน์จากการเจรจา ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เห็นความสำคัญของการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากFTA ในภูมิภาคต่างๆ โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม ได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้งคือจังหวัดอุบลราชธานีและสงขลา และจากการประเมินผลการสัมมนา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีที่ได้ลงนามไปแล้วเท่าที่ควร ซึ่งกรมฯจะเร่งประชาสัมพันธ์ต่อไป
สำหรับการสัมมนา 2 ครั้งที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ความเห็นว่า เป็นจุดเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐกับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถใช้เป็นเวทีที่สะท้อนปัญหาการทำธุรกิจที่แท้จริง แต่มีข้อเสนอว่า ภาครัฐควรเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับข้อควรระวังและผลกระทบจาก FTA ควบคู่กับการใช้ประโยชน์
นายวินิจฉัยกล่าวปิดท้ายว่า การเผยแพร่และสร้างความเข้าใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงประโยชน์ ผลกระทบ ตลอดจนแนวทางปรับตัว ถือเป็นหน้าที่หนึ่งที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมสัมมนา กรมฯจะปรับปรุงให้เหมาะสมสำหรับการสัมมนาที่จะจัดขึ้นในครั้งต่อไป