1. การผลิต ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2549 มีการผลิตลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 1.0 มาจากการชะลอตัวลงของการผลิตอาหารทะเล เนื่องจากวัตถุดิบลดลงตาม ฤดูกาล ประกอบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และภาพรวมตลอดทั้งปี 2549 ปริมาณการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 แม้ว่าจะเกิดปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลต่อการผลิต การบริโภค และการส่งออก เช่น ปัญหาการเพิ่มขึ้นของค่าขนส่งอันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของระดับราคาน้ำมันในตลาดโลก เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและตลาดภายในประเทศที่ยังคงมีอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ส่งผลต่อการบริโภคของครัวเรือนและการลงทุนใน อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยในภาพรวมของอุตสาหกรรมอาหารมีการใช้กำลังการผลิตไม่แตกต่างจากปี 2548 ในระดับร้อยละ 56 สำหรับในแต่ละกลุ่มสินค้ามีภาวะการผลิต และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ - กลุ่มปศุสัตว์ ไตรมาสที่ 4 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 3.2 เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท และการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย โดยตลอดทั้งปี 2549 มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 จากปีก่อน และมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 61.4 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 64.4 เนื่องจากมีการระบาดของไข้หวัดนกในทวีปยุโรปและอาฟริกา ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการผลิตไก่สดแช่เย็นแช่แข็งของไทยมีการผลิตเพิ่มขึ้น - กลุ่มผักผลไม้แปรรูป ไตรมาสที่ 4 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 6.2 เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกบางส่วนได้รับความเสียหายจากอุทกภัย โดยตลอดทั้งปี 2549 มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 22.0 เป็นผลจากสินค้าสำคัญ คือ สับปะรดกระป๋องมีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากระดับราคาในปีก่อนจูงใจ แต่หากพิจารณาการใช้กำลังการผลิตกลับลดลงจากร้อยละ 43.8 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 39.3 เนื่องจากผลไม้บางชนิดสามารถส่งออกในรูปผลไม้สดได้เพิ่มขึ้น เช่น ลำไย และลิ้นจี่ ทำให้ผลผลิตเข้าโรงงานลดลง - กลุ่มน้ำมันพืช ไตรมาสที่ 4 มีปริมาณการผลิตลดลงจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย แต่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 36.7 และตลอดทั้งปี 2549 มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20.7 เนื่องจากวัตถุดิบมีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการขยายพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันตามนโยบายรัฐบาลในด้านพลังงานทดแทน ทำให้มีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นด้วยจากร้อยละ 41.1 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 43.7 - กลุ่มประมง ไตรมาสที่ 4 มีปริมาณการผลิตลดลงจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.5 และ 4.2 เนื่องจากวัตถุดิบในช่วงปลายปีมีปริมาณลดลง และแหล่งผลิตประสบปัญหาอุทกภัย โดยตลอดทั้งปี 2549 มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 เป็นผลจากการได้รับคืนสิทธิ์ GSP ในสินค้าประมงของสหภาพยุโรป และการที่อุตสาหกรรมประมงของสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ทำให้นำเข้าสินค้าประมงเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะประกาศเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้ากุ้ง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะส่งผ่านในด้านราคาที่เพิ่มขึ้นและส่งต่อไปยังผู้บริโภคมากกว่าผู้ส่งออก สำหรับการใช้กำลังการผลิตของกลุ่มในช่วงปี 2548 และปี 2549 ไม่แตกต่างกันมากนักอยู่ที่ระดับร้อยละ 54-55 - น้ำตาลทราย ไตรมาสที่ 4 เป็นช่วงเริ่มฤดูการผลิตโรงงานเปิดหีบในช่วงเดือนธันวาคม ทำให้การผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากปริมาณอ้อยเข้าโรงงานเพิ่มขึ้นกว่าในปี 2548 ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ปริมาณอ้อยเข้าโรงงานลดลง ขณะที่ตลอดทั้งปี 2549 มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ17.9 และมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12.2 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 14.3 - ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไตรมาสที่ 4 มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนและปีก่อนร้อยละ 6.8 และ 21.9 เนื่องจากความต้องการเพื่อแปรรูปเป็นแป้งและเอทานอลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้น จูงใจให้เกษตรกรเพิ่มพื้นที่ปลูก อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาสที่ 4 เป็นฤดูเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง อาจทำให้ระดับราคาปรับตัวลงจากปริมาณวัตถุดิบที่มีจำนวนมาก โดยตลอดทั้งปี 2549 มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.2 และมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 47.6 ในปี 2548 เป็นร้อยละ 60.5 นอกจากนี้การผลิตในสินค้าหมวดอื่นๆ ในช่วงปี 2549 เทียบกับปี 2548 ได้แก่ หมวดผลิตภัณฑ์นม มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 และหมวดอาหารสัตว์ มีการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากการระบาดของไข้หวัดนกในประเทศเริ่มคลี่คลาย การเลี้ยงไก่และปศุสัตว์อื่นๆ ขยายตัวตามการบริโภคและการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 2. การตลาด - การจำหน่ายในประเทศ ภาวะการจำหน่ายโดยรวมของอุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2549 ไม่แตกต่างจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.5 ในขณะที่ตลอดทั้งปี 2549 ปริมาณการจำหน่ายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ทำให้มีการสำรองอาหารและการจำหน่ายเพิ่มขึ้นทั้งในลักษณะการบริจาคและการจำหน่ายในราคาประหยัดตามสถานที่ต่างๆ ประกอบกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และมีเทศกาลสำคัญๆ ส่งผลทำให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยและบริโภคเพิ่มขึ้น แม้ว่าระดับราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง รวมทั้งผลักดันให้ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยสินค้าอาหารที่มีปริมาณการจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม ร้อยละ 14.6 อาหารสัตว์ ร้อยละ 10.6 น้ำมันพืช ร้อยละ 9.9 ผลิตภัณฑ์ประมง ร้อยละ 6.1 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 5.2 และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ ร้อยละ 4.4 สำหรับสินค้าอาหารที่มีปริมาณการจำหน่ายลดลง ได้แก่ ผักผลไม้แปรรูป ร้อยละ 4.1 จากการเข้ามาแข่งขันของสินค้าต่างประเทศ และน้ำตาล ร้อยละ 0.8 จากระดับราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น - การนำเข้า การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและอุปโภคบริโภคอุตสาหกรรมอาหารในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2549 มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนถึงร้อยละ 65 เป็นผลจากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 4 โดยค่าเงินบาทได้ปรับแข็งค่าขึ้นกว่าร้อยละ 10 ทำให้มีผลต่อการนำเข้าทั้งสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ได้แก่ สัตว์น้ำสดแช่เย็นแช่แข็ง พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 83.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์ อาหารปรุงแต่ง ผลิตภัณฑ์แป้ง และเนื้อสัตว์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 แต่หากเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลงเล็กน้อย โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าการนำเข้าทั้งสิ้น 191,425.5 ล้านบาท (5,173.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ลดลงจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย จากการชะลอตัวลงของการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง และเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภค ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น สินค้าวัตถุดิบสำคัญที่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ได้แก่ ปลาทูน่าสดแช่เย็นแช่แข็ง ร้อยละ 7.9 กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ร้อยละ 31.8 เป็นผลจากระดับราคาในตลาดโลกสูงขึ้น ในขณะที่ทั้งปี 2549 มูลค่านำเข้าปลาทูน่าสดแช่เย็นแช่แข็งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 5 เนื่องจากการบริโภคปลาทูน่าในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญที่มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ได้แก่ ผักผลไม้และของปรุงแต่ง ร้อยละ 30.8 และผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 30.2 จากการนำเข้าเพิ่มขึ้นของผลไม้เมืองหนาวเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลปลายปี และการเข้ามาเปิดแฟรนไชส์ร้านขนมปังสไตล์เม็กซิกันของสิงคโปร์และมาเลเซียเพิ่มขึ้น โดยตลอดทั้งปี 2549 มูลค่านำเข้าผักผลไม้และของปรุงแต่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 14.2 หากพิจารณาเฉพาะผลไม้เมืองหนาว เช่น แอปเปิ้ล แพร์ และส้ม เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 เป็นผลจากการทำข้อตกลง FTA กับจีน ทำให้ผลไม้ราคาถูกจากจีนเข้ามาจำหน่ายง่ายขึ้น - การส่งออก ภาวะการส่งออกโดยรวมของอุตสาหกรรมอาหาร ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2549 มีปริมาณ 3,970,565 ตัน มูลค่า 102,661.5 ล้านบาท (2,774.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ลดลงจากไตรมาสก่อนทั้งในเชิงปริมาณและ มูลค่าร้อยละ 3.3 และ 7.2 เนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาททำให้ผู้ส่งออกต้องชะลอการผลิตและส่งออกตามคำสั่งซื้อลง แต่หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่าร้อยละ 36.7 และ 6.6 ตามลำดับ โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 403,564.4 ล้านบาท (10,907.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6.2 เนื่องจากตลาดหลักๆ เช่น สหรัฐฯ ยังต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเพิ่มขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังขยายตัวดี และสหภาพยุโรปประสบปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก ส่งผลให้ในภาพรวมปี 2549 สินค้าอาหารส่วนใหญ่สามารถส่งออกในมูลค่าที่เพิ่มขึ้น สำหรับสินค้าในแต่ละกลุ่ม มีภาวะการส่งออก ดังนี้ - กลุ่มอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป มูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 4 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.3 และ 3.9 จากการปรับลดลงของปริมาณวัตถุดิบ และระดับราคาที่สูงขึ้น โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 186,742.8 ล้านบาท (5,047.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 4.5 สำหรับสินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน เช่น กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ร้อยละ 0.3 จากการคืนสิทธิ์ GSP ของสหภาพยุโรป และการถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกุ้งจากสหรัฐฯ ในอัตราที่ต่ำกว่าประเทศคู่แข่ง และปลาทูน่ากระป๋อง ร้อยละ 17.2 จากการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย และแคนาดาเพิ่มขึ้น - กลุ่มผักผลไม้แปรรูป มูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 4 ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 11.8 จากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 จากปริมาณวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 68,186.5 ล้านบาท (1,842.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8.6 จากการส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภทสินค้าประมาณร้อยละ 10.0-20.3 เนื่องจากระดับราคาที่ลดลง และเป็นผลจากการทำ FTA กับจีน และออสเตรเลีย ตลอดจนการผลักดันการควบคุมการผลิตที่เน้นมาตรฐานคุณภาพและการตรวจสอบสารตกค้างอย่างเข้มงวด - กลุ่มปศุสัตว์ มูลค่าการส่งออกในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 1.3 จากการส่งออกเนื้อไก่แช่เย็นแช่แข็งที่เพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมูลค่าส่งออกลดลงร้อยละ 4.1 จากการชะลอตัวลงของการส่งออกไก่แปรรูป และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่ทั้งปี 2549 มีการปรับโครงสร้างการส่งออกจากไก่สดแช่เย็นแช่แข็งเป็นไก่แปรรูป เช่น ไก่ทอดเป็นชิ้น (คาราเกะ) ไก่เสียบไม้ย่าง (เทอริยากิ) และชิ้นส่วนไก่อื่นๆ ทอดและแปรรูป ทำให้ปริมาณและมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 10 และ 5.8 ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากตลาดญี่ปุ่นมีข่าวการพิจารณายกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อโคจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปหันมานำเข้าไก่จากไทยแทนยุโรปตะวันออกเพิ่มขึ้นจากข่าวการระบาดของไข้หวัดนก - กลุ่มธัญพืชและแป้ง มูลค่าการส่งออกรวมในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.2 และ 24.1 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลังของตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 67,794.5 ล้านบาท (1,832.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 15.7 สำหรับสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ มีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.8 และ 26.3 ตามลำดับ เป็นผลจากตลาดจีนมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์และผลิตเอทานอล - น้ำตาลทรายและผลิตภัณฑ์ มูลค่าส่งออกในไตรมาสที่ 4 ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 32.4 เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวลดลง แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.8 เนื่องจากประสบปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนในช่วงปี 2548 ทำให้ปริมาณการผลิตลดลง โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าการส่งออกลดลงจากปี 2548 ร้อยละ 4.4 จากระดับราคาจำหน่ายที่ปรับตัวลดลง - กลุ่มสินค้าอาหารอื่นๆ มูลค่าส่งออกในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12.7 และ 36.5 ตามลำดับ โดยตลอดทั้งปี 2549 มีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 21,929.3 ล้านบาท (592.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ร้อยละ 2.9 สำหรับสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ สิ่งปรุงรสอาหาร เนื่องจากเป็นการขยายตัวของการส่งออกตามนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก และไขมันพืชและสัตว์ ที่สามารถส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มขึ้น 3. นโยบายรัฐ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องไตรมาสที่ 4 ได้เกิดปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตร ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ธัญพืช ผักและผลไม้ รวมทั้งโรงงานแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบ ผู้ประกอบการไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ นโยบายรัฐในช่วงต้นไตรมาสที่ 4 จึงเป็นการรายงานสถานการณ์และมาตรการให้การช่วยเหลือกับประชาชนที่ประสบภัย และการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำขึ้นใหม่ในหลายจังหวัดซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2550 สำหรับมติคณะรัฐมนตรีในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่จำเป็นต้องประกาศเป็นนโยบายและมาตรการรายปี ในส่วนของสินค้าอาหารและเกษตร ได้แก่ นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ปี 2550 การประกาศราคาอ้อยขั้นต้นประจำปีเพาะปลูก 2549/50 การประกาศราคารับจำนำข้าวนาปีประจำปี 2549/50 การเปิดตลาดนำเข้านมผงขาดมันเนย ปี 2550 และการเปิดตลาดสินค้าเกษตรตามข้อผูกพันองค์การการค้าโลกจำนวน 23 รายการ ทั้งนี้แนวนโยบายและมาตรการดังกล่าวมีรายละเอียดไม่แตกต่างไปจากปีก่อน แต่จะมีรายละเอียดของวิธีดำเนินการที่ปรับเปลี่ยนบ้างให้เหมาะสมและสะดวกในทางปฏิบัติยิ่งขึ้น 4. แนวโน้ม แนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมอาหารไตรมาสที่ 1 ปี 2550 คาดว่าทั้งภาคการผลิตและการส่งออก อุตสาหกรรมอาหารจะชะลอตัวลงจากปี 2549 ในระดับร้อยละ 3-5 โดยมีปัจจัยเสี่ยง คือ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาท การชะลอตัวของเศรษฐกิจผู้นำเข้า เช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ข่าวการระบาดของไข้หวัดนก การกีดกันทางการค้าในรูปแบบต่างๆ เช่น การประกาศ AD การใช้มาตรการบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารใหม่ของญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป และมาตรการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยอาหารใหม่ๆ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยสนับสนุน คือ การรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยและของโลกมีแนวโน้มค่อนข้างทรงตัว การปรับตัวลดลงของระดับอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ซึ่งจะเป็นผลดีในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการบริโภคในแต่ละกลุ่มสินค้าเพิ่มขึ้น โดยแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารในไตรมาสที่ 1 ปี 2550 ในแต่ละกลุ่ม ผลิตภัณฑ์สำคัญมีดังนี้ 1) สินค้าประมง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลกระป๋อง เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง และอาหารทะเลแปรรูปมีแนวโน้มผลิตและส่งออกชะลอตัวลง จากปัจจัยสำคัญทั้งภายในและต่างประเทศ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน การขาดแคลนแรงงาน และการลดลงของผลผลิตกุ้งและสัตว์น้ำจากฟาร์มในประเทศซึ่งจะลดลงในช่วงฤดูหนาว รวมถึงการพิจารณาห้ามนำเข้ากุ้งจากหลายประเทศตามร่างการประกาศมาตรการ Bio-Securities ของออสเตรเลียที่ยังไม่ทราบผลชัดเจน 2) สินค้าพืชผักผลไม้แปรรูป ได้แก่ สับปะรดกระป๋อง และผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้แปรรูปต่างๆ มีแนวโน้มผลิตและส่งออกขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภัยธรรมชาติและการลดพื้นที่ปลูก เนื่องจากในปี 2549 ปริมาณสับปะรดสดล้นตลาด ส่งผลให้ระดับราคาสับปะรดตกต่ำ อย่างไรก็ตามยังคงได้รับผลดีบ้างในสินค้าผักและผลไม้สดแช่เย็นจากการเปิดเสรีทางการค้าอย่างต่อเนื่องกับจีน ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย และการประกาศอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากไทยของสหรัฐอเมริกา 3) สินค้าปศุสัตว์แปรรูป ได้แก่ ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง มีแนวโน้มที่จะผลิตและส่งออกในปริมาณและมูลค่าที่ขยายตัวเล็กน้อย โดยจะทำการผลิตในลักษณะไก่แปรรูปที่สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น ได้แก่ ไก่ต้มสุก และไก่พร้อมรับประทาน เช่น ไก่คาราเกะ และไก่ปรุงสำเร็จ เพื่อส่งออกในตลาดหลัก คือ สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น เนื่องจากไทยยังคงรักษาภาพลักษณ์ของสินค้าไก่ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลในตลาดโลกได้ ทั้งนี้การคาดการณ์จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงอาจต้องรอผลการพิจารณาปรับโครงสร้างโควตาภาษีสินค้าไก่ทั้งระบบของสหภาพยุโรป ที่ประเทศสมาชิกได้รับผลกระทบจากไข้หวัดนก นอกจากนี้ยังต้องติดตามความก้าวหน้าของการทำข้อตกลง FTA กับญี่ปุ่นด้วย 4) สินค้าแปรรูปจากธัญพืชและแป้ง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มีแนวโน้มการผลิตและส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าผลผลิตหัวมันสำปะหลังในช่วงไตรมาสที่ 1 จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 จากการกระจายมันสำปะหลังพันธุ์ดีได้เพิ่มขึ้น และตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการแปรรูปมันสำปะหลังอาจมีความกังวลในเรื่องการขาดแคลนวัตถุดิบเพื่อรองรับทั้งโรงงานเอทานอลและแป้งมันสำปะหลังในช่วงเวลาที่เกษตรกรเลื่อนการเก็บเกี่ยวจากราคาที่ปรับตัวลดลง 5) สินค้าอื่นๆ เช่น น้ำตาลทราย คาดว่าจะผลิตและส่งออกได้เพิ่มขึ้น จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าการผลิตจะล่าช้าไปบ้างจากภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตามผลผลิตของพืชอื่นที่ให้แป้งและน้ำตาลทดแทนกันมีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นกัน อาจส่งผลทำให้ระดับราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกชะลอตัวได้ ส่วนน้ำมันพืช เช่น ปาล์มน้ำมัน คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นจากวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของพื้นที่เพาะปลูกและเริ่มให้ผลผลิต ในขณะที่สินค้าอื่นๆ เช่น เครื่องเทศสมุนไพร ผลิตภัณฑ์นม ซุปและอาหารปรุงแต่ง คาดว่าจะส่งออกได้ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ตารางที่ 1 ปริมาณการผลิตอุตสาหกรรมอาหาร ปริมาณการผลิต(ตัน) อัตราเปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) การใช้กำลังการผลิต(ร้อยละ) ไตรมาส4 ปี2548 ไตรมาส3 ปี2549 ไตรมาส4 ปี2549 ปี 2548 ปี 2549 เทียบไตรมาสก่อน เทียบกับปีก่อน ปี49เทียบกับปี 48 ปี 2548 ปี 2549 ปศุสัตว์ 235,512.20 226,754.60 227,967.20 860,561.00 913,320.00 0.5 -3.2 6.1 61.4 64.4 ประมง 234,713.60 253,916.20 224,782.10 893,858.90 936,997.60 -11.5 -4.2 4.8 55.3 54.3 ผักผลไม้ 243,488.50 228,119.30 228,373.40 847,056.40 1,033,580.60 0.1 -6.2 22 43.8 39.3 น้ำมันพืช 283,380.40 389,308.20 387,264.90 1,250,036.70 1,508,279.10 -0.5 36.7 20.7 41.1 43.7 ผลิตภัณฑ์นม 222,439.60 282,443.60 268,802.40 921,180.60 1,059,411.50 -4.8 20.8 15 47.4 52.7 มันสำปะหลัง 478,096.60 545,623.60 582,674.00 1,781,646.10 2,158,695.20 6.8 21.9 21.2 47.6 60.5 อาหารสัตว์ 1,524,045.50 1,609,681.20 1,579,119.60 5,674,148.60 6,244,213.40 -1.9 3.6 10 57.6 63.9 น้ำตาล 412,039.60 88,630.50 1,101,137.10 6,585,363.20 7,762,585.60 1,142.40 167.2 17.9 12.2 14.3 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 44,524.50 43,289.50 43,473.20 171,970.60 166,154.40 0.4 -2.4 3.4 57.8 60.3 รวม 3,678,240.60 3,667,766.70 4,643,593.90 18,985,822.10 21,783,237.40 26.6 26.2 14.7 34.4 41.9 ไม่รวมน้ำตาล 3,266,201.00 3,579,136.20 3,542,456.80 12,400,458.90 14,020,651.80 -1 8.5 13.1 56 56 ที่มา : ศูนย์สารสนเทศอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หมายเหตุ * ปี 49 เป็นข้อมูลเบื้องต้น ตารางที่ 2 ปริมาณการจำหน่ายในประเทศอุตสาหกรรมอาหาร จำหน่ายในประเทศ(ตัน) อัตราเปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) ไตรมาส4 ปี2548 ไตรมาส3 ปี2549 ไตรมาส 4 ปี2549 ปี 2548 ปี 2549 เทียบไตรมาสก่อน เทียบกับปีก่อน ปี49เทียบกับปี 48 ปศุสัตว์ 186,958.00 190,886.90 195,498.90 737,396.10 769,492.00 2.4 4.6 4.4 ประมง 30,035.30 33,120.10 31,234.60 117,168.60 124,319.10 -5.7 4 6.1 ผักผลไม้ 37,537.40 39,288.20 41,921.40 156,479.10 150,047.30 6.7 11.7 -4.1 น้ำมันพืช 228,615.40 278,086.90 274,738.60 982,299.40 1,079,101.40 -1.2 20.2 9.9 ผลิตภัณฑ์นม 185,986.00 237,118.00 228,750.30 732,929.60 839,716.30 -3.5 23 14.6 มันสำปะหลัง 265,544.20 279,921.60 291,366.20 1,056,912.40 1,169,516.30 4.1 9.7 10.7 อาหารสัตว์ 1,388,277.70 1,487,231.10 1,480,819.70 5,221,022.10 5,774,026.50 -0.4 6.7 10.6 น้ำตาล 554,240.40 958,109.50 667,603.00 3,999,105.50 3,968,226.70 -30.3 20.5 -0.8 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 35,469.00 35,593.20 37,009.30 131,505.80 138,286.90 4 4.3 5.2 รวม 2,912,663.30 3,539,355.60 3,248,941.90 13,134,818.80 14,012,732.40 -8.2 11.5 6.7 ไม่รวมน้ำตาล 2,358,422.90 2,581,246.10 2,581,338.90 9,135,713.20 10,044,505.70 0 9.5 9.9 ที่มา : ศูนย์สารสนเทศอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หมายเหตุ * ปี 49 เป็นข้อมูลเบื้องต้น ตารางที่ 3 มูลค่าการนำเข้าสินค้าอาหารที่สำคัญ (หน่วย : ล้านบาท) รายการ มูลค่าการนำเข้า (ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลง (ร้อยละ) ปี 2548 ปี 2549 ปี 2548 ปี 2549 เทียบไตรมาสก่อน เทียบไตรมาส เทียบกับปี 2548 ไตรมาสที่ 4 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4 เดียวกันของปีก่อนสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป 56,227.90 30,588.20 56,136.20 142,954.20 141,516.00 83.5 -0.2 -1 สัตว์น้ำสดแช่เย็นแช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป 14,440.60 13,217.00 13,364.80 52,174.90 53,628.20 1.1 -7.4 2.8 พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช 41,719.70 17,217.00 42,704.30 90,368.30 87,406.00 148 2.4 -3.3 สินค้าอุปโภค บริโภค 14,539.30 12,374.70 14,764.20 48,954.90 49,909.50 19.3 1.5 1.9 นมและผลิตภัณฑ์นม 4,620.60 2,818.20 4,284.20 13,654.60 13,012.70 52 -7.3 -4.7 อาหารปรุงแต่งสำหรับใช้เลี้ยงทารก 1,008.30 973.7 987.1 4,494.50 4,300.30 1.4 -2.1 -4.3 ข้าวและผลิตภัณฑ์จากแป้ง 902.2 689.7 898.9 2,987.50 3,046.50 30.3 -0.4 2 ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ 4,133.90 3,444.30 4,505.10 12,399.60 14,163.50 30.8 9 14.2 เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค 1,326.70 1,201.70 1,378.00 5,363.00 4,907.70 14.7 3.9 -8.5 ผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ 2,434.90 3,164.50 2,630.20 9,327.00 10,023.80 -16.9 8 7.5 รวม 70,767.20 42,962.90 70,900.40 191,909.10 191,425.50 65 0.2 -0.3 ที่มา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หมายเหตุ : * ปี 49 เป็นข้อมูลเบื้องต้น ตารางที่ 4 ปริมาณการส่งออกสินค้าอาหารที่สำคัญ (หน่วย : ตัน ) (ยังมีต่อ)