รัฐเดินหน้าประกาศภารกิจป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

ข่าวทั่วไป Tuesday September 21, 2010 15:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐเดินหน้าประกาศภารกิจป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เสริมมาตรการเฝ้าระวัง ดูแลช่วยเหลือเหยื่อให้ได้รับการคุ้มครองอย่างทั่วถึง หนุนบทบาทเด็กและเยาวชน ร่วมสอดส่องดูแลแก้ไขปัญหา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน จัดงานประกาศยืนยันภารกิจการป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ของประเทศไทย โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่าย ทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมพิธี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ รวมทั้งสังคมโลก รัฐบาลจึงถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะต้องร่วมมือ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังและเด็ดขาด จึงได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๑ ขึ้น เป็นกฎหมายเฉพาะที่ดำเนินการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมที่แสวงหาประโยชน์โดยการค้ามนุษย์ และคุ้มครองบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้เสียหาย และให้มีการคัดแยกเหยื่อผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ให้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยจัดให้มีกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งทำการช่วยเหลือเหยื่อไปแล้ว ๕๐๐ ราย เป็นจำนวนเงิน ๘,๕๑๐,๘๙๗ บาท ในแง่ของความร่วมมือระหว่างประเทศ ประเทศไทยได้เริ่มกรอบความร่วมมือพหุภาคีในการต่อต้านการค้ามนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและสนับสนุนให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจทวิภาคีกับรัฐบาล ต้นทางและปลายทางที่ได้ให้ความสนับสนุนในด้านการช่วยเหลือผู้เสียหายกลับคืนสู่สังคม เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามและในการดำเนินคดี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะ เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมนำผู้กระทำผิดมารับโทษโดยไว ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีสถิติจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ได้เพิ่มขึ้น โดยได้กำหนดบ้านพักเด็กและครอบครัวให้เป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งเหตุการค้ามนุษย์ ผ่านสายด่วน ๑๓๐๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง สำหรับด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา รัฐบาลได้รณรงค์ให้ความรู้แก่เด็กและสตรีกลุ่มเสี่ยงในโรงเรียนและชุมชน ผ่านการจัดทำเวทีสัญจรหยุดขบวนการค้ามนุษย์ และสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังในชุมชน ทั้งในพื้นที่ต้นทางและปลายทาง อีกทั้ง ในปีนี้ ได้เริ่มมาตรการเฝ้าระวังในสถานศึกษา โดยส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมจากเด็กและเยาวชน รวมทั้งเปิดช่องทางการรับแจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วนประชาบดี ๑๓๐๐ และบรรจุมาตรการการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไว้ในหลักสูตรของการเรียนของโรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วย “ประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างชัดเจน หากเทียบกับหลายๆ ประเทศ เพราะนอกจากจะแสดงให้เห็นเจตนารมณ์อันแน่วแน่แล้ว ยังได้พยายามอย่างเต็มที่ในการดำเนินงานป้องกันแก้ไขปัญหามาโดยตลอด โดยรัฐจะร่วมมือกับนานาประเทศในการดำเนินงานเรื่องนี้อย่างเข้มแข็งต่อไป และให้การคุ้มครองช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากการค้ามนุษย์อย่างรวดเร็ว เหมาะสม และมีการบังคับใช้ กฎหมายอย่างเคร่งครัดจริงจัง รวมทั้งพัฒนาผู้ปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งๆ ขึ้นไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ