บทสัมภาษณ์ “จิตติกร สรจันทร์” นักแสดงหน้าใหม่ถอดด้าม ในโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ “น้ำตาลแดง” ตอน “รักต้องลุ้น” กับการแสดงแนวอิโรติก ผลงานครั้งแรกในชีวิต

ข่าวบันเทิง Tuesday August 24, 2010 10:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--สหมงคลฟิล์ม Q: ก่อนอื่นต้องให้แนะนำตัวกันหน่อยสำหรับน้องใหม่ ถอดด้าม K: สวัสดีครับ ผม จิตติกร สรจันทร์ ชื่อเล่น กร ครับ Q: เข้ามาร่วมโปรเจ็คต์ “น้ำตาลแดง” ได้อย่างไร K: เริ่มจากที่ผมได้คุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยครับ แล้วอาจารย์ก็บอกว่ามีโปรเจ็คต์ “น้ำตาลแดง” เป็นภาพยนตร์แนวอิโรติก ซึ่งกำลังหานักแสดงอยู่พอดี ผมก็เริ่มสนใจและลองเข้าไปแคสติ้งตามที่อาจารย์แนะนำ แล้วก็ได้รับเลือกให้แสดงในตอนรักต้องลุ้นครับ Q: มุมมองส่วนตัว มีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับภาพยนตร์แนวอิโรติก K: มุมมองส่วนตัวผมเองนะครับ สำหรับภาพยนตร์อิโรติก เป็นการนำเสนอและสื่อความหมายในเรื่องเซ็กส์ที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งผมคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องเจาะจงว่าจะต้องเน้นถึงการเร้าอารม์อย่างเดียว แต่ว่าหนังอิโรติกบางเรื่องก็ถูกนำเสนอที่แฝงไปด้วยข้อคิด แง่คิดต่างๆ หรือมุมมองการนำเสนอตามแต่ผู้กำกับแต่ละเรื่องจะถ่ายทอดออกมาผ่านทางอารมณ์หนังของแต่ละคนนะครับ Q: ในโปรเจ็คต์ “น้ำตาลแดง1” ตอน รักต้องลุ้น รับบทเป็นใครและมีคาแร็คเตอร์อย่างไร K: ใน ตอนรักต้องลุ้น ผมก็รับบทเป็น โจ๊ก ครับ คาแร็คเตอร์เป็นเด็กผู้ชายธรรมดาๆคนนึง มีนิสัยค่อนข้างขี้อาย จะทำอะไรก็กล้าๆกลัวๆ แต่พอถึงเรื่องที่ต้องเอาจริงเอาจัง หรือเรื่องเกี่ยวกับเซ็กส์จะดูกระตือรือร้น และสนใจเป็นพิเศษ ไม่ได้บ้ากามนะครับ แต่ว่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าผู้คนหรือข้างนอกในที่สาธารณะจะไม่กล้าแม้แต่จับมือ พออยู่ในบ้านสองต่อสองก็จะกล้ามากกว่าครับ Q: แสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิต แถมยังเป็นแนวอิโรติก มีฉากเลิฟซีนอีกด้วย ยากไหมสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ถอดด้ามขนาดนี้ K: ก่อนหน้านี้ผมเคยเล่นหนังสั้นมาก่อนครับ แต่สำหรับผลงานด้านภาพยนตร์ น้ำตาลแดง1-รักต้องลุ้น ถือว่าเป็นเรื่องแรกของผม กับบทของโจ๊ก ต้องยอมรับก่อนว่าค่อนข้างคล้ายกับชีวิตจริงอยู่เหมือนกัน เช่นบางทีจะเงียบๆไม่ค่อยพูด ชอบเหม่อลอยบ้างเล็กน้อย และก็ชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียว(หัวเราะ) ถึงจะคล้ายๆตัวผม แต่ต้องบอกว่ายากอยู่นะครับโดยเฉพาะฉากที่ต้องสื่ออารมณ์ระหว่างผมกับแอ๊นซ์(นางเอกในตอนรักต้องลุ้น) ซึ่งตอนอ่านบทผมจะพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวละครให้มากที่สุด Q: แล้วฉากเลิฟซีนที่ทำให้หนักใจหรือว่ายาก จนต้องเทคแล้วเทคอีกกว่าจะผ่านล่ะ มีบ้างไหม K: ฉากเลิฟซีนสุดหินของผมเป็นฉากโซฟาครับ เริ่มเลยจะต้องเป็นการเล่นเกมส์ทายตรงกับใจกันก่อนระหว่างตัวละคร โจ๊กกับต่าย ซึ่งในฉากนี้จะต้องปรับระดับอารมณ์สื่อความรู้สึกออกมาตามลำดับอย่างค่อยๆขึ้นไปจนสุดนะ รวมถึงการแสดงสีหน้า ท่าทางอากับกิริยาที่ต้องถ่ายทอดออกมา ในแง่การแสดงอารมณ์ผมต้องศึกษาและทำการบ้านกับบทมาพอสมควรนะครับ เพราะในฉากนั้นผมเล่นเกมส์แพ้แล้วจะต้องถอดกางเกงออก ซึ่งพี่โอ(ผู้กำกับ) จะปล่อยให้ไหลไปตามอารมณ์ แต่ก็มีเทค มีหลุด สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ ผมว่าซีนอารมณ์ที่ต้องถ่ายทอดออกมาเนี่ยยากและหนักมากครับ Q: ส่วนตัวแล้วรู้สึกหนักใจหรือกังวลบ้างไหมสำหรับการแสดงภาพยนตร์แนวอิโรติกครั้งแรก หากถูกมองว่าเป็น พระเอกหนังอิโรติก ไปแล้ว K: จริงๆมันขึ้นอยู่คนชมภาพยนตร์นะ ซึ่งจะถูกมองออกมาว่าดีหรือไม่ดีนั้น ผมคงจะห้ามไม่ได้อยู่แล้วครับ แล้วแต่เค้าจะคิดแล้วแต่มุมมองของเค้าเลยครับ ก็ปล่อยไปตามกระแสสังคมแล้วกัน แต่โดยส่วนตัวผม มองว่ามันคือการทำงาน และผมก็พยายามทำงานที่ผมได้รับออกมาให้ดีที่สุดครับ ไม่ว่าบทบาทที่ได้รับจะเป็นอะไรก็ตาม Q: การได้ร่วมงานกับ แอ๊นซ์ ณัฏฐกันย์ นางเอกในตอน รักต้องลุ้น ถือว่าเป็นหน้าใหม่เหมือนกันเป็นอย่างไรบ้าง K: ก็เป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างผมกับแอ๊นซ์ครับ ตอนแรกก็รู้สึกทั้งเกร็ง ทั้งเขินนะ แต่ก่อนจะถ่ายทำกันจริงๆทางผู้กำกับและทีมงานเค้ามีการทำเวิร์คช็อปกันก่อน เพื่อสร้างความสนิทและคุ้นเคยมากขึ้น ทำให้ไม่เกร็งเวลาที่เข้าฉากเลิฟซีนร่วมกันแต่ก็ยังมีเขินอยู่ดีแหละครับตอนถ่ายจริง(หัวเราะ) แอ๊นซ์กับผมก็ถือว่าหน้าใหม่ด้วยกันทั้งคู่ แต่แอ๊นซ์เค้าตั้งใจทำงานมากนะ และก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากด้วยครับ Q: ประทับใจอะไรในตัวผู้กำกับ ศาสตร์ ตันเจริญ ซึ่งได้ร่วมงานกันครั้งแรกเช่นกัน K: พี่โอ(ศาสตร์ ตันเจริญ) จะคอยให้คำแนะนำการทำงานหลายอย่างเหมือนกัน เค้าเป็นผู้กำกับที่ตั้งใจทำงานมาก ผมว่าเค้าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทีมงานแล้วก็นักแสดงเลยนะครับ สามารถบังคับทิศทางของทีมงานทุกคนให้ไปในทิศทางเดียวกันได้ด้วยดีตลอดการถ่ายทำราบรื่นตั้งแต่ต้นไปจนจบงาน โดยส่วนตัวแล้วผมประทับใจในการได้มาร่วมงานกับพี่โอและก็ทีมงานทุกคนเลยนะครับ ถ้าเป้นไปได้ก็อยากร่วมงานกับพี่โออีกนะครับ Q: เล่าถึงความน่าสนใจของโปรเจ็คต์ “น้ำตาลแดง” ตอนรักต้องลุ้น K: เริ่มจากโปรเจ็คต์น้ำตาลแดงก่อนนะครับ ผมมองว่าเป็นโปรเจ็คต์ที่น่าสนใจ พร้อมยังผลักดันผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงทั้ง 6 คน ที่นำเสนอมุมมอง และไอเดียแนวคิดใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการนำความอิโรติกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวที่สะท้อนสู่สังคม สำหรับหนังแนวอิโรติกถือว่าค่อนข้างใหม่สำหรับบ้านเราอยู่เหมือนกันนะ แต่ผมเชื่อว่าเมื่อทุกคนได้ชมน้ำตาลแดงแล้วจะต้องชอบ เพราะว่าหนังมีความหมายที่แฝงอยู่ในเนื้อหาของเรื่องแต่ละเรื่องมากกว่าจะเน้นไปที่การสื่อในทางเร้าอารมณ์เซ็กส์ทั่วไปครับ และสำหรับในตอน รักต้องลุ้น ผู้กำกับต้องการสื่อความหมายของชีวิตวัยรุ่น จึงเป็นการนำประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของวัยรุ่นในแง่มุมแนวอิโรติก ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีนะเพราะว่ามันคือเหตุการณ์ทั่วไปที่เราทุกคนต้องผ่านเหตุการณ์เรื่องพวกนี้มาในช่วงวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อน ปัจจุบัน มันก็ต้องมีช่วงเวลาแบบนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเรื่องนี้เพราะว่ามันตรงกับตัวผม รู้สึกเหมือนเป็นวัยที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน เลยทำให้ยิ่งรู้สึกว่าเรื่อง รักต้องลุ้น มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคม พร้อมสะท้อนแง่คิดแฝงในเรื่องอีกด้วยครับ Q: น้ำตาลแดง ในความหมายของกร คิดว่าอะไร K: น้ำตาลแดงในความหมายของผมคือ น้ำตาลที่บริสุทธิ์ครับ ไม่ผ่านกรรมวิธีใดๆให้ออกมาเป็นน้ำตาลเหมือนที่เราเห็นทั่วไป ถ้าจะให้เปรียบกับคนเราก็คงเหมือนเป็นสัณชาตญาณดิบซึ่งเรามีกันทุกคนอยู่แล้ว ในเรื่องสัณชาตญาณของการสืบพันธ์ หรือเรื่องเซ็กส์ ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน ความรักและเซ็กส์ เป็นเรื่องคู่กันอยู่แล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงที่เราไม่สามารถปฏิเสธเรื่องนี้ออกไปจากชีวิตประจำวันได้ เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์ครับ Q: ฝากผลงานโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ น้ำตาลแดง ในตอน รักต้องลุ้น K: ผมขอฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของผมด้วยนะครับ ในโปรเจ็คต์น้ำตาลแดง ตอน รักต้องลุ้น ผมเชื่อว่าหากได้ชมแล้วคุณจะได้แง่คิด มุมมองให้นำกลับไปคิดต่ออีกแน่นอนครับ ทั้งนักแสดง ผู้กำกับ รวมถึงทีมงาน พวกเราตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดและเต็มที่กับภาพยนตร์เรื่องนี้มาก 26 สิงหาคมนี้ อยากให้ลองเปิดใจไปชมกันนะครับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ