ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตของ AIS และ DTAC และให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ AIS ที่ระดับ ‘BBB+’

ข่าวทั่วไป Friday February 23, 2007 16:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Watch Negative) แก่อันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC ขณะเดียวกัน ฟิทช์ให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ (foreign currency Issuer Default Rating) ของ AIS ที่ระดับ ‘BBB+’ โดยอันดับเครดิตของ AIS และ DTAC ที่ได้รับเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบได้แก่
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ AIS ที่ ‘BBB+’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term rating) ที่ ‘AA(tha)’ และ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term rating) ที่ ‘F1+(tha)’
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ DTAC ที่ ‘BB+’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘A(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันที่ ‘A(tha)’
การประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ (Watch Negative) แก่อันดับเครดิตของ AIS และ DTAC เป็นผลมาจากความเสี่ยงทางด้านนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคมที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่ในประเทศ ความเสี่ยงทางด้านนโยบายและกฎหมายดังกล่าวได้เพิ่มสูงขึ้นกว่าตอนที่รัฐบาลเสนอให้มีการเพิ่มความเข้มงวดของพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเมื่อเดือนที่แล้ว ความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายอาจนำไปสู่การทบทวนสัมปทานในการประกอบกิจการโทรคมนาคมของผู้ประกอบการ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนที่จะมีขึ้นใหม่และการให้ความสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจโทรคมนาคม อันดับเครดิตของ AIS และ DTAC จะได้รับการพิจารณาออกจากเครดิตพินิจ (Watch Negative) เมื่อประเด็นที่เกี่ยวข้องทางด้านนโยบายและกฎหมายมีความชัดเจนมากขึ้น
อันดับเครดิตของ AIS สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความเป็นผู้นำตลาดจากการที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากระบบเครือข่ายที่แข็งแกร่ง AIS ยังมีข้อได้เปรียบทางโครงสร้างต้นทุนเนื่องจากมีฐานลูกค้าที่ใหญ่และมีต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานที่ต่ำกว่าผู้ประกอบการรายอื่น อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างด้านกฎระเบียบซึ่งรวมถึงการประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการใช้และเชื่อมโครงข่ายโทรคมนาคม (Interconnection Framework) โดยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (National Telecommunication Commission) และการแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อไปต่ออัตราส่วนกำไรของ AIS ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ AIS ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปี 2548 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA margin) ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 ลดลงเป็น 49% จาก 54% ในช่วงเดียวกันของปี 2548 อย่างไรก็ตามระดับหนี้สินสุทธิต่อผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (Net Debt to EBITDA) ที่แข็งแกร่งของ AIS (ณ สิ้นไตรมาสสามของปี 2549 อยู่ที่ 0.5 เท่า) น่าจะทำให้บริษัทมีความสามารถรองรับต่อการจ่ายเงินปันผลที่สูง การลงทุนขนาดใหญ่ หรือการลดลงของอัตราส่วนกำไรในอนาคตได้
อันดับเครดิตของ DTAC สะท้อนถึงการที่บริษัทมีสถานะทางการตลาด และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้อันดับเครดิตของ DTAC ยังมีส่วนสนับสนุนจากระดับความเชื่อมั่นและความพร้อมในการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น ซึ่งได้แก่บริษัท เทเลนอร์ เอ เอส เอ หรือ Telenor จากนอร์เวย์ ณ สิ้นปี 2549 DTAC มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อผลกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (Net Debt to EBITDA) ปรับตัวดีขึ้นเป็น 2.1 เท่า จากสิ้นปี 2548 ซึ่งอยู่ที่ 2.4 เท่า อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการแข่งขันที่รุนแรงและความจำเป็นในการขยายพื้นที่ครอบคลุมของเครือข่ายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น น่าจะทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่อรายได้ (Capital Expenditure to Total Revenue) ของ DTAC อยู่ในระดับที่สูงกว่า AIS โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่อรายได้ของ DTAC อยู่ที่ 23.7% (สำหรับปี 2548 อยู่ที่ 23.6%) สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ AIS ซึ่งอยู่ที่ 18.1% (สำหรับปี 2548 อยู่ที่ 17.5%)
ในขณะที่ยังมีความเสี่ยงทางด้านนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในธุรกิจโทรคมนาคม ฟิทช์คาดว่าฐานะทางการเงินของ AIS และ DTAC จะยังคงมีความแข็งแกร่งในปี 2550 ถึงแม้ว่าการเติบโตของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง
ติดต่อ: โอบบุญ ถิรจิต, วสันต์ ผลเจริญ, Vincent Milton, +662 655 4755
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ