กรุงเทพ--23 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2547 คณะกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำต่างประเทศประมาณ 100 เมือง ใน 60 กว่าประเทศ ซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมกงสุลกิตติมศักดิ์ระหว่างวันที่ 13-21 สิงหาคม ศกนี้ ได้เข้า เยี่ยมคารวะ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้าร่วมการประชุมฯ โดยเน้นเรื่องการดำเนินการอย่างสอดประสานในการลดผลลบและใช้ประโยชน์จากกระแสโลกาภิวัตน์ อันนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวอย่างเสรีของประชาชน สินค้า เงินทุน และความรู้/เทคโนโลยี รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาคู่ขนาน (Dual Track Development Strategy) ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และตั้งอยู่บนพื้นฐานการมุ่งไปที่คุณภาพ ความมั่นคง และความสมดุลระหว่างธุรกิจ ขนาดเล็กและขนาดกลางระดับฐานรากในทางหนึ่ง ควบคู่ไปกับกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคการส่งออกในอีก ทางหนึ่ง ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2546 อยู่ที่ระดับ ร้อยละ 6.7 และในปี 2547 แม้จะเกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่รัฐบาลก็คาดหมายว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะอยู่ในระดับร้อยละ 6-7 ขณะที่หนี้ต่างประเทศและอัตราการขาดดุล งบประมาณของประเทศลดลง โดยที่อัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอ ความสนับสนุนจากกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ ต่อการสมัครแข่งขันตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติสมัยต่อไปของ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วย
ต่อจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราช อิสริยาภรณ์แก่กงสุลกิตติมศักดิ์ฯ และรองกงสุลกิตติมศักดิ์ รวม 33 คน เพื่อเป็นเกียรติและตอบแทนคุณงาม ความดีของบุคคลเหล่านี้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่และกระทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2547 คณะกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำต่างประเทศประมาณ 100 เมือง ใน 60 กว่าประเทศ ซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมกงสุลกิตติมศักดิ์ระหว่างวันที่ 13-21 สิงหาคม ศกนี้ ได้เข้า เยี่ยมคารวะ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อผู้เข้าร่วมการประชุมฯ โดยเน้นเรื่องการดำเนินการอย่างสอดประสานในการลดผลลบและใช้ประโยชน์จากกระแสโลกาภิวัตน์ อันนำมาซึ่งการเคลื่อนไหวอย่างเสรีของประชาชน สินค้า เงินทุน และความรู้/เทคโนโลยี รวมทั้งยุทธศาสตร์การพัฒนาคู่ขนาน (Dual Track Development Strategy) ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และตั้งอยู่บนพื้นฐานการมุ่งไปที่คุณภาพ ความมั่นคง และความสมดุลระหว่างธุรกิจ ขนาดเล็กและขนาดกลางระดับฐานรากในทางหนึ่ง ควบคู่ไปกับกับการพัฒนาเศรษฐกิจภาคการส่งออกในอีก ทางหนึ่ง ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2546 อยู่ที่ระดับ ร้อยละ 6.7 และในปี 2547 แม้จะเกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่รัฐบาลก็คาดหมายว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะอยู่ในระดับร้อยละ 6-7 ขณะที่หนี้ต่างประเทศและอัตราการขาดดุล งบประมาณของประเทศลดลง โดยที่อัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอ ความสนับสนุนจากกงสุลกิตติมศักดิ์ฯ ต่อการสมัครแข่งขันตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติสมัยต่อไปของ ดร. สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้วย
ต่อจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราช อิสริยาภรณ์แก่กงสุลกิตติมศักดิ์ฯ และรองกงสุลกิตติมศักดิ์ รวม 33 คน เพื่อเป็นเกียรติและตอบแทนคุณงาม ความดีของบุคคลเหล่านี้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่และกระทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-