ผู้อำนวยการสำนักงานเศราฐกิจการคลัง นางพรรณี สถาวโรดม ให้ความเห็นถึงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2550 ว่าน่าจะขยายตัวประมาณ 4-4.5% ต่อปี เนื่องจากแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกสินค้าและบริการ มีแนวโน้มชะลอตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักที่ขยายตัวลดลงในปี 2550 ประกอบกับการใช้จ่ายของภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ในการนี้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการมีแนวโน้มขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.4-7.4% จากที่เคยขยายตัวสูงถึง 9.1% ในปี 2549 ขณะที่ปริมาณการนำเข้าสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัว 7.8-8.9% ในปี 2550 ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.5-3.0% จาก 4.7% ในปี 2549 ซึ่งเป็นผลหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่ถูกลงตามการปรับลดของราคาน้ำมันและค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2550 คาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 54-58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในปี 2549 ในขณะที่ค่าเงินบาทในปี 2550 คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 35.5-36.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศในปี 2550 ยังอยู่ในระดับที่มั่นคงประเด็นวิเคราะห์ พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับสำนักงานการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง และคลังจังหวัดทุกจังหวัด ในการจัดทำรายงานภาวะเศรษฐกิจปี 2550 โดยสรุปได้ว่าในปีนี้ระบบเศรษฐกิจมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ดังนี้ ปัจจัยบวก 1. อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลง 2. ระดับราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในระดับต่ำและมีเสถียรภาพ 3. อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง 4. ราคาผลผลิตสินค้าเกษตรทรงตัวในระดับสูง 5. จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ปัจจัยลบ 1. ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 2. ภัยทางธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยแร้ง 3. สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีเสถียรภาพ 4. สถานการณ์ความไม่สงบชายแดนภาคใต้ 5. สถานการณ์ไข้หวัดนกที่ยังคงเกิดขึ้น 6. ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่มา: http://www.depthai.go.th