กรุงเทพ--30 มิ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี เกี่ยวกับการสิ้นสุดหน้าที่และการเดินทางกลับของเจ้าหน้าที่ไทยในภารกิจกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์เลสเต (PKF) ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2547 เจ้าหน้าที่ของไทย ประกอบด้วย ชุดแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ประจำกองบัญชาการกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์เลสเต และเจ้าหน้าที่ชุดทำลายวัตถุระเบิด รวมทั้งสิ้น 45 คน ได้เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2547 โดยนายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี พร้อมด้วยทูตานุทูต และบุคคลสำคัญจากกองกำลัง PKF และกองทัพแห่งชาติติมอร์เลสเต ได้เดินทางไปส่งที่ท่าอากาศยานกรุงดิลี
2. เอกอัครราชทูตฯ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเดินทางกลับมาตุภูมิของเจ้าหน้าที่ทหารไทยชุดนี้ซึ่งถือเป็นชุดสุดท้ายว่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยทุกคนและทุกชุด ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติและเต็มภาคภูมิ ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์เลสเต เป็นเวลาทั้งสิ้น 4 ปี 9 เดือน ซึ่งเป็นเวลานานอันดับที่สองรองจากออสเตรเลียเท่านั้น โดยนอกจากภารกิจที่ได้รับ มอบหมายจะลุล่วงอย่างสมบูรณ์แล้ว บุคลากรทหารไทยทุกหน่วยและทุกชุดยังได้รับคำสรรเสริญและชื่นชมจากทั้งปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในติมอร์เลสเต(PKF/UNMISET) เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลและประชาชนติมอร์ฯ โดยทั่วไปว่าเป็นผู้สร้างคุณูปการในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาติมอร์ฯ ในหลายๆ ด้านจนได้รับการกล่าวขวัญเสมอมาว่า "Thailand Diak" ซึ่งแปลว่า "ประเทศไทย:ยอดเยี่ยม”
3. อนึ่ง การเดินทางกลับของเจ้าหน้าที่ไทยชุดนี้ นับเป็นข่าวใหญ่ใน ติมอร์ฯ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ถึงแม้หน้าที่โดยตรงของชุดแพทย์ไทยจะจำกัดเฉพาะการรักษาพยาบาลบุคลากรของ PKF/UNMISET แต่ปรากฏว่าชุดแพทย์ไทยล้วนตระหนักในหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและไม่เคยปฏิเสธที่จะให้การรักษาพยาบาลคนไข้ไม่ว่าจะเป็น ทูตานุทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของติมอร์ฯ อาทิ ประธานาธิบดี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และประชาชนติมอร์โดยทั่วไป ซึ่งได้ช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในด้าน ความสามารถของแพทย์และพยาบาลไทย และได้สร้างความประทับใจแก่ทุกๆ คนที่มีโอกาสได้รับการรักษาหรือช่วยเหลือในด้านอื่นๆ การปฏิบัติหน้าที่อย่างดีของกองกำลังฯ ได้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประเทศติมอร์เลสเตและเป็นการสร้างพื้นฐาน ที่มั่นคงต่อความร่วมมือในด้านอื่นๆ ที่กำลังมีการดำเนินการอยู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและภายใต้กรอบความร่วมมือด้านวิชาการระหว่าง 2 ประเทศด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี เกี่ยวกับการสิ้นสุดหน้าที่และการเดินทางกลับของเจ้าหน้าที่ไทยในภารกิจกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์เลสเต (PKF) ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2547 เจ้าหน้าที่ของไทย ประกอบด้วย ชุดแพทย์-พยาบาล-บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ประจำกองบัญชาการกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์เลสเต และเจ้าหน้าที่ชุดทำลายวัตถุระเบิด รวมทั้งสิ้น 45 คน ได้เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2547 โดยนายกุลกุมุท สิงหรา ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี พร้อมด้วยทูตานุทูต และบุคคลสำคัญจากกองกำลัง PKF และกองทัพแห่งชาติติมอร์เลสเต ได้เดินทางไปส่งที่ท่าอากาศยานกรุงดิลี
2. เอกอัครราชทูตฯ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเดินทางกลับมาตุภูมิของเจ้าหน้าที่ทหารไทยชุดนี้ซึ่งถือเป็นชุดสุดท้ายว่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยทุกคนและทุกชุด ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติและเต็มภาคภูมิ ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในกองกำลังรักษาสันติภาพในติมอร์เลสเต เป็นเวลาทั้งสิ้น 4 ปี 9 เดือน ซึ่งเป็นเวลานานอันดับที่สองรองจากออสเตรเลียเท่านั้น โดยนอกจากภารกิจที่ได้รับ มอบหมายจะลุล่วงอย่างสมบูรณ์แล้ว บุคลากรทหารไทยทุกหน่วยและทุกชุดยังได้รับคำสรรเสริญและชื่นชมจากทั้งปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในติมอร์เลสเต(PKF/UNMISET) เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลและประชาชนติมอร์ฯ โดยทั่วไปว่าเป็นผู้สร้างคุณูปการในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาติมอร์ฯ ในหลายๆ ด้านจนได้รับการกล่าวขวัญเสมอมาว่า "Thailand Diak" ซึ่งแปลว่า "ประเทศไทย:ยอดเยี่ยม”
3. อนึ่ง การเดินทางกลับของเจ้าหน้าที่ไทยชุดนี้ นับเป็นข่าวใหญ่ใน ติมอร์ฯ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ถึงแม้หน้าที่โดยตรงของชุดแพทย์ไทยจะจำกัดเฉพาะการรักษาพยาบาลบุคลากรของ PKF/UNMISET แต่ปรากฏว่าชุดแพทย์ไทยล้วนตระหนักในหน้าที่ด้านมนุษยธรรมและไม่เคยปฏิเสธที่จะให้การรักษาพยาบาลคนไข้ไม่ว่าจะเป็น ทูตานุทูต เจ้าหน้าที่ระดับสูงของติมอร์ฯ อาทิ ประธานาธิบดี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และประชาชนติมอร์โดยทั่วไป ซึ่งได้ช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในด้าน ความสามารถของแพทย์และพยาบาลไทย และได้สร้างความประทับใจแก่ทุกๆ คนที่มีโอกาสได้รับการรักษาหรือช่วยเหลือในด้านอื่นๆ การปฏิบัติหน้าที่อย่างดีของกองกำลังฯ ได้มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประเทศติมอร์เลสเตและเป็นการสร้างพื้นฐาน ที่มั่นคงต่อความร่วมมือในด้านอื่นๆ ที่กำลังมีการดำเนินการอยู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและภายใต้กรอบความร่วมมือด้านวิชาการระหว่าง 2 ประเทศด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-