ตลอดระยะเวลา 60 วันของการรับฟังปัญหาชาวกรุงเทพมหานคร นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้ข้อมูลลึกซึ้งถึงความต้องการของคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการให้เข้าไปขจัดปัญหา ด้วยการปฏิรูปการทำงานของ กทม.ด้วยการบริหารจัดการรูปแบบใหม่ ที่เน้นการเข้าถึงคนกรุงอย่างแท้จริง พร้อมประกาศ แนวทางการทำงานนับถอยหลัง 150 วันสู่การเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
นายอภิรักษ์ ได้ดำเนินการเข้าไปรับฟังปัญหาของคนกรุงเทพมหานครด้วยวิธีการที่เป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านทาง Website หรือการเปิดรับฟังปัญหาต่างๆ ผ่านทาง Call Center รวมทั้งการจัดทำแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นในประเด็นปัญหาต่างๆ ที่อยู่ในใจคนกรุงเทพฯ โดยข้อมูลที่ได้มาจากการลงพื้นที่ตลอด 60 วันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ยืนยันความเชื่อของนายอภิรักษ์มาตั้งแต่ต้นว่า ปัญหาที่อยู่ในใจของคนกรุงเทพฯ ในประเด็นใหญ่ๆ ได้แก่ 1.ปัญหาการจราจร 2.ปัญหาขยะมูลฝอย มลภาวะ และสิ่งแวดล้อม 3.ปัญหาเรื่องความปลอดภัย
โดยปัจจัยสำคัญในการจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้นั้น ไม่ใช่การแก้ไขด้วยอำนาจหรือการใช้เงินงบประมาณโดยลำพัง แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การเข้ามาบริหารจัดการปัญหาแนวใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปกรุงเทพมหานคร ทั้งการปฏิรูปปัญหาจราจร ปัญหาขยะมูลฝอย รวมทั้งปัญหาเรื่องของความปลอดภัย ทั้งนี้นายอภิรักษ์ได้เน้นว่า การบริหารจัดการแนวใหม่ คือการจัดการปัญหาโดยที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะต้องทำงานคู่กับประชาชน ไม่ใช่การนั่งบริหารงานอยู่ที่เสาชิงช้าเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการบริหารจัดการแนวใหม่เป็นการทำงานที่ต้องเข้าไปแสวงหาการมีส่วนร่วมของทั้งภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งการปรับบทบาทการทำงานของกทม. ในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาการจราจร ที่นอกจากการปรับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลายแล้ว ยังมีความจำเป็นที่จะต้องลงไปดูแลการจัดการในแต่ละพื้นที่การจราจร แต่ละทางแยกอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงและนำมากำหนดแนวทางการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงระบบตรงนั้นได้อย่างไร รวมไถึงการเข้าไปทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงเรียน ทั้งในสังกัดกรุงเทพมหานคร และนอกสังกัด เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปรับปรุงระบบการจราจรต่างๆ ทั้งในเรื่องของการจัดระบบรถโรงเรียน และการเข้าไปจัดระบบหลักสูตรท้องถิ่นเกี่ยวกับชีวิตคนเมืองยุคใหม่ ในเรื่องของวินัยจราจร และเรื่องของระบบขนส่งมวลชน ทั้งนี้จะครอบคลุมในเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย
นอกจากนี้จะเสริมสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมตลลอดจนการเข้าไปดูแลเรื่องขยะ ตามแนวทางการบริหารจัดการแนวใหม่ เนื่องจากปัจจุบันทางกรุงเทพมหานครได้ขึ้นราคาค่าเก็บขยะไปถึง 4 เท่าแล้ว การให้บริการสมควรที่ต้องดีขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีการเพิ่มเวลาการจัดเก็บขยะให้ถี่ขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการลงทุนเพิ่มเติมพร้อมกับการปฏิรูปการบริหารจัดการ สำหรับเรื่องความปลอดภัย จะต้องมีการลงไปสำรวจจุดเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นจุดที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม ทั้งนี้นายอภิรักษ์ ยังมีแนวคิดปรับบทบาทบุคลากรของกทม. เช่น เทศกิจ ให้เข้ามาดูแลประชาชนโดยให้ผู้รักษาความปลอดภัยโดยจะร่วมกับอาสาสมัครในชุมนนั้นๆ นอกจากนี้ การบริหารจัดการแนวใหม่จะครอบคลุมไปถึงการให้บริการด้านอื่นของกทม.ด้วย เช่น ฝ่ายโยธาที่มีหน้าที่ต้องรับและอนุมัติแบบการก่อสร้าง ก็จะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ซึ่งจะทำให้การให้บริการมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ภายใต้แนวคิดของการบริหารจัดการแนวใหม่ของนายอภิรักษ์นี้ ใน 150 วันข้างหน้า นอกจากจะมีการรณรงค์เดินหาเสียงตามปกติแล้ว จะเริ่มต้นทำงานในส่วนของการรณรงค์ตามแนวทางการบริหารจัดการแนวใหม่นี้ด้วย เช่น การไปที่จุดที่มีปัญหาการจราจรต่างๆ ได้แก่ การเข้าหาโรงเรียนเพื่อขอความร่วมมือ แม้กระทั่งคนขับรถเมล์หรือบุคลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องของวินัยจราจร เพื่อให้การปฎิรูปการทำงานของกรุงเทพมหานครได้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมมากที่สุด
‘หวังว่าตลอดระยะเวลา 60 วันที่ผมได้มีโอกาสลงพื้นที่ทำงานร่วมกับประชาชนในทุกเขต จะเป็นการยืนยันถึงความมั่นใจ ยืนยันถึงความพร้อมของพวกเราชาวประชาธิปัตย์ในการที่จะเสนอตัวในการผลักดันนโยบายต่างๆร่วมกับพี่น้องประชาชนทุกคน ในการแก้ไขปัญหาและปฏิรูปกรุงเทพมหานครของเรา ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยการปฏิรูปกรุงเทพมหานครของเรา เพื่อให้ทุกคนที่อาศัยในกรุงเทพ มีความเป็นอยู่ที่มีความสุข ผมพร้อมแล้วที่จะพัฒนากรุงเทพ ผมจะปฏิรูปกรุงเทพฯ และผมจะลุยด้วยใจ’ นายอภิรักษ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30/03/47--จบ--
-สส-
นายอภิรักษ์ ได้ดำเนินการเข้าไปรับฟังปัญหาของคนกรุงเทพมหานครด้วยวิธีการที่เป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านทาง Website หรือการเปิดรับฟังปัญหาต่างๆ ผ่านทาง Call Center รวมทั้งการจัดทำแบบสอบถามสำรวจความคิดเห็นในประเด็นปัญหาต่างๆ ที่อยู่ในใจคนกรุงเทพฯ โดยข้อมูลที่ได้มาจากการลงพื้นที่ตลอด 60 วันนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ยืนยันความเชื่อของนายอภิรักษ์มาตั้งแต่ต้นว่า ปัญหาที่อยู่ในใจของคนกรุงเทพฯ ในประเด็นใหญ่ๆ ได้แก่ 1.ปัญหาการจราจร 2.ปัญหาขยะมูลฝอย มลภาวะ และสิ่งแวดล้อม 3.ปัญหาเรื่องความปลอดภัย
โดยปัจจัยสำคัญในการจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้นั้น ไม่ใช่การแก้ไขด้วยอำนาจหรือการใช้เงินงบประมาณโดยลำพัง แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่การเข้ามาบริหารจัดการปัญหาแนวใหม่ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปกรุงเทพมหานคร ทั้งการปฏิรูปปัญหาจราจร ปัญหาขยะมูลฝอย รวมทั้งปัญหาเรื่องของความปลอดภัย ทั้งนี้นายอภิรักษ์ได้เน้นว่า การบริหารจัดการแนวใหม่ คือการจัดการปัญหาโดยที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครจะต้องทำงานคู่กับประชาชน ไม่ใช่การนั่งบริหารงานอยู่ที่เสาชิงช้าเพียงอย่างเดียว เนื่องจากการบริหารจัดการแนวใหม่เป็นการทำงานที่ต้องเข้าไปแสวงหาการมีส่วนร่วมของทั้งภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งการปรับบทบาทการทำงานของกทม. ในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาการจราจร ที่นอกจากการปรับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลายแล้ว ยังมีความจำเป็นที่จะต้องลงไปดูแลการจัดการในแต่ละพื้นที่การจราจร แต่ละทางแยกอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงและนำมากำหนดแนวทางการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงระบบตรงนั้นได้อย่างไร รวมไถึงการเข้าไปทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงเรียน ทั้งในสังกัดกรุงเทพมหานคร และนอกสังกัด เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปรับปรุงระบบการจราจรต่างๆ ทั้งในเรื่องของการจัดระบบรถโรงเรียน และการเข้าไปจัดระบบหลักสูตรท้องถิ่นเกี่ยวกับชีวิตคนเมืองยุคใหม่ ในเรื่องของวินัยจราจร และเรื่องของระบบขนส่งมวลชน ทั้งนี้จะครอบคลุมในเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย
นอกจากนี้จะเสริมสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมตลลอดจนการเข้าไปดูแลเรื่องขยะ ตามแนวทางการบริหารจัดการแนวใหม่ เนื่องจากปัจจุบันทางกรุงเทพมหานครได้ขึ้นราคาค่าเก็บขยะไปถึง 4 เท่าแล้ว การให้บริการสมควรที่ต้องดีขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นต้องมีการเพิ่มเวลาการจัดเก็บขยะให้ถี่ขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการลงทุนเพิ่มเติมพร้อมกับการปฏิรูปการบริหารจัดการ สำหรับเรื่องความปลอดภัย จะต้องมีการลงไปสำรวจจุดเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นจุดที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรม ทั้งนี้นายอภิรักษ์ ยังมีแนวคิดปรับบทบาทบุคลากรของกทม. เช่น เทศกิจ ให้เข้ามาดูแลประชาชนโดยให้ผู้รักษาความปลอดภัยโดยจะร่วมกับอาสาสมัครในชุมนนั้นๆ นอกจากนี้ การบริหารจัดการแนวใหม่จะครอบคลุมไปถึงการให้บริการด้านอื่นของกทม.ด้วย เช่น ฝ่ายโยธาที่มีหน้าที่ต้องรับและอนุมัติแบบการก่อสร้าง ก็จะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ซึ่งจะทำให้การให้บริการมีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ภายใต้แนวคิดของการบริหารจัดการแนวใหม่ของนายอภิรักษ์นี้ ใน 150 วันข้างหน้า นอกจากจะมีการรณรงค์เดินหาเสียงตามปกติแล้ว จะเริ่มต้นทำงานในส่วนของการรณรงค์ตามแนวทางการบริหารจัดการแนวใหม่นี้ด้วย เช่น การไปที่จุดที่มีปัญหาการจราจรต่างๆ ได้แก่ การเข้าหาโรงเรียนเพื่อขอความร่วมมือ แม้กระทั่งคนขับรถเมล์หรือบุคลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องของวินัยจราจร เพื่อให้การปฎิรูปการทำงานของกรุงเทพมหานครได้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมมากที่สุด
‘หวังว่าตลอดระยะเวลา 60 วันที่ผมได้มีโอกาสลงพื้นที่ทำงานร่วมกับประชาชนในทุกเขต จะเป็นการยืนยันถึงความมั่นใจ ยืนยันถึงความพร้อมของพวกเราชาวประชาธิปัตย์ในการที่จะเสนอตัวในการผลักดันนโยบายต่างๆร่วมกับพี่น้องประชาชนทุกคน ในการแก้ไขปัญหาและปฏิรูปกรุงเทพมหานครของเรา ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยการปฏิรูปกรุงเทพมหานครของเรา เพื่อให้ทุกคนที่อาศัยในกรุงเทพ มีความเป็นอยู่ที่มีความสุข ผมพร้อมแล้วที่จะพัฒนากรุงเทพ ผมจะปฏิรูปกรุงเทพฯ และผมจะลุยด้วยใจ’ นายอภิรักษ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30/03/47--จบ--
-สส-