= ให้การต้อนรับ วันพุธที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธาน รัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับคณะสมาชิกสภานักเรียนที่ปรึกษาและครู โรงเรียนอุตรดิตถ์ จำนวน ๑๒๐ คน พร้อมทั้งถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว= ประธานรัฐสภาไทยให้การรับรองประธานรัฐสภาเกาหลี วันพฤหัสบดีที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรองนายคิม วอน กี ประธานรัฐสภา สาธารณรัฐเกาหลี และคณะ ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภาไทย ณ ห้องรับรอง ๑ อาคารรัฐสภา ๑ นายอุทัยได้กล่าวต้อนรับประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี และคณะ ที่ได้เดินทาง มาเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐสภา นับเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งมีมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ทั้งด้านการค้า และการลงทุน ทั้งนี้รัฐสภาไทยได้มีนโยบาย ในการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ และในอนาคตก็จะสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำในระดับต่าง ๆ ของสภาฯ ให้มากยิ่งขึ้น นายคิม วอน กี ได้กล่าวขอบคุณนายอุทัยที่ให้โอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ ซึ่งการมาเยือนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาเยือนต่างประเทศ หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานรัฐสภา และได้เลือกเดินทางมาประเทศไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน และมีความสัมพันธ์ ในระดับต่าง ๆ ที่มีการพัฒนามากขึ้นเป็นลำดับ โดยการมาเยือนครั้งนี้ได้นำนักธุรกิจในเกาหลีมาศึกษาช่องทางการค้าและการลงทุนในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้นายคิม วอน กี ยังได้กล่าวเชิญ ประธานรัฐสภา และสมาชิกฯ ไปเยือนสาธารณรัฐเกาหลีอีกด้วย สุดท้ายนี้ นายอุทัยได้กล่าวเชิญนายคิม วอน กี และคณะ เข้าเยี่ยมชมการประชุม สภาผู้แทนราษฎร และยังได้แสดงเจตนารมณ์ในการให้ความสนับสนุนและช่วยเหลือในทุกด้าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป= เอกอัครราชทูตรัสเซียอำลาประธานรัฐสภา วันพุธที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๑.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องรับรอง ๑ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑ นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ นายเยฟเกนี ดี โอสโตรเวนโค (Mr. Yevgeny D. Ostrovenko) เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสที่พ้นจากตำแหน่ง เอกอัครราชทูตรัสเซียกล่าวขอบคุณ ประธานรัฐสภาที่สละเวลาให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่น แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ที่ดำเนินมายาวนาน ซึ่งมีการสร้างความร่วมมือทั้งด้านรัฐสภาและการบริหารประเทศ โดยเฉพาะระดับผู้นำประเทศที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันหลายด้าน อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ขณะนี้ประเทศรัสเซียให้ความสนใจกับ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายเป็นการเร่งด่วน ซึ่งได้มอบบันทึกแนวทางและมาตรการ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวแก่ประธานรัฐสภา พร้อมกราบเรียนเชิญไปเยี่ยมประเทศรัสเซียด้วย จากนั้น ประธานรัฐสภา ได้กล่าวขอบคุณ คำเชิญของเอกอัครราชทูตที่เชิญเยือนประเทศรัสเซีย หากมีความเหมาะสมด้วยเวลาจะได้แจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป พร้อมกันนี้ได้กล่าวสนับสนุนกับข้อคิดเห็นที่ว่าสองประเทศมีความสัมพันธ์ระหว่างกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปัจจุบัน และในขณะนี้ประเทศรัสเซียกำลังดำเนินนโยบาย การแก้ไขปัญหาการก่อการร้ายอยู่ซึ่งนับว่าถูกต้องแล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักก่อความเสียหาย ให้กับประเทศรัสเซียและสร้างความสะเทือนใจให้กับประชาคมโลก นอกจากนี้ประธานรัฐสภายังได้มอบของที่ระลึกแก่เอกอัครราชทูตรัสเซียด้วย= ให้การรับรอง วันอังคารที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา พันเอก วินัย สมพงษ์ ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-สวีเดน ให้การรับรอง นาย Kent Haarstedt สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสวีเดน ณ ห้องรับรอง ๑ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑= แถลงข่าว วันอังคารที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา ๑ นายสามารถ แก้วมีชัย โฆษกคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พร้อมด้วยนายวัชรินทร์ จอมพลาพล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าวเปิดรับสมัครบุคคลผู้มีความประสงค์จะเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ระหว่างวันที่ ๖-๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ นาฬิกา (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๐๑ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒= ประชุมกรรมาธิการ วันพุธที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา พันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ รองประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ สภาผู้แทนราษฎร ประชุมเรื่องปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๑๙ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒= ศึกษาดูงาน นางพรพิมล ถิรคุณโกวิท ที่ปรึกษาด้านนโยบายแผนและงบประมาณ นำคณะ ข้าราชการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนยุวชนประชาธิปไตยไปศึกษาดูงาน การเผยแพร่ประชาธิปไตยและการสร้างเครือข่าย ตลอดจนวิถีชีวิตประชาธิปไตยพื้นบ้าน ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๒๗ กันยายน - ๓ ตุลาคม ๒๕๔๗= โครงการพระราชดำริ โครงการสวนป่าสิริกิติ์ ได้ถูกจัดขึ้นสืบเนื่องมาจากพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการ ที่จะทรงอนุรักษ์ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติให้คงเดิม โดยความร่วมมือของราษฎรในการช่วยกันรักษาป่าไม้เพื่อประโยชน์ในการดำรงชีวิตของราษฎรเอง โดยในวโกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครบ ๕ รอบ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ กองศิลปาชีพ ร่วมกับมูลนิธิศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กองทัพบก กรมป่าไม้จังหวัดราชบุรี และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ได้พร้อมใจกันดำเนินการจัดสร้างโครงการสวนป่าเฉลิมพระเกียรติขึ้น โดยจัดให้ สวนพฤกษศาสตร์รวบรวมพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เพื่อเป็นแหล่งให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสชื่นชมสภาพป่า อันจะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเล็งเห็นความสำคัญและหวงแหนปกป้องทรัพยากรป่าไม้อันมีค่า ของชาติ ช่วยกันรักษาป่าต้นน้ำลำธารที่สำคัญ รวมทั้งเป็นสถานที่สำหรับผู้ที่สนใจได้ศึกษาธรรมชาติวิทยา ตลอดจนจัดให้มีการส่งเสริมงานศิลปาชีพให้แก่ราษฎรในพื้นที่โครงการและบริเวณใกล้เคียง สวนป่าสิริกิติ์ตั้งอยู่ ณ บ้านแก่งส้มแมว บ้านห้วยม่วง ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเนื้อที่ประมาณ ๓,๐๐๐ ไร่ งานสำคัญของการอนุรักษ์สวนป่าสิริกิติ์ คือ การฝึกเยาวชนอาสาพิทักษ์ป่าขึ้น เพื่อให้เยาวชนในพื้นที่มีน้ำหนึ่งใจเดียวในการดูแลรักษาป่าที่เป็นถิ่นกำเนิดและได้อบรมอาชีพเสริมจากงานศิลปาชีพด้วย เพื่อให้เยาวชนได้มีอาชีพ มี รายได้ ทั้งนี้เพื่อที่จะหยุดพฤติกรรมการตัดไม้และการล่าสัตว์ลงให้ได้ ปัจจุบันโครงการสวนป่าสิริกิติ์ ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมหาศาลต่อราษฎรในพื้นที่ ทั้งนี้ได้เป็นแหล่งน้ำลำธารที่ให้ความชุ่มชื้นของธาตุอาหารแก่ดิน อันเป็นผลต่อการเพาะปลูกที่มีประโยชน์ต่อผู้คนในท้องถิ่นตนเองตลอดไป= ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี ๒๕๔๗ เนื่องด้วยประธานสภาผู้แทนราษฎรจะนำผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี ๒๕๔๗ ของสภาผู้แทนราษฎร ไปถวายพระสงฆ์จำพรรษา ณ วัดราชนัดดารามวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันอังคารที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา จึงขอเชิญข้าราชการและลูกจ้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมบริจาคเงินเพื่อการกุศลถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในครั้งนี้ โดยขอให้รวบรวมเงินส่งได้ที่ กลุ่มงานบริหารทั่วไปและพิธีการ สำนักประชาสัมพันธ์ อาคารทิปโก้ ชั้น ๑๙ โทร. ๐ ๒๓๕๗ ๓๑๐๐ ต่อ ๓๑๐๑-๒ ภายในวันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ เพื่อจะได้รวบรวมโดยเสด็จพระราชกุศลต่อไป= งานครบรอบ ๓๑ ปี ๑๔ ตุลา รัฐสภาไทยจะจัดงานครบรอบ ๓๑ ปี ๑๔ ตุลาคม เพื่อระลึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองอันสำคัญ ขึ้น ณ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๗ โดยมีกำหนดการดังนี้ เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกา พิธีศาสนาพุทธ- นิมนต์พระสงฆ์ จำนวน ๑๐ รูป ฉันภัตตาหารเช้า ณ สโมสรรัฐสภา เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกา พิธีศาสนาอิสลาม ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ ๑ ชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๑ เวลา ๐๗.๐๐ นาฬิกา พิธีศาสนาคริสต์ ณ ห้องประชุมกรรมาธิการ ๔ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑ จึงขอเชิญชวนข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมในพิธีต่าง ๆ ในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว= เลือกกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (ก.ร.) แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ ได้มีการพิจารณา เลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเป็นกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (ก.ร.) แทนตำแหน่งที่ว่างลง ๓ ตำแหน่ง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๙ ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๗ จำนวน ๓ ท่าน ได้แก่ นายวิลาศ สิงหวิสัย ศาสตราจารย์ ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล และ ศาสตราจารย์ ติน ปรัชญพฤทธิ์ สำหรับท่านที่ ๔ คือ รองศาสตราจารย์ ดร.อุดม ทุมโฆสิต นั้น ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๗ ดังนั้นจึงพิจารณาเพียง ๓ ท่าน โดยที่ประชุมได้พิจารณาและเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม จำนวน ๓ ท่าน ดังกล่าว เป็นกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภาแทนตำแหน่งที่ว่าง= รับสมัครผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ด้วยในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๑ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑๖ (สมัยสามัญ นิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๗ ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน ของรัฐสภาขึ้น เพื่อพิจารณาดำเนินการสรรหาบุคคลผู้มีความเหมาะสมเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภานั้น ในการนี้ คณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาได้เปิดรับสมัครผู้ที่มีความประสงค์ จะเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ระหว่างวันที่ ๖-๑๓ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ นาฬิกา (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๐๑ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒ และสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๒๒๔๔ ๑๖๒๙-๓๐ หรือที่ www.parliament.go.th/ombuds= การสัมมนา เรื่อง "การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการคุ้มครองแรงงาน นอกระบบ" จากการที่ประชาชนในอำเภอฝาง และอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบอาชีพ ทำการเกษตร ค้าขาย และประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับ แนวชายแดนของประเทศพม่า เป็นเหตุให้เกิดคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่อาศัยเพื่อประกอบอาชีพและรับจ้างในกิจการต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก มีทั้งแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย ดังนั้น คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร จึงได้จัดการสัมมนาเรื่อง "การแก้ไขปัญหา แรงงานต่างด้าวและการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ" ขึ้น ในวันอาทิตย์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ เวลา ๘.๐๐-๑๒.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมโรงเรียนฝางชนูปถัมภ์ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อระดมความคิดเห็นและรวบรวมปัญหา เพื่อหาแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับปัญหาแรงงานต่างด้าวให้เป็นมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติเดียวกันสืบไป ซึ่งจะมีการอภิปรายเรื่อง "การบริหารแรงงานต่างด้าว ในภาคเกษตรอย่างยั่งยืน" โดยนายสันติ ตันสุหัช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ และนายอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่= ขอรับเงินคืนจาก กบข. กรณีเกษียณอายุราชการ จากการรวบรวมสถิติในฐานข้อมูลกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ปรากฏว่า มีข้าราชการที่จะเกษียณอายุราชการทั้งสิ้น จำนวน ๗,๐๐๐ ราย คิดเป็นงบประมาณที่ กบข. จะต้องจ่ายคืนแก่สมาชิกเหล่านี้จำนวนกว่า ๓,๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทาง กบข. ได้จัดเตรียม งบประมาณดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว โดยสมาชิกสามารถยื่นเรื่องขอรับเงินคืนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สำหรับเอกสารที่ใช้ในการยื่นเรื่องเพื่อขอรับเงินคืนจาก กบข. นั้น ประกอบด้วย แบบ กบข. ๐๐๘/๑/๒๕๔๓ สำเนาคำสั่งออกจากราชการ สำเนาหนังสือสั่งจ่ายบำนาญ ซึ่งจะใช้ในกรณี ที่สมาชิกมีสิทธิและเลือกที่จะรับบำนาญเท่านั้น และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากหน้าแรกในกรณี ที่ต้องการให้ กบข. โอนเข้าบัญชี อย่างไรก็ตามเพื่อความสะดวกของสมาชิก สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับเงินคืนและการคำนวณเงินที่สมาชิกฯ จะได้รับโดยประมาณการเมื่อพ้นสมาชิกภาพแล้ว ได้ที่เว็บไซต์ www.gpf.or.th ทั้งนี้สมาชิกที่ต้องการยื่นเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข. สามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มได้ที่หน่วยงานราชการต้นสังกัด ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป