นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า Financial Crimes Enforcement Network (FinCEN) ของสหรัฐอเมริกาได้เสนอให้แก้กฎหมาย USA PATRIOT ACT โดยกำหนดให้นักธุรกิจ ทั้ง dealers และ retailers ซึ่งได้แก่ บุคคลที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในสหรัฐฯ หรือบุคคลที่เดินทางเข้าไปยังสหรัฐฯเพื่อทำการซื้อและขายในระหว่างงานแสดงสินค้า หรือบุคคลต่างชาติที่มีพนักงานขายของตนในสหรัฐฯ ที่ทำการซื้อและขายสินค้าโลหะมีค่า (precious metals) อัญมณีมีค่า (precious stone) และ เครื่องประดับ (jewels) ในสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าของการซื้อขายในปีภาษีที่ผ่านมาเกินกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐฯ จะต้องจัดทำโปรแกรม Anti-money Laundering (AML) เพื่อป้องกันการที่ธุรกิจของตนจะถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน โดยนักธุรกิจต้องจัดทำการประเมินความเสี่ยงของการฟอกเงิน นโยบาย ขบวนการ การดำเนินงานต่างๆ และพร้อมที่จะให้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ (U.S Department of Treasury) ติดต่อเพื่อตรวจสอบได้ทุกเมื่อ แต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงผู้ส่งออกไทยที่ส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายให้ผู้นำเข้าสหรัฐ โดยที่ตนไม่ได้มีการทำธุรกิจซื้อขายในสหรัฐฯเอง
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กฎหมายที่แก้ไขใหม่นี้มีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2548 และนักธุรกิจจะต้องจัดทำโปรแกรม AML ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 มกราคม 2549 หากไม่จัดทำโปรแกรม AML หรือในกรณีจัดทำโปรแกรมแล้วและยังมีการฟอกเงินเกิดขึ้นเนื่องจากโปรแกรมไม่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ ก็จะถูกลงโทษได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา
อนึ่งสินค้าอัญมณี เป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทยไปยังสหรัฐฯ โดยในปี 2546 และ ปี 2547 มีมูลค่าส่งออก 618.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 718.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯตามลำดับ ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค-ก.ย) มีมูลค่าส่งออกรวม 691.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นนักธุรกิจไทยที่ทำธุรกิจเข้าข่ายกฎหมายฉบับนี้ควรต้องให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจและติดตามกฎระเบียบดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ถูกลงโทษทั้งทางแพ่ง และทางอาญาจากสหรัฐฯได้
ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.fincen.gov
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กฎหมายที่แก้ไขใหม่นี้มีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2548 และนักธุรกิจจะต้องจัดทำโปรแกรม AML ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 มกราคม 2549 หากไม่จัดทำโปรแกรม AML หรือในกรณีจัดทำโปรแกรมแล้วและยังมีการฟอกเงินเกิดขึ้นเนื่องจากโปรแกรมไม่มีประสิทธิภาพที่ดีพอ ก็จะถูกลงโทษได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา
อนึ่งสินค้าอัญมณี เป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทยไปยังสหรัฐฯ โดยในปี 2546 และ ปี 2547 มีมูลค่าส่งออก 618.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 718.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯตามลำดับ ส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค-ก.ย) มีมูลค่าส่งออกรวม 691.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นนักธุรกิจไทยที่ทำธุรกิจเข้าข่ายกฎหมายฉบับนี้ควรต้องให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจและติดตามกฎระเบียบดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ถูกลงโทษทั้งทางแพ่ง และทางอาญาจากสหรัฐฯได้
ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : www.fincen.gov
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-