กรุงเทพ--10 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2548 ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ถึงผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2548 สรุปสาระได้ดังนี้
การหารือประเด็นด้านการเมือง
- การปฏิรูปสหประชาชาติ โดยทั่วไปแล้ว ที่ประชุมสนับสนุนรายงาน “In Larger Freedom” ของเลขาธิการสหประชาชาติที่ได้เสนอต่อคณะมนตรความมั่นคงเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2548 ในส่วนของไทยนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าไทยให้ความสำคัญของระบบพหุภาคีในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศต่างๆ และการปรับปรุงบทบาทของสหประชาชาติควรให้ความสำคัญกับด้านการพัฒนาควบคู่ไปกับด้านความมั่นคงอย่างสมดุล
- การก่อการร้าย ที่ประชุมเห็นพ้องกับข้อคิดเห็นของฝ่ายไทยที่เน้นถึงความจำเป็นในการที่ประเทศต่างๆ จะต้องเสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนเรื่องความแตกต่างหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อป้องกันและตอบโต้กลุ่มที่ใช้ศาสนามาเป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรง ไทยสนับสนุนการจัดประชุมเพื่อสร้างความสมานฉันท์ทางศาสนาที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในกลางเดือนกรกฎาคม ศกนี้ ที่บาหลี
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี และแสดงความกังวลในกรณีที่เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในความครอบครอง รวมทั้งหวังว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี การหารือด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและอื่นๆ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงข้อคิดเห็นต่อที่ประชุมในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- การพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และ ได้ใช้แนวทางดังกล่าวในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าจนประสบความสำเร็จ ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยกตัวอย่างโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ริเริ่มดำเนินการ เช่น โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และโครงการเงินทุนหมู่บ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงบทบาทของประเทศไทยในการร่วมมือและช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาประเทศเพื่อลดช่องว่างของความแตกต่างทางเศรษฐกิจ โดยได้ยกตัวอย่างยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่น้ำโขง (ACMECS) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-พม่า-เวียดนาม-กัมพูชา และลาว
- ความร่วมมือเอเชีย (ACD) ซึ่งเป็นเวทีแรกสำหรับประเทศต่างๆ ในเอเชียที่จะมาร่วมหารือและช่วยเหลือกันและกันในการพัฒนา จนสามารถจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเชีย ได้สำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ประเทศไทยเห็นว่าพันธบัตรเอเชียจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบการเงินของภูมิภาค ดังนั้น ฝ่ายยุโรปอาจพิจารณาใช้กรอบของ ACD เป็นแนวทางพัฒนาความร่วมมือกับเอเชีย
- ความมั่นคงของมนุษย์ ไทยเป็นประเทศผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายความมั่นคงของมนุษย์ (Human Security Network — HSN) และมีบทบาทอย่างแข็งขันมาโดยตลอด รวมทั้งได้พยายามผลักดันประเด็นเรื่อง “การปราศจากความกลัว” และ “การปราศจากความอดอยาก” ให้เป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศต่างๆ และในโอกาสที่ไทยกำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธาน HSN ก็จะได้เร่งส่งเสริมและกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
- ความร่วมมือด้านพลังงาน ประเทศไทยสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อศึกษาและพัฒนาพลังงานอื่นทดแทนน้ำมัน และได้กล่าวถึงความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาแก๊ซโซฮอลขึ้นมาใช้แทนน้ำมันเบนซินด้วย
- ASEM Youth Games ไทยให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนของสองภูมิภาค และจะจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนอาเซ็ม ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 2-8 มิถุนายน ศกนี้ และได้เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกส่งผู้แทนเข้าร่วมการแข่งขันด้วย
ในวันเดียวกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือทวิภาคีกับนางไลลา ไฟรวัลด์ นายมิเกล แองเกล โมราติโนส กูเยาเบ และนายแอรกิ ตัวมิโอยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน สเปน และฟินแลนด์ ตามลำดับด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2548 ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ถึงผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2548 สรุปสาระได้ดังนี้
การหารือประเด็นด้านการเมือง
- การปฏิรูปสหประชาชาติ โดยทั่วไปแล้ว ที่ประชุมสนับสนุนรายงาน “In Larger Freedom” ของเลขาธิการสหประชาชาติที่ได้เสนอต่อคณะมนตรความมั่นคงเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2548 ในส่วนของไทยนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าไทยให้ความสำคัญของระบบพหุภาคีในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศต่างๆ และการปรับปรุงบทบาทของสหประชาชาติควรให้ความสำคัญกับด้านการพัฒนาควบคู่ไปกับด้านความมั่นคงอย่างสมดุล
- การก่อการร้าย ที่ประชุมเห็นพ้องกับข้อคิดเห็นของฝ่ายไทยที่เน้นถึงความจำเป็นในการที่ประเทศต่างๆ จะต้องเสริมสร้างความเข้าใจของประชาชนเรื่องความแตกต่างหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อป้องกันและตอบโต้กลุ่มที่ใช้ศาสนามาเป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรง ไทยสนับสนุนการจัดประชุมเพื่อสร้างความสมานฉันท์ทางศาสนาที่อินโดนีเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในกลางเดือนกรกฎาคม ศกนี้ ที่บาหลี
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องปัญหาบนคาบสมุทรเกาหลี และแสดงความกังวลในกรณีที่เกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในความครอบครอง รวมทั้งหวังว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี การหารือด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและอื่นๆ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงข้อคิดเห็นต่อที่ประชุมในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- การพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และ ได้ใช้แนวทางดังกล่าวในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าจนประสบความสำเร็จ ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยกตัวอย่างโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ริเริ่มดำเนินการ เช่น โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และโครงการเงินทุนหมู่บ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงบทบาทของประเทศไทยในการร่วมมือและช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาประเทศเพื่อลดช่องว่างของความแตกต่างทางเศรษฐกิจ โดยได้ยกตัวอย่างยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่น้ำโขง (ACMECS) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-พม่า-เวียดนาม-กัมพูชา และลาว
- ความร่วมมือเอเชีย (ACD) ซึ่งเป็นเวทีแรกสำหรับประเทศต่างๆ ในเอเชียที่จะมาร่วมหารือและช่วยเหลือกันและกันในการพัฒนา จนสามารถจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเชีย ได้สำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ประเทศไทยเห็นว่าพันธบัตรเอเชียจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบการเงินของภูมิภาค ดังนั้น ฝ่ายยุโรปอาจพิจารณาใช้กรอบของ ACD เป็นแนวทางพัฒนาความร่วมมือกับเอเชีย
- ความมั่นคงของมนุษย์ ไทยเป็นประเทศผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายความมั่นคงของมนุษย์ (Human Security Network — HSN) และมีบทบาทอย่างแข็งขันมาโดยตลอด รวมทั้งได้พยายามผลักดันประเด็นเรื่อง “การปราศจากความกลัว” และ “การปราศจากความอดอยาก” ให้เป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศต่างๆ และในโอกาสที่ไทยกำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธาน HSN ก็จะได้เร่งส่งเสริมและกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
- ความร่วมมือด้านพลังงาน ประเทศไทยสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อศึกษาและพัฒนาพลังงานอื่นทดแทนน้ำมัน และได้กล่าวถึงความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาแก๊ซโซฮอลขึ้นมาใช้แทนน้ำมันเบนซินด้วย
- ASEM Youth Games ไทยให้ความสำคัญต่อการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างเยาวชนของสองภูมิภาค และจะจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนอาเซ็ม ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 2-8 มิถุนายน ศกนี้ และได้เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกส่งผู้แทนเข้าร่วมการแข่งขันด้วย
ในวันเดียวกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือทวิภาคีกับนางไลลา ไฟรวัลด์ นายมิเกล แองเกล โมราติโนส กูเยาเบ และนายแอรกิ ตัวมิโอยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน สเปน และฟินแลนด์ ตามลำดับด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-