ดี เอฟ เอ็ม ฉลองความยิ่งใหญ่ในไทยด้วยยอดขายโตขึ้น 2 เท่าในครึ่งปีแรกทุ่มงบการตลาดยกมาตรฐานโชว์รูม 40 สาขาทั่วประเทศ มั่นใจครองแชมป์ตลาดรถจีนในไทยสิ้นปีนี้

ข่าวยานยนต์ Friday September 17, 2010 17:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--ดี เอฟ เอ็ม ดี เอฟ เอ็ม ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กภายใต้ แบรนด์ ดี เอฟ เอ็ม มุ่งสนองกระแสตลาดรถยนต์ขนาดเล็กที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องในตลาดโลก บุกตลาดไทยเต็มตัว สนองผลตอบรับที่ดีของยอดขายในครึ่งปีแรกที่ 1,000 คัน ซึ่งเติบโตขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทุ่มงบการตลาด 100 ล้านยกมาตรฐานโชว์รูมทุกสาขาทั่วประเทศไทย พร้อมทำการตลาดโรดโชว์ สนองทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ไทยในครึ่งปีหลัง โดย ดี เอฟ เอ็ม คาดว่าจะไปถึงเป้าหมาย 2,000 คันภายในปลายปีนี้ได้อย่างแน่นอน ด้วยยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดี เอฟ เอ็ม จึงรุกหนักในตลาดไทย ด้วย การตอกย้ำนโยบายเสริมสร้างความเชื่อมั่นในรถยนต์ ดี เอฟ เอ็ม ให้มากยิ่งขึ้น ผ่านการทุ่มงบประมาณกว่า 80 ล้านบาท ยกระดับการตกแต่ง โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายกว่า 40 สาขาทั่วประเทศไทย โดยการสนับสนุนทางด้านป้าย ฟาส์เซีย ( Fascia ) ให้ทุกโชว์รูมทั่วประเทศมีภาพลักษณ์ของ ดี เอฟ เอ็มไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมทั้งส่งเสริมอุปกรณ์และเครื่องมือศูนย์บริการครบครัน เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการรถยนต์ ดี เอฟ เอ็ม ในประเทศไทยแข็งแกร่งเทียบเท่าระดับสากล พร้อมกันนี้ยังรุกทำการตลาดเน้นให้เข้าถึงง่ายสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่ม ผ่านกิจกรรม การประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขาย เช่น การทำโรดโชว์ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศไทย มุ่งขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย และ มุ่งเน้นอบรมทักษะของพนักงานขาย รวมทั้งช่างมาตรฐานประจำศูนย์บริการเพื่อมุ่งเน้นความสำคัญในการขายและบริการหลังการขายสำหรับรถยนต์ดี เอฟ เอ็มในประเทศไทยอีกด้วย นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดรถยนต์โลก ในปี พ.ศ. 2550 อยู่ที่ 920 ล้านคัน ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 1,120 ล้านคันในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งการเติบโตถึง 200 ล้านคันใน 8 ปีนี้ ดี เอฟ เอ็ม คาดว่าส่วนใหญ่จะมาจากการเพิ่มจำนวนยอดขายของรถยนต์ขนาดเล็ก โดยสืบมาจากปัจจัยหลัก อาทิเช่น ภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ค่านิยมการประหยัดพลังงาน และวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการเลือกซื้อรถยนต์ขนาดเล็กเพิ่มขึ้นเนื่องจากประหยัดและมีราคาไม่แพง อีกทั้ง ดี เอฟ เอ็ม ในประเทศจีนนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายถึง 1,500 โชว์รูม และยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 81% จาก 2.2 แสนคันในปี พ.ศ. 2552 เป็น 4 แสนคันใน ปี พ.ศ. 2553 เป็นอันดับ 2 ของตลาดรถยนต์ขนาดเล็กในจีน และด้วยแนวโน้มทางด้านยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดี เอฟ เอ็ม ประเทศจีนจึงมีการสร้างโรงงานผลิตด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่เมืองฉงชิ่ง มีขนาดถึง 1 ล้านตารางเมตร สำหรับรองรับการผลิตกว่าปีละ 1 ล้านคันในปี พ.ศ. 2558 โดยมั่นใจว่ายอดขายโดยรวมจะขยับขึ้นแซงผู้นำตลาดอันดับ 1 ของรถยนต์ขนาดเล็กในประเทศจีน ภายใน 2 ปี” เพื่อสนองนโยบายบริษัทแม่ในประเทศจีนที่ต้องการการเติบโตของยอดขายแบบมั่นคงทั่วโลก ดี เอฟ เอ็ม ประเทศไทยได้วางกลยุทธ์การบริหารงานครึ่งปีหลังและในปี พ.ศ. 2554 แบบครบวงจร เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์จีนในไทย โดยยึดกฎเหล็ก 6 อย่าง กล่าวคือ การพัฒนาทีมงาน ผลิตภัณฑ์ โชว์รูม เครือข่ายผู้แทนจำหน่าย การตลาด และการบริการ เพื่อให้เข้าถึงทั้งผู้บริโภคและคู่ค้าทางธุรกิจ โดยล่าสุด ดี เอฟ เอ็ม ประเทศไทยได้พาผู้แทนจำหน่ายจาก 40 โชว์รูมทั่วประเทศไปศึกษาดูงานที่บริษัทต้นสังกัดของ ดี เอฟ เอ็ม พร้อมเยี่ยมชมโรงงานการผลิตรถยนต์ ดี เอฟ เอ็ม ที่ได้มาตรฐาน ณ ประเทศจีน ทั้งหมด 3 โรงงานเพื่อเพิ่มความมั่นใจในมาตรฐานผลิตภัณฑ์และเข้าใจในการขายและการทำตลาดของรถยนต์ ดี เอฟ เอ็ม ในประเทศจีน หวังสร้างศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตไปพร้อมๆกัน รวมทั้งเพื่อส่งเสริมยอดขายให้ตรงตามเป้าที่ตั้งไว้อีกด้วย “ตลาดรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และกำลังเติบโตอย่างประเทศจีน หมายถึงจะมีค่ายรถยนต์จากจีนอีกมากมายที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง ทางบริษัทฯ จึงต้องการยกระดับของแบรนด์ขึ้นเพื่อชูความแตกต่าง ตอกย้ำว่า ดี เอฟ เอ็ม ไม่ได้แข่งขันที่ราคาเท่านั้น แต่แข่งขันด้วยการสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในแบรนด์ ดี เอฟ เอ็ม ที่ดีให้อยู่คู่คนไทยในระยะยาว” นายพิทยา กล่าวเสริม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ