ญี่ปุ่นนำเข้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกจากทั่วโลกเป็นมูลค่ากว่า 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยมีจีนและสหราชอาณาจักรเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 38 และร้อยละ 22 ตามลำดับ ขณะที่นำเข้าจากไทยเป็นอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาดเพียงร้อยละ 3.3 อย่างไรก็ตาม การที่ญี่ปุ่นต้องการนำเข้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของตลาดของขวัญและของชำร่วย เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมมอบของขวัญโดยเฉพาะถ้วยชามเซรามิกให้แก่กันในเทศกาลต่างๆ ประกอบกับกระแสความนิยมสินค้าเอเชียของชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกของไทยมีโอกาสขยายในตลาดญี่ปุ่นได้มากขึ้น
ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบเกี่ยวกับตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกในญี่ปุ่นมีดังนี้
ประเภทของสินค้า แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ- เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกคุณภาพสูง ส่วนใหญ่มีตราสินค้าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการออกแบบที่หรูหรา นิยมนำเข้าจากสหภาพยุโรป (European Union: EU) อาทิ อิตาลีและฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้าน Porcelain คุณภาพสูง เดนมาร์กที่เน้นใช้ฝีมือเป็นหลัก และเยอรมนีที่เน้นใช้เทคโนโลยีในการผลิตเซรามิกที่มีรูปแบบทันสมัย เป็นต้น ทั้งนี้ สินค้าจาก EU ครองส่วนแบ่งตลาดราวครึ่งหนึ่งของตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกในญี่ปุ่น โดยจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเฉพาะประเภทในญี่ปุ่นเป็นสำคัญ
- เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกคุณภาพปานกลางลงมา ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตจากประเทศในแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเน้นผลิตสินค้าปริมาณมากและราคาถูกเป็นหลัก ปัจจุบันสินค้ากลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดญี่ปุ่นใกล้เคียงกับสินค้าในกลุ่มคุณภาพสูงและมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอีก เนื่องจากสินค้าได้รับการพัฒนาคุณภาพมาเป็นลำดับจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากญี่ปุ่น
ระเบียบการนำเข้าที่สำคัญของญี่ปุ่น ได้แก่- ภาษีนำเข้า เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกของไทยเป็นสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (Generalized System of Preferences: GSP) จากญี่ปุ่น จึงได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าไปญี่ปุ่น
- มาตรการด้านสุขอนามัย การนำเข้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสุขอนามัยอาหารของญี่ปุ่น (Food Sanitation Law) ซึ่งมีข้อกำหนดต่างๆ อาทิ การกำหนดระดับการปนเปื้อนของตะกั่วและแคดเมียม (เป็นส่วนผสมของสารที่ใช้เคลือบผิวถ้วยชามเซรามิก) เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
- ฉลากสินค้า ญี่ปุ่นกำหนดให้เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกต้องติดฉลากสินค้าเพื่อแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ ชื่อสินค้า ข้อควรระวังในการใช้สินค้า ชื่อผู้ผลิตและที่อยู่ของผู้ผลิต ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการติดฉลากสินค้าอุปโภคบริโภค (Household Goods Quality Labeling Law) การห้ามติดฉลากโฆษณาสินค้าเกินจริง ซึ่งอยู่ภายใต้ Act Against Unjustifiable Premiums and Misleading Representations อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นอนุญาตให้ผู้ผลิตติดฉลากตามความสมัครใจได้ อาทิ ฉลาก JIS Mark สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อแสดงว่าสินค้านั้นผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นภายใต้ Japanese Industrial Standard Law และฉลาก Ceramic Ware Safety Mark ซึ่งรับรองว่าถ้วยชามที่ทำจากเซรามิกได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบตาม Food Sanitation Law เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นต้น
ช่องทางการจัดจำหน่าย มีหลายช่องทาง อาทิ จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายในญี่ปุ่น จำหน่ายผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ นิตยสาร และสื่อประชาสัมพันธ์อื่นๆ เช่น อินเทอร์เน็ต รวมทั้งเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ส่งออกมีโอกาสพบผู้ซื้อจำนวนมากโดยตรงและสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้อีกด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกของไทยในญี่ปุ่น ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ ที่ญี่ปุ่นกำหนด รวมทั้งเน้นการออกแบบสินค้าให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าด้วยการนำจุดแข็งด้านความประณีตของงานฝีมือไทยเป็นจุดขายสำคัญ ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงการควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้และเคร่งครัดต่อการส่งมอบสินค้าให้ตรงตามกำหนดเป็นสำคัญ
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2547--
-สส-
ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบเกี่ยวกับตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกในญี่ปุ่นมีดังนี้
ประเภทของสินค้า แบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ- เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกคุณภาพสูง ส่วนใหญ่มีตราสินค้าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการออกแบบที่หรูหรา นิยมนำเข้าจากสหภาพยุโรป (European Union: EU) อาทิ อิตาลีและฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้าน Porcelain คุณภาพสูง เดนมาร์กที่เน้นใช้ฝีมือเป็นหลัก และเยอรมนีที่เน้นใช้เทคโนโลยีในการผลิตเซรามิกที่มีรูปแบบทันสมัย เป็นต้น ทั้งนี้ สินค้าจาก EU ครองส่วนแบ่งตลาดราวครึ่งหนึ่งของตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกในญี่ปุ่น โดยจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าเฉพาะประเภทในญี่ปุ่นเป็นสำคัญ
- เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกคุณภาพปานกลางลงมา ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตจากประเทศในแถบเอเชีย โดยเฉพาะจีนและประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเน้นผลิตสินค้าปริมาณมากและราคาถูกเป็นหลัก ปัจจุบันสินค้ากลุ่มนี้มีส่วนแบ่งตลาดญี่ปุ่นใกล้เคียงกับสินค้าในกลุ่มคุณภาพสูงและมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นอีก เนื่องจากสินค้าได้รับการพัฒนาคุณภาพมาเป็นลำดับจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตจากญี่ปุ่น
ระเบียบการนำเข้าที่สำคัญของญี่ปุ่น ได้แก่- ภาษีนำเข้า เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกของไทยเป็นสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (Generalized System of Preferences: GSP) จากญี่ปุ่น จึงได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าไปญี่ปุ่น
- มาตรการด้านสุขอนามัย การนำเข้าเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยสุขอนามัยอาหารของญี่ปุ่น (Food Sanitation Law) ซึ่งมีข้อกำหนดต่างๆ อาทิ การกำหนดระดับการปนเปื้อนของตะกั่วและแคดเมียม (เป็นส่วนผสมของสารที่ใช้เคลือบผิวถ้วยชามเซรามิก) เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
- ฉลากสินค้า ญี่ปุ่นกำหนดให้เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกต้องติดฉลากสินค้าเพื่อแสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ ชื่อสินค้า ข้อควรระวังในการใช้สินค้า ชื่อผู้ผลิตและที่อยู่ของผู้ผลิต ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการติดฉลากสินค้าอุปโภคบริโภค (Household Goods Quality Labeling Law) การห้ามติดฉลากโฆษณาสินค้าเกินจริง ซึ่งอยู่ภายใต้ Act Against Unjustifiable Premiums and Misleading Representations อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นอนุญาตให้ผู้ผลิตติดฉลากตามความสมัครใจได้ อาทิ ฉลาก JIS Mark สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อแสดงว่าสินค้านั้นผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นภายใต้ Japanese Industrial Standard Law และฉลาก Ceramic Ware Safety Mark ซึ่งรับรองว่าถ้วยชามที่ทำจากเซรามิกได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบตาม Food Sanitation Law เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นต้น
ช่องทางการจัดจำหน่าย มีหลายช่องทาง อาทิ จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายในญี่ปุ่น จำหน่ายผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ อาทิ นิตยสาร และสื่อประชาสัมพันธ์อื่นๆ เช่น อินเทอร์เน็ต รวมทั้งเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ส่งออกมีโอกาสพบผู้ซื้อจำนวนมากโดยตรงและสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้อีกด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากเซรามิกของไทยในญี่ปุ่น ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ ที่ญี่ปุ่นกำหนด รวมทั้งเน้นการออกแบบสินค้าให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าด้วยการนำจุดแข็งด้านความประณีตของงานฝีมือไทยเป็นจุดขายสำคัญ ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงการควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีความปลอดภัยต่อผู้ใช้และเคร่งครัดต่อการส่งมอบสินค้าให้ตรงตามกำหนดเป็นสำคัญ
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2547--
-สส-