กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
ชีวิตคนเมืองทุกวันนี้มองไปทางไหนก็มีแต่ความรีบเร่ง คนกึ่งเดินกึ่งวิ่งขึ้นรถไฟฟ้า หน้าดำคร่ำเครียด กดมือถือตู๊ดๆๆๆ ดูข่าวสาร ดูกระดานหุ้นกันทั้งวัน หิวหน่อยแต่ไม่มีเวลาก็พึ่งบริการอาหารฟาสต์ฟู้ดซึ่งหาซื้อได้ง่ายและหลายแบรนด์ แต่ถ้ามีเวลาหน่อยก็เลือกทานอาหารดีๆ นิดนึง เย็นพอมีเวลาดูแลตัวเองก็ไปเข้าฟิตเนสที่เป็นสมาชิกซะหน่อย ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวพอให้ได้เหงื่อ สุดท้ายถ้าอยากให้รางวัลตัวเอง ก็แวะร้านอาหารชิลล์ๆ กับเพื่อน
สิ้นปีไปตรวจสุขภาพ ต๊าย ทำไมคอเลสเตอรอลยังพุ่ง น้ำตาลในเลือดยังสูง ไลฟ์สไตล์อย่างนี้ยังไม่สมดุลตรงไหน เฮ้อ!! จะหลีกเลี่ยงให้ไม่เครียดกับงานก็คงเป็นไปไมได้ อาหารถ้ามีโอกาสก็พยายามเลือกที่ดีที่สุด แต่บางทีก็ยังมีโรค แล้วสุดท้ายเราจะดูแลตัวเองอย่างไรดีนะ เรื่องแบบนี้คงต้องพึ่งคุณหมอให้คำตอบเสียแล้ว
นายแพทย์จรัน มาลฮอตรา ผู้อำนวยการศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช เล่าให้ฟังว่า ผู้ที่เข้ามาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลปัจจุบันนี้ยังพบปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูงจำนวนมาก รวมถึงน้ำหนักเกินค่ามาตรฐานของดัชนีมวลกาย หรือพูดง่ายๆ ก็คืออยู่ในภาวะอ้วนนั่นเอง
บางครั้งคนที่มาตรวจสุขภาพก็ดูแลตัวเองดี แต่เมื่อมาดูไลฟ์สไตล์แล้วพบว่าดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ว่าหญิงหรือชายก็มีอัตราการดื่มแอลกอฮอล์สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางสังคมหรืออะไรก็ตาม แต่พฤติกรรมเช่นนี้ก็มีผลต่อสุขภาพ ขณะที่วิถีชีวิตคนเมืองที่เร่งรีบตอนเช้าจนละเลยอาหารมื้อสำคัญ แต่ไปเน้นหนักอาหารมื้อเย็น ก็มีผลต่อสุขภาพตามมาเช่นกัน
คุณหมอบอกว่า แม้ว่ากระแสการหันมาใส่ใจสุขภาพของคนไทยจะเริ่มเห็นการตื่นตัวมากขึ้น เห็นได้จากศูนย์ฟิตเนสที่ผุดราวกับดอกเห็ด ของอย่างนี้ไม่มีดีมานด์ก็ไม่มีซัพพลาย แถมอาหารที่โฆษณาว่าเพื่อสุขภาพก็ยังมีให้เลือกมากมาย แต่คนที่มีปัญหาสุขภาพก็ยังมีให้เห็นอยู่ นั่นเป็นเพราะเราอาจจะมีความเข้าใจผิดบางเรื่องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
ยกตัวอย่างเช่นบางคนที่มีความคิดว่าถ้าไม่อยากอ้วน ไม่อยากมีคอเลสเตอรอลสูงก็ต้องออกกำลังกาย แต่เมื่อออกกำลังกายแล้วก็เหนื่อย จึงทานเต็มที่ ที่สำคัญเข้าใจผิดว่าอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูงคืออาหารทอด อาหารมันเท่านั้น ทั้งที่จริงๆ แล้ว อาหารกลุ่มนี้คืออาหารทะเลที่มีเปลือก (Shellfish) เช่น กุ้ง ปู ปลาหมึก เครื่องใน ไข่แดง แถมอาหารสมัยนี้ก็ยังเน้นเทรนด์อาหารที่มีเนย ชีส เช่น พิซซ่า ซึ่งมีส่วนทำให้อ้วนได้มาก
อีกประเด็นที่น่าห่วงคือการบริโภคน้ำตาลโดยไม่รู้ตัว เช่นจากน้ำหวาน หรือน้ำชาเขียวที่กำลังนิยมกันทั่วบ้านทั่วเมือง โดยหารู้ไม่ว่าน้ำชาเขียวที่ผสมรสชาติต่างๆ บางทีมีปริมาณน้ำตาลมากถึง 3-4 ช้อนเลยทีเดียว
“เรายังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เกี่ยวกับชนิดอาหาร ถ้าเราทานอาหารที่ไขมันและคอเลสเตอรอลสูง รวมถึงทานอาหารโดยไม่มีความรู้จริงเพียงพอ ถ้าออกกำลังกายน้อย หรือว่าใช้พลังงานน้อย ก็ยังเจอปัญหาอ้วนและคอเลสเตอรอลสูง ดังนั้นจะออกกำลังกายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเข้าใจการบริโภคที่ถูกต้องด้วย จึงจะเป็นการบาลานซ์การใช้ชีวิตอย่างถูกทาง”
นายแพทย์จรันระบุว่า ปัจจุบันวงการการแพทย์เปลี่ยนค่ามาตรฐานของความเหมาะสมของระดับน้ำตาลในเลือดจากเดิมควรจะไม่เกิน 110 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เป็นไม่เกิน 99 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เพราะเห็นว่าค่ามาตรฐานเดิมสูงเกินไป เมื่อปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงถึงค่าดังกล่าว แล้วจะลดปริมาณน้ำตาลในเลือดลง อาจจะเป็นเรื่องยาก จึงควรควบคุมตั้งแต่ระดับต่ำๆ
คุณหมอแนะนำการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง เพื่อให้คนเมืองมี Wellness Lifestyle ที่ดีว่า เริ่มแรกที่การบริโภค ต้องไม่เยอะเกินกว่าความต้องการของร่างกาย ต้องรู้จักตัวเองเพื่อให้เลือกทานอาหารที่เหมาะสม เช่นหากมีไขมันสูงก็ต้องเลี่ยงอาหารทะเล เครื่องใน เนย ไข่แดง ชีส หากดื่มน้ำ น้ำเปล่าเป็นน้ำที่ดีที่สุด เพราะไม่เพิ่มสารอะไรเข้าร่างกายโดยไม่จำเป็น และต้องทานอย่างมีความรู้ อ่านฉลากสินค้าให้ละเอียดก่อนเลือกบริโภค
ส่วนการออกกำลังกายก็ควรทำอย่างสม่ำเสมอ และไม่จำเป็นต้องเป็นการเล่นกีฬาเสมอไป เพียงแต่ได้ขยับๆ ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์หากขึ้นเพียงไม่กี่ชั้น จอดรถไกลขึ้นเพื่อให้เดินได้มากขึ้น แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ30นาที และ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ และถ้านั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เยอะก็พักสายตาบ้าง ยืดเส้นยืดสายตามท่าที่มีการแนะนำ
และสิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือการสงบจิตใจด้วยการนั่งสมาธิ ให้เราได้นิ่งอยู่กับตัวเอง นั่งฟังเพลงเบาๆขณะขับรถ ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าใส่หูฟังปิดเสียงรอบข้างก็ได้ ถือเป็นการcool down ตัวเอง ลดความเครียดลงได้เยอะ
การตรวจสุขภาพประจำปีก็มีความสำคัญมากในปัจจุบัน ร่างกายคนเราถ้าเปรียบเหมือนรถยนต์ก็ควรตรวจเช็คสภาพ การได้มีโอกาสพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพ คงไม่มีใครเถียงได้ว่าไม่มีประโยชน์ บางทีเราจะได้รู้ความผิดปกติในสิ่งที่ไม่เคยรู้และไม่คิดว่าจะเป็น จะได้ดูแลรักษา หรือ ป้องกันแต่เนิ่นๆ
“คนที่มาตรวจสุขภาพทุกวันนี้ก็มีพัฒนาการ หลังไข้หวัด 2009 ระบาด เริ่มมีคนสนใจที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคมากขึ้น ทำให้การฉีดวัคซีนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ และเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนไทยเริ่มสนใจ และภายในเดือนเมษายนนี้จะมีการบรรจุเชื้อไข้หวัด 2009(H1N1) ในวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี2010ด้วย”
ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำคุณหมอได้ Wellness Lifestyle ที่ดีก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม หากอยากรู้เทรนด์สุขภาพเพิ่มเติม หรือหาอาหารที่มีประโยชน์ แนวทางการออกกำลังการที่เหมาะสมกับตัวเอง เร็วๆ นี้ก็จะมีงาน Thailand Health & Wellness 2010 ระหว่างวันที่ 26-29 สิงหาคม 2553 ที่อิมแพค เมืองทองธานี แวะไปอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ได้ แล้วสุขภาวะที่ดีก็เริ่มต้นสร้างได้ง่ายนิดเดียว