ปลูกฝังพลังความดี ซี.ซี.เอฟ รู้รักสามัคคี สร้างเมืองไทยแข็งแรง

ข่าวทั่วไป Wednesday October 6, 2010 13:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--ซี.ซี.เอฟ “เราอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง จะประคองกันไปให้ถึงฝัน เปิดใจกว้างว่าอย่างไรว่าตามกัน สำนึกมั่นมุ่งเน้นความเป็นทีม” เด็กๆกล่าวตามคำปฏิญาณที่ พระมหาสมัย ผาสุโก แห่งมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน พระนักพัฒนาที่วันนี้สร้างความเข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้นแล้วในหัวใจของพวกเยาวชน ซี.ซี.เอฟฯ กว่า 74 คนที่เข้าร่วม โครงการ “รวมพลัง เยาวชนรู้รักสามัคคี เพื่อเมืองไทยแข็งแรง” ที่จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังและบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม สร้างเยาวชนต้นแบบ นักพัฒนาให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ท่านทำให้เรื่องของศีลธรรมและการสร้างจิตสำนึกเพื่อสังคมกลายเป็นเรื่องทันสมัยและโดนใจเยาวชนในทุกเนื้อหาตลอดการบรรยาย “พลังเยาวชนต่อการสร้างเมืองไทยแข็งแรง” เป็นหัวข้อของการบรรยายในครั้งนี้ ผู้เขียนสัมภาษณ์พระมหาสมัย ผาสุโก เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางและวิธีที่ทำให้เยาวชนเข้าใจและเข้าถึงวัตถุประสงค์ของการบรรยาย “เยาวชนคือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า พลัง กาย ใจ สติปัญญา ความดีจะช่วยผลักดันให้เขาเติบโตเป็นคนดี มีสติปัญญาพร้อม การที่เยาวชนจะสร้างให้เมืองไทยแข็งแรงได้นั้น เขาต้องได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวดีๆจากผู้รู้ อย่างต่อเนื่องเมืองไทยก็จะเข้มแข็ง ทรงคุณค่าและดีงามต่อไปในอนาคต” ท่านกล่าวไว้อย่างน่าสนใจถึงความสำคัญของเยาวชนต่อการสร้างประเทศไทยให้แข็งแรง กระบวนการคิดให้เกิดปัญญานั้น เป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวันที่เยาวชนควรจะต้องดูก่อน เช่น เรื่องการขอโทษ การให้อภัย การแบ่งปัน การอ่อนน้อมถ่อมตน และที่สำคัญคือศีล 5 ที่ไม่ควรละเลย สิ่งเหล่านี้เป็นการต่อยอดความดีให้เกิดขึ้นในหัวใจของพวกเขา ค่อยๆทำให้ความดีงามไหลเข้าสู่จิตใจ หัวใจสำคัญของการบรรยายในครั้งนี้และดึงดูงความสนใจของเยาวชนยิ่งนัก คือ “สื่อ” ประกอบการบรรยายที่ทันสมัย และช่วยให้เยาวชนได้เข้าใจเรื่องราวของศีลธรรม จรรยาอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น “สื่อมีความสำคัญมาก การพูดเพียงอย่างเดียวทำให้ไม่เห็นภาพ ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เห็นความเป็นจริง โดยทุกสื่อที่นำมาเสนอสามารถสอดแทรกเรื่องของธรรมะได้ทั้งหมด เป็นสื่อที่นำไปสู่ความดีและความเป็นจริง เราต้องเลือกสื่อที่ไม่มีความรุนแรงต่อเด็ก ช่วยให้เขาคิดและเกิดปัญญาอย่างนุ่มนวล ทันสมัย และ มีความหมาย” พระมหาสมัย ผาสุโก กล่าวถึง ข้อคิดเกี่ยวกับหน้าที่ของเยาวชนต่อการแก้ไขสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันไว้ว่า เยาวชนและผู้ใหญ่ต่างมีหน้าที่ของตนเอง ช่วยเหลือพัฒนาสังคมได้ หน้าที่ของเยาวชนคือการศึกษาเล่าเรียน ทำหน้าที่ของตนเองให้ถูกต้องสมบูรณ์และพร้อม รับรู้รับฟัง เรื่องรอบตัวอย่างมีสติ อย่าไปเชื่อหรือตื่นข่าว ผู้ใหญ่ต้องใส่ใจให้ความดูแลและปลูกฝังในเรื่องจริยธรรมให้กับเด็กๆ เพื่อนำไปสู่การพัฒนา ลดปัญหาการทะเลาะวิวาท หากถ้าผู้ใหญ่มองข้ามและคิดว่าเรื่องศีลธรรมจรรยาเป็นเรื่องธรรมดา ก็อาจจะทำให้คนเสียคน เพราะผู้ใหญ่ไม่ใส่ใจ บ้าน วัด โรงเรียน รัฐบาล ควรร่วมมือกันเพื่อสร้างเยาวชนที่ดี ให้พวกเขาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างบ้านเมือง และสังคมให้แข็งแรงต่อไป นายพุทธิพงษ์ สืบสาย อายุ 17 ปี โรงเรียนท่าลี่วิทยา จังหวัดเลย กล่าวถึงการรับฟังคำบรรยายในครั้งนี้ไว้ว่า เราได้รู้หลักธรรมะพื้นฐานกับการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ผมชอบรูปแบบการนำเสนอของพระอาจารย์ ทั้งเทคนิควิธีการในการอบรมและสื่อต่างๆ ทำให้ได้ความรู้ที่ไม่ขาดวรรคตอน ผมชอบสื่ออันสุดท้ายที่เกี่ยวกับเรื่องของยาเสพติด มันทำให้ผมรู้สึกเข้าใจและซาบซึ้งกับเรื่องราวที่ได้เห็น นางสาวพนิดา ผิวสว่าง อายุ 17 ปี โรงเรียนอุบลรัตน์พิทยาคม จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมรับฟังคำบรรยายไว้ว่า หนูรู้สึกมีความสุขมากที่ได้รับฟัง สื่อต่างๆที่ท่านนำเสนอสอนให้หนูได้แง่คิด ในเรื่องของการสำนึกรักบ้านเกิด รักเมืองไทย ภูมิใจในความเป็นคนไทย รู้สึกไม่เสียดายเวลาที่มาเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งเพื่อนใหม่ ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆกับเพื่อนๆภายในค่าย หนูจะนำความรู้ที่ได้ในวันนี้กลับไปบอกเล่าให้เพื่อนๆและคนในชุมชนของหนูได้รับรู้เรื่องราวที่เป็นประโยชน์เหล่านี้ค่ะ ก่อนจบการบรรยาย พระมหาสมัย ผาสุโก กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “ฝากให้เยาวชนทุกคนดูและตนเองและเป็นคนดี จะคิดทำสิ่งใด ก็อย่างให้คนเอง เพื่อนรอบข้างและประเทศชาติต้องเดือนร้อน”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ