กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--กทม. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ตนได้ร่วมอภิปรายในหัวข้อพลังงานทางเลือกด้านการขนส่ง ร่วมกับนายกเทศมนตรีเมืองโบโกต้า นายกเทศมนตรีเมืองฟิลาเดเฟีย และผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เซลล์ ปิโตรเลียม โดยเมืองใหญ่ต่างๆ ได้พุ่งเป้าหมายไปที่การส่งเสริมให้ใช้พลังงานทางเลือก หรือพลังงานสะอาดในระบบการขนส่ง เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานครจะต้องพยายามผลักดันให้เกิดพลังงานทางเลือกขึ้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของรถยนต์กว่า 5.5 ล้านคันที่มีอยู่ในกรุงเทพฯ ขณะนี้ ซึ่งบางส่วนเป็นเครื่องยนต์เก่าที่ก่อให้เกิดปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูง อันเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนและมลภาวะทางอากาศ นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่จะทำหลังจากนี้คือ การสำรวจให้ได้แน่ชัดว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีรถยนต์กี่คันที่ยังไม่ได้ใช้พลังงานสะอาด และจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคเอกชน กำหนดแผนปฏิบัติการร่วมกันว่า ในแต่ละปีจะสามารถลดจำนวนรถยนต์ที่ไม่ใช้พลังงานสะอาดได้เท่าไร โดยจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อจูงใจให้เจ้าของรถหันมาใช้พลังงานสะอาด ก๊าซธรรมชาติแทนในทำนองเดียวกับที่กทม. กำลังร่วมกับภาคเอกชนจัดกิจกรรมแลกหลอดไส้มาเป็นหลอดไฟประหยัดพลังงาน ซึ่งนอกจากจะประหยัดเงิน ประหยัดพลังงานแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และลดการซ้ำเติมภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย