ในการประชุมธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เข้าร่วมประชุมเห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้นถึงระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2548 นับว่าเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ จึงมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจระหว่างประเทศจะได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันแพงขึ้น นายโตชิฮิโกะ ฟูกูอิ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นถึงระดับ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลกระทบทั้งประเทศเกิดใหม่และกลุ่มประเทศใหญ่ ๆ ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากตลาดโลก ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพแต่ก็มีความวิตกว่าราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออก หากเกิดภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯหรือจีน ส่วนรัฐมนตรีคลังจากกลุ่มประเทศเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) เห็นพ้องกันว่าการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยคุกคามอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเห็นว่าควรจะมีการเจรจากับประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อเรียกร้องความโปร่งใสเกี่ยวกับตลาดน้ำมันโลก รวมทั้งมีความเห็นว่าควรเปิดเผยข้อมูลให้มากขึ้นเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมัน การสำรองน้ำมันและการบริโภคน้ำมันประเด็นวิเคราะห์: หากราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นไปอีกก็จะมีผลให้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงได้ ซึ่งจะมีผลให้ภาคการส่งออกกระทบกระเทือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้น ตลอดจนนักลงทุนต่างกังวลว่าผลกำไรจะลดลงเพราะต้นทุนสูงขึ้นทั้งการผลิตและการขนส่ง ที่มา: http://www.depthai.go.th