ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. รมว.คลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการป้องกันความ
เสี่ยงในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน
ตลาดทุน อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สมาคมบริษัทจดทะเบียน ซึ่งผลจากการหารือเป็นการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่จะนำมาบังคับใช้เพื่อ
ป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน โดยข้อสรุปดังกล่าว อาทิ เรื่องของการใช้มาตรการวางหลักทรัพย์ 10% ใน
การค้ำประกันเงินสดในการซื้อขายหุ้นตัวเดียววันเดียว (เน็ตเซ็ทเทิลเม้นท์) ให้เริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ก.ค.47
เลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 1 เม.ย.47 เรื่องของมาตรการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 25% จะมีการเสนอต่อที่
ประชุมกรรมการเพื่อขอยกเลิกเนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะแข่งขันกับต่างประเทศ และมาตรการอื่นๆ ที่
เกี่ยวข้อง ซึ่งผลของการหารือดังกล่าว ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 11 มี.ค.47 ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย
ปิดตลาดที่ระดับ 707.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,832.01 ล.บาท หลังจากเปิด
ตลาดที่ระดับ 702.87 จุด ลดลง 2.42 จุด (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
2. ผู้บริหาร ธ.ยูโอบีสิงคโปร์เข้าหารือกับ ธปท.เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ธ.ยูโอบีรัตนสินกับ
ธ.เอเชีย นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11
มี.ค.47 ผู้บริหารจาก ธ.ยูไนเต็ด โอเวอร์ซี แบงก์ สิงคโปร์ (ยูโอบี) ได้เข้าหารือกับ ธปท.เกี่ยวกับขั้น
ตอนและระเบียบปฏิบัติในการควบรวมกิจการ ธ.ยูโอบีรัตนสิน กับ ธ.เอเชีย เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา
ระบบสถาบันการเงิน รวมถึงประเด็นผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งในส่วนของ ธปท.เห็นด้วยกับการควบ
รวมดังกล่าว เนื่องจาก ธปท.สนับสนุนให้เกิดการควบรวมกิจการอยู่แล้ว อนึ่ง ความคืบหน้าในขณะนี้ ธ.ยูโอบี
สิงคโปร์ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้น ธ.เอเชีย (โลกวันนี้, ผู้จัดการรายวัน)
3. ยอดหนี้สาธารณะ ณ สิ้นปี 46 มีสัดส่วนเป็น 48.95% ของจีดีพี ผอ.สำนักงานบริหารหนี้
สาธารณะ เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 ธ.ค.46 มีจำนวน 2,889,963 ล.บาท คิดเป็น 48.95%
ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2,448 ล.บาท เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง
1,619,606 ล.บาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 852,673 ล.บาท และหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ
417,684 ล.บาท แยกเป็นหนี้ในประเทศ 2,197,380 ล.บาทคิดเป็น 76.03% และหนี้ต่างประเทศ
692,583 ล.บาทคิดเป็น 23.97% โดยเป็นหนี้ระยะยาว 2,347,800 ล.บาทคิดเป็น 81.24% และหนี้ระยะ
สั้น 542,163 ล.บาทคิดเป็น 18.76% โดยหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ (โลกวันนี้,
ข่าวสด)
4. ผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตแสดงความเห็นต่อมาตรการควบคุมของ ธปท. ผู้จัดการสาย
บัตรเครดิต ธ.กรุงเทพ เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมที่จะออกมาตรการควบ
คุมธุรกิจบัตรเครดิตว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธนาคารแต่อย่างใด เนื่องจากธนาคารมีการเข้มงวดเกี่ยวกับการ
รับสมัครบัตรเครดิตอยู่แล้ว นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย กล่าวว่า มีประเด็นที่จะ
เป็นปัญหาให้กับผู้ประกอบการในเรื่องของการควบคุมยอดสินเชื่อบัตรเครดิตของผู้ถือบัตร ซึ่งการตรวจสอบ
ข้อมูลดังกล่าวจะต้องใช้ข้อมูลจากเครดิตบูโร ที่ในปัจจุบันยังมีความไม่พร้อมในเรื่องของการประมวลผล
สำหรับผู้จัดการ บริษัทวีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนล (ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) กล่าวว่า
มาตรการดังกล่าวส่งผลดีกับทุกฝ่ายเนื่องจากจะอยู่บนมาตรฐานเดียวกันและช่วยลดความเสี่ยง ด้านผู้อำนวย
การฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธ.กสิกรไทย กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ลูกค้าบัตรเครดิตหัน
มาใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น (สยามรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. IfW ทบทวนคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 47 รายงานจากเบอร์ลิน
เมื่อ
วันที่ 11 มี.ค. 47 Institute for World Economics | IfW ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 สถาบันทางเศรษฐกิจ
ชั้นนำของเยอรมนี เปิดเผยว่าได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจที่
ใหญ่ที่สุดในยุโรปในปี 47 เป็นร้อยละ 1.6 จากเดิมที่คาดไว้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวถึงร้อยละ 1.8
เนื่องจากความวิตกในการแข็งค่าของเงินยูโรและผลของการปฏิรูประบบเศรษฐกิจในระยะสั้น ทั้งนี้ในปี 46
เงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สรอ. สูงกว่า 1.29 ดอลลาร์สรอ.ต่อ 1 ยูโร หรือแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 20 ทำ
สถิติสูงสุดในเดือนก.พ. นักเศรษฐศาสตร์จาก IfW กล่าวว่ารัฐบาลเยอรมนีผ่านกม.การปฎิรูปเศรษฐกิจใน
เดือนธ.ค. ซึ่งรวมทั้งการนำเงิน 9 พัน ล. ยูโรจากปี 48 (งปม.การปรับลดภาษีในปี 47)มาใช้ล่วงหน้า
เป็นการมองภาพในระยะสั้นมากและดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากประชาชนต่างรู้ว่า
การใช้จ่ายสวัสดิการที่อุดหนุนโดยรัฐบาลยังคงสูงอยู่ การประหยัดภาษีก็ไม่อาจชดเชยกันได้ ประชาชนต้องการ
มาตรการที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวและไม่ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเพียงระยะ
1 หรือ 2 ปี นอกจากนั้น IfW ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนในปี 47 เป็นร้อย
ละ 1.7 จากที่คาดไว้เดิมเมื่อเดือนธ.ค. 46 ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะเติบโตถึงร้อยละ 2.1 รวมทั้งคาด
ว่าในปี 48 เศรษฐกิจในยูโรโซนจะขยายตัวร้อยละ 2.0 และเศรษฐกิจเยอรมนีจะเติบโตร้อยละ 1.2 (รอย
เตอร์)
2. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีและระยะ 15 ปีของสรอ. ลดลงเกือบถึงสถิติต่ำสุด
รายงานจาก วอชิงตัน เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 47 Freddie Mac สถาบันสินเชื่อจำนองที่ใหญ่ที่สุดของสรอ.
กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอัตราคงที่ระยะ 30 ปี ของสรอ. เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ยร้อยละ 5.41
ลดลงจากร้อยละ 5.59 เมื่อสัปดาห์ก่อน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยทำสถิติต่ำสุดร้อยละ 5.40 เมื่อสัปดาห์วันที่ 4
ก.ค. 46 เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยฯระยะ 15 ปีที่ลดลงอย่างมากที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.69 จากระดับ
ร้อยละ 4.88 ต่ำสุดนับแต่สัปดาห์วันที่ 27 มิ.ย. 46 อยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.63 สำหรับอัตราดอกเบี้ย
เงินกู้จำนองระยะ 1 ปีที่ปรับได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ลดลงอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 3.41 จากระดับร้อยละ 3.47
เมื่อสัปดาห์ก่อน ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 27 ทั้งนี้ Freddie Mac คาดว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวทั้งปี 47 อาจจะ
ต่ำกว่าปี 46 และยอดขายบ้านจะสูงกว่าปีที่แล้วเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ นอกจากนั้นนายอลัน กรีนสแป
นประธานธ.กลาง สรอ.กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีมีความสำคัญมากในการส่งเสริม
อุตสาหกรรมบ้าน(รอยเตอร์)
3. ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.ในเดือน ก.พ.47 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รายงานจาก
วอชิงตัน เมื่อ 11 มี.ค.47 ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.ในเดือน ก.พ.47
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรี
ทประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่เมื่อเดือน ม.ค.47 ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.เมื่อปรับตัวเลขแล้วเพิ่มขึ้น
อย่างมากถึงระดับร้อยละ 1.5 จากที่รายงานในครั้งแรกว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคาสินค้า
นำเข้าของ สรอ.เพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ.47 เนื่องจากต้นทุนราคาสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.6 และ
และราคาสินค้าอุตสาหกรรมและวัตถุดิบเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ขณะที่ราคานำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
0.2 หลังจากที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.2 ในเดือนก่อน ส่วนราคานำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4
ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อย่างไรก็ตาม ค่าของเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.ที่อ่อนตัวลงในช่วง 2
ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.พุ่งสูงขึ้น แต่ก็เพียงเบาบาง เนื่องจากถูกกดดันจากภาวะเงิน
เฟ้อ ขณะที่ The Federal Reserve เห็นว่า การอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์ สรอ. ไม่ได้มีผลกระทบต่อ
ราคาสินค้านำเข้า สรอ. มากนัก เพราะผู้ประกอบการต่างชาติยินดีที่จะละทิ้งผลกำไรบางส่วนเพื่อรักษาส่วน
แบ่งการตลาดไว้ (รอยเตอร์)
4. ดัชนีราคาขายปลีกของ สรอ. ในเดือน ก.พ.47 เพิ่มขึ้น รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่
11
มี.ค.47 กรมพาณิชย์ ของ สรอ. เปิดเผยว่า ดัชนีราคาขายปลีกของ สรอ. ในเดือน ก.พ.47 เพิ่มขึ้น
0.6% อยู่ที่ระดับ 327.17 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งอยู่ในระดับที่นักวิเคราะห์หลายรายในวอลล์สตรีทคาด
การณ์ไว้ โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากยอดขายรถยนต์และห้างสรรพสินค้า ในขณะที่ยอดขายนอกภาค
อุตสาหกรรมรถยนต์ไม่เป็นไปตามคาดการณ์คือ มีตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ม.ค.47 ในขณะที่นัก
เศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 0.5 อนึ่ง มีการปรับตัวเลขดัชนีราคาขายปลีกของเดือน ม.ค.47
ขึ้นเป็น 0.2% แต่หากไม่รวมยอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 1.2% ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการรายงานตัวเลขโดยรวม
ดัชนีราคาขายปลีกเดือน ม.ค.47 ว่าลดลง 0.3% และหากไม่รวมยอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.9% ทั้งนี้ นัก
เศรษฐศาสตร์หลายรายได้เฝ้าติดตามดัชนีราคาขายปลีกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสัดส่วนสำคัญอันหนึ่งของ
การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 2 ใน 3 ของระบบเศรษฐกิจ สำหรับยอดขายรถยนต์ในเดือน
ก.พ.47 ที่เพิ่มขึ้น 2.7% นับเป็นตัวเลขสูงสุดนับตังแต่เดือน มี.ค.46 ขณะที่ ยอดขายของห้างสรรพสินค้าที่
เพิ่มขึ้น 1.2% เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.46 (รอยเตอร์)
5. ตัวเลขการว่างงานใน สรอ. ณ สัปดาห์แรกของเดือน มี.ค.47 ลดลง รายงานจาก
วอชิงตันเมื่อวันที่ 11 มี.ค.47 รัฐบาล สรอ. เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขจำนวนคนว่างงานของ
กองทุนประกันการว่างงานของรัฐลดลง 6,000 คน อยู่ที่ระดับ 341,000 คน ในสัปดาห์แรกของเดือน
มี.ค.47 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่วอลล์สตรีทคาดการณ์
ไว้คือ 345,000 คน ตัวเลขใหม่นี้แสดงให้เห็นความมีเสถียรภาพมากขึ้นในตลาดแรงงานในช่วง 4 เดือนที่
ผ่านมา และคาดว่าการเลิกจ้างงานจะมีแนวโน้มดีขึ้น ในขณะที่ ณ สิ้นเดือน ก.พ.47 มีประชาชนที่ว่างงาน
ขอเบิกเงินช่วยเหลือลดลง 41,000 คน อยู่ที่ระดับ 3.03 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน
ก.ค.2544 แสดงให้เห็นสัญญานการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน สรอ. อย่างไรก็ตาม แม้การเลิกจ้างงานจะ
ผ่อนคลายลง แต่การจ้างงานยังคงไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจในปีนี้
อาจจะขยายตัวไม่มากนักหากอัตราการจ้างงานไม่เพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ
12/3/47 11/3/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$)
39.408 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$)
39.2211/39.5104 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ)
1.1250 - 1.2800 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท)
707.74/30.83 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ)
7,450/7,550 7,400/7,500 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล)
30.71 30.07 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท)
16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. รมว.คลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการป้องกันความ
เสี่ยงในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน
ตลาดทุน อาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สมาคมบริษัทจดทะเบียน ซึ่งผลจากการหารือเป็นการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่จะนำมาบังคับใช้เพื่อ
ป้องกันความเสี่ยงในการลงทุน โดยข้อสรุปดังกล่าว อาทิ เรื่องของการใช้มาตรการวางหลักทรัพย์ 10% ใน
การค้ำประกันเงินสดในการซื้อขายหุ้นตัวเดียววันเดียว (เน็ตเซ็ทเทิลเม้นท์) ให้เริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ก.ค.47
เลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 1 เม.ย.47 เรื่องของมาตรการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน 25% จะมีการเสนอต่อที่
ประชุมกรรมการเพื่อขอยกเลิกเนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะแข่งขันกับต่างประเทศ และมาตรการอื่นๆ ที่
เกี่ยวข้อง ซึ่งผลของการหารือดังกล่าว ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 11 มี.ค.47 ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย
ปิดตลาดที่ระดับ 707.74 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,832.01 ล.บาท หลังจากเปิด
ตลาดที่ระดับ 702.87 จุด ลดลง 2.42 จุด (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
2. ผู้บริหาร ธ.ยูโอบีสิงคโปร์เข้าหารือกับ ธปท.เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ธ.ยูโอบีรัตนสินกับ
ธ.เอเชีย นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11
มี.ค.47 ผู้บริหารจาก ธ.ยูไนเต็ด โอเวอร์ซี แบงก์ สิงคโปร์ (ยูโอบี) ได้เข้าหารือกับ ธปท.เกี่ยวกับขั้น
ตอนและระเบียบปฏิบัติในการควบรวมกิจการ ธ.ยูโอบีรัตนสิน กับ ธ.เอเชีย เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา
ระบบสถาบันการเงิน รวมถึงประเด็นผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย ซึ่งในส่วนของ ธปท.เห็นด้วยกับการควบ
รวมดังกล่าว เนื่องจาก ธปท.สนับสนุนให้เกิดการควบรวมกิจการอยู่แล้ว อนึ่ง ความคืบหน้าในขณะนี้ ธ.ยูโอบี
สิงคโปร์ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้น ธ.เอเชีย (โลกวันนี้, ผู้จัดการรายวัน)
3. ยอดหนี้สาธารณะ ณ สิ้นปี 46 มีสัดส่วนเป็น 48.95% ของจีดีพี ผอ.สำนักงานบริหารหนี้
สาธารณะ เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 ธ.ค.46 มีจำนวน 2,889,963 ล.บาท คิดเป็น 48.95%
ของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2,448 ล.บาท เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง
1,619,606 ล.บาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน 852,673 ล.บาท และหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ
417,684 ล.บาท แยกเป็นหนี้ในประเทศ 2,197,380 ล.บาทคิดเป็น 76.03% และหนี้ต่างประเทศ
692,583 ล.บาทคิดเป็น 23.97% โดยเป็นหนี้ระยะยาว 2,347,800 ล.บาทคิดเป็น 81.24% และหนี้ระยะ
สั้น 542,163 ล.บาทคิดเป็น 18.76% โดยหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ (โลกวันนี้,
ข่าวสด)
4. ผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตแสดงความเห็นต่อมาตรการควบคุมของ ธปท. ผู้จัดการสาย
บัตรเครดิต ธ.กรุงเทพ เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมที่จะออกมาตรการควบ
คุมธุรกิจบัตรเครดิตว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธนาคารแต่อย่างใด เนื่องจากธนาคารมีการเข้มงวดเกี่ยวกับการ
รับสมัครบัตรเครดิตอยู่แล้ว นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย กล่าวว่า มีประเด็นที่จะ
เป็นปัญหาให้กับผู้ประกอบการในเรื่องของการควบคุมยอดสินเชื่อบัตรเครดิตของผู้ถือบัตร ซึ่งการตรวจสอบ
ข้อมูลดังกล่าวจะต้องใช้ข้อมูลจากเครดิตบูโร ที่ในปัจจุบันยังมีความไม่พร้อมในเรื่องของการประมวลผล
สำหรับผู้จัดการ บริษัทวีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนล (ประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) กล่าวว่า
มาตรการดังกล่าวส่งผลดีกับทุกฝ่ายเนื่องจากจะอยู่บนมาตรฐานเดียวกันและช่วยลดความเสี่ยง ด้านผู้อำนวย
การฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธ.กสิกรไทย กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้ลูกค้าบัตรเครดิตหัน
มาใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น (สยามรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. IfW ทบทวนคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจเยอรมนีในปี 47 รายงานจากเบอร์ลิน
เมื่อ
วันที่ 11 มี.ค. 47 Institute for World Economics | IfW ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 สถาบันทางเศรษฐกิจ
ชั้นนำของเยอรมนี เปิดเผยว่าได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจที่
ใหญ่ที่สุดในยุโรปในปี 47 เป็นร้อยละ 1.6 จากเดิมที่คาดไว้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะขยายตัวถึงร้อยละ 1.8
เนื่องจากความวิตกในการแข็งค่าของเงินยูโรและผลของการปฏิรูประบบเศรษฐกิจในระยะสั้น ทั้งนี้ในปี 46
เงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์สรอ. สูงกว่า 1.29 ดอลลาร์สรอ.ต่อ 1 ยูโร หรือแข็งค่าขึ้นถึงร้อยละ 20 ทำ
สถิติสูงสุดในเดือนก.พ. นักเศรษฐศาสตร์จาก IfW กล่าวว่ารัฐบาลเยอรมนีผ่านกม.การปฎิรูปเศรษฐกิจใน
เดือนธ.ค. ซึ่งรวมทั้งการนำเงิน 9 พัน ล. ยูโรจากปี 48 (งปม.การปรับลดภาษีในปี 47)มาใช้ล่วงหน้า
เป็นการมองภาพในระยะสั้นมากและดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากประชาชนต่างรู้ว่า
การใช้จ่ายสวัสดิการที่อุดหนุนโดยรัฐบาลยังคงสูงอยู่ การประหยัดภาษีก็ไม่อาจชดเชยกันได้ ประชาชนต้องการ
มาตรการที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาวและไม่ต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเพียงระยะ
1 หรือ 2 ปี นอกจากนั้น IfW ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซนในปี 47 เป็นร้อย
ละ 1.7 จากที่คาดไว้เดิมเมื่อเดือนธ.ค. 46 ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะเติบโตถึงร้อยละ 2.1 รวมทั้งคาด
ว่าในปี 48 เศรษฐกิจในยูโรโซนจะขยายตัวร้อยละ 2.0 และเศรษฐกิจเยอรมนีจะเติบโตร้อยละ 1.2 (รอย
เตอร์)
2. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีและระยะ 15 ปีของสรอ. ลดลงเกือบถึงสถิติต่ำสุด
รายงานจาก วอชิงตัน เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 47 Freddie Mac สถาบันสินเชื่อจำนองที่ใหญ่ที่สุดของสรอ.
กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองอัตราคงที่ระยะ 30 ปี ของสรอ. เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเฉลี่ยร้อยละ 5.41
ลดลงจากร้อยละ 5.59 เมื่อสัปดาห์ก่อน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยทำสถิติต่ำสุดร้อยละ 5.40 เมื่อสัปดาห์วันที่ 4
ก.ค. 46 เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยฯระยะ 15 ปีที่ลดลงอย่างมากที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.69 จากระดับ
ร้อยละ 4.88 ต่ำสุดนับแต่สัปดาห์วันที่ 27 มิ.ย. 46 อยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 4.63 สำหรับอัตราดอกเบี้ย
เงินกู้จำนองระยะ 1 ปีที่ปรับได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ลดลงอยู่ที่ระดับเฉลี่ยร้อยละ 3.41 จากระดับร้อยละ 3.47
เมื่อสัปดาห์ก่อน ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 27 ทั้งนี้ Freddie Mac คาดว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวทั้งปี 47 อาจจะ
ต่ำกว่าปี 46 และยอดขายบ้านจะสูงกว่าปีที่แล้วเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ นอกจากนั้นนายอลัน กรีนสแป
นประธานธ.กลาง สรอ.กล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีมีความสำคัญมากในการส่งเสริม
อุตสาหกรรมบ้าน(รอยเตอร์)
3. ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.ในเดือน ก.พ.47 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รายงานจาก
วอชิงตัน เมื่อ 11 มี.ค.47 ก.แรงงาน สรอ. เปิดเผยว่า ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.ในเดือน ก.พ.47
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรี
ทประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่เมื่อเดือน ม.ค.47 ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.เมื่อปรับตัวเลขแล้วเพิ่มขึ้น
อย่างมากถึงระดับร้อยละ 1.5 จากที่รายงานในครั้งแรกว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ทั้งนี้ สาเหตุที่ราคาสินค้า
นำเข้าของ สรอ.เพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ.47 เนื่องจากต้นทุนราคาสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 1.6 และ
และราคาสินค้าอุตสาหกรรมและวัตถุดิบเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ขณะที่ราคานำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ
0.2 หลังจากที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.2 ในเดือนก่อน ส่วนราคานำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4
ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อย่างไรก็ตาม ค่าของเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.ที่อ่อนตัวลงในช่วง 2
ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าของ สรอ.พุ่งสูงขึ้น แต่ก็เพียงเบาบาง เนื่องจากถูกกดดันจากภาวะเงิน
เฟ้อ ขณะที่ The Federal Reserve เห็นว่า การอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์ สรอ. ไม่ได้มีผลกระทบต่อ
ราคาสินค้านำเข้า สรอ. มากนัก เพราะผู้ประกอบการต่างชาติยินดีที่จะละทิ้งผลกำไรบางส่วนเพื่อรักษาส่วน
แบ่งการตลาดไว้ (รอยเตอร์)
4. ดัชนีราคาขายปลีกของ สรอ. ในเดือน ก.พ.47 เพิ่มขึ้น รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่
11
มี.ค.47 กรมพาณิชย์ ของ สรอ. เปิดเผยว่า ดัชนีราคาขายปลีกของ สรอ. ในเดือน ก.พ.47 เพิ่มขึ้น
0.6% อยู่ที่ระดับ 327.17 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งอยู่ในระดับที่นักวิเคราะห์หลายรายในวอลล์สตรีทคาด
การณ์ไว้ โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากยอดขายรถยนต์และห้างสรรพสินค้า ในขณะที่ยอดขายนอกภาค
อุตสาหกรรมรถยนต์ไม่เป็นไปตามคาดการณ์คือ มีตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ม.ค.47 ในขณะที่นัก
เศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 0.5 อนึ่ง มีการปรับตัวเลขดัชนีราคาขายปลีกของเดือน ม.ค.47
ขึ้นเป็น 0.2% แต่หากไม่รวมยอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 1.2% ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการรายงานตัวเลขโดยรวม
ดัชนีราคาขายปลีกเดือน ม.ค.47 ว่าลดลง 0.3% และหากไม่รวมยอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.9% ทั้งนี้ นัก
เศรษฐศาสตร์หลายรายได้เฝ้าติดตามดัชนีราคาขายปลีกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นสัดส่วนสำคัญอันหนึ่งของ
การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีมูลค่าสูงถึงประมาณ 2 ใน 3 ของระบบเศรษฐกิจ สำหรับยอดขายรถยนต์ในเดือน
ก.พ.47 ที่เพิ่มขึ้น 2.7% นับเป็นตัวเลขสูงสุดนับตังแต่เดือน มี.ค.46 ขณะที่ ยอดขายของห้างสรรพสินค้าที่
เพิ่มขึ้น 1.2% เป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค.46 (รอยเตอร์)
5. ตัวเลขการว่างงานใน สรอ. ณ สัปดาห์แรกของเดือน มี.ค.47 ลดลง รายงานจาก
วอชิงตันเมื่อวันที่ 11 มี.ค.47 รัฐบาล สรอ. เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขจำนวนคนว่างงานของ
กองทุนประกันการว่างงานของรัฐลดลง 6,000 คน อยู่ที่ระดับ 341,000 คน ในสัปดาห์แรกของเดือน
มี.ค.47 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่วอลล์สตรีทคาดการณ์
ไว้คือ 345,000 คน ตัวเลขใหม่นี้แสดงให้เห็นความมีเสถียรภาพมากขึ้นในตลาดแรงงานในช่วง 4 เดือนที่
ผ่านมา และคาดว่าการเลิกจ้างงานจะมีแนวโน้มดีขึ้น ในขณะที่ ณ สิ้นเดือน ก.พ.47 มีประชาชนที่ว่างงาน
ขอเบิกเงินช่วยเหลือลดลง 41,000 คน อยู่ที่ระดับ 3.03 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน
ก.ค.2544 แสดงให้เห็นสัญญานการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน สรอ. อย่างไรก็ตาม แม้การเลิกจ้างงานจะ
ผ่อนคลายลง แต่การจ้างงานยังคงไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจในปีนี้
อาจจะขยายตัวไม่มากนักหากอัตราการจ้างงานไม่เพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ
12/3/47 11/3/47 30/1/47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$)
39.408 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$)
39.2211/39.5104 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ)
1.1250 - 1.2800 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท)
707.74/30.83 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ)
7,450/7,550 7,400/7,500 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล)
30.71 30.07 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท)
16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-