สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎรการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ฉบับที่ ๓๒

ข่าวการเมือง Tuesday May 25, 2004 15:38 —รัฐสภา

ฉบับที่ ๓๒ สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๙.๓๐ - ๒๑.๓๐ นาฬิกา นายสนั่น สุธากุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสตูล พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประเด็นอภิปราย - การควบคุม กำกับ และติดตามนโยบายการสอบเอ็นทรานซ์ไม่มีประสิทธิภาพ จนนำไปสู่ปัญหาข้อสอบเอ็นทรานซ์รั่ว - ใช้อำนาจหน้าที่ขัดขวางการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติเกี่ยวกับปัญหาข้อสอบ เอ็นทรานซ์รั่ว โดยไม่นำพาต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ - การบริหารราชการแผ่นดินมีเงื่อนงำและเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง การควบคุม กำกับ และติดตามนโยบายการสอบเอ็นทรานซ์ไม่มีประสิทธิภาพนำไปสู่ปัญหาข้อสอบรั่วมีข้อบ่งชี้ ๕ ประการด้วยกัน คือ ๑. การประกาศหลักเกณฑ์และวิธีคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา โดยกำหนดค่า GPA เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๒๕ และบังคับใช้ภายในปี ๒๕๔๗ โดยไม่ให้เวลาเตรียมตัว สำหรับการเข้าสู่ระบบใหม่แก่ผู้เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมเป็นการดำเนินการที่รีบร้อน ซึ่งก็ได้รับการคัดค้านจากสถาบันอุดมศึกษาและผู้ปกครองนักเรียนจนต้องยกเลิกไป การดำเนินการอย่างเร่งนั้นน่าจะมีเป้าหมายซ่อนเร้นแอบแฝง เพื่อช่วยเหลือเด็กบางคน ๒. มีนโยบายและคำสั่งแต่งตั้งผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานร่วมเป็นกรรมการกลั่นกรอง ข้อสอบวัดความรู้เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในสัดส่วนร้อยละ ๓๐ จำนวน ๘ คำสั่ง โดยให้เข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการกลั่นกรองข้อสอบวิชาหลัก ๘ วิชา คือ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ชีวศึกษา และวิทยาศาสตร์กายภาพ แต่ในทางปฏิบัติจริงพบว่า ครูที่ได้รับแต่งตั้งมิได้มีส่วนร่วมในการสร้างข้อสอบหรือกลั่นกรองข้อสอบแต่อย่างใดเพียงแต่ประชุมกับประธานกลั่นกรองข้อสอบบางวิชา โดยมีผู้อำนวยการสำนักทดสอบระบุว่า ครูที่เป็นกรรมการเหล่านี้ไม่เคยเห็นข้อสอบวัดความรู้ ครั้งที่ ๑ ๓. นายวรเดช ได้แต่งตั้งตนเองเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการสร้างข้อสอบเอ็นทรานซ์ แต่ไม่เคยร่วมปฏิบัติในขั้นตอนใด ๆ กลับใช้อำนาจในฐานะประธานคณะกรรมการ ฯเปิดซองต้นฉบับข้อสอบวิชา ภาษาไทยและสังคมศึกษา ๔. ระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อสอบมีหลักปฏิบัติที่รัดกุมอยู่แล้ว แต่มีการดำเนินการหลายสิ่งหลายอย่างเอื้อให้ผู้ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าถึงข้อสอบและเอกสาร ดังเช่นปรับเปลี่ยนตัวบุคคลที่เป็นกรรมการและอนุกรรมการดูแลระบบการสอบ และการนำซองบรรจุต้นฉบับข้อสอบมาเปิด ทั้งที่มีข้อห้าม ซึ่งโดยข้อปฏิบัติประธานอนุกรรมการจัดพิมพ์ เป็นผู้มีหน้าที่เก็บรักษา แต่นายวรเดช กลับให้นำมาเก็บไว้ที่ห้องทำงานของตนเอง โดยอ้างว่า เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อสอบแทนที่จะเก็บในห้องมั่นคง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ