กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--คปภ.
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2553 บริษัทประกันวินาศภัยทั้งหมด 70 บริษัท ได้นำทรัพย์สินมาวางไว้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นเงินสำรองประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันวินาศภัย ที่ยังมีความผูกผันอยู่ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 8,296 ล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียดทรัพย์สิน ดังนี้
1. พันธบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 3,378 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40.73 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
2. พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ จำนวน 2,189 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.40 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
3. หุ้นและหุ้นกู้บริษัทจำกัด จำนวน 76 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.92 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
4. เงินฝากประจำ จำนวน 2,288 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27.58 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
5. ตั๋วแลกเงินและตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 250 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.01 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
6. หุ้นกู้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 113 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.37 ของทรัพย์สินเงินสำรองที่วางไว้
ทั้งนี้ บริษัทประกันวินาศภัย จะต้องจัดสรรเบี้ยประกันภัยไว้เป็นเงินสำรองประกันภัยเพื่อจ่ายคืนให้แก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ในอนาคตตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับลูกค้า เช่น เมื่อครบกำหนดสัญญา เมื่อเสียชีวิตหรือเมื่อเวนคืนกรมธรรม์ ฯลฯ กฎหมายกำหนดให้บริษัทจะต้องนำเงินสำรองประกันภัยมาวางไว้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นมูลค่าไม่เกินร้อยละยี่สิบห้าของเงินสำรองประกันภัยทั้งสิ้น
สำหรับเงินสำรองประกันภัยที่บริษัทประกันวินาศภัยได้วางไว้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยนี้ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงสำหรับผู้ทำประกันภัยกับบริษัทประกันวินาศภั ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จึงกำหนดให้ทรัพย์สินที่นำมาวางไว้เป็นเงินสำรองประกันภัยเป็นทรัพย์สินที่มีความมั่นคงสูงเท่านั้น