1. เสถียรภาพในประเทศ
เครื่องชี้เสถียรภาพในประเทศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้สร้างแรงกดดันมากขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อ สำหรับอัตราการว่างงานและหนี้สาธารณะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน
รายละเอียดของเครื่องชี้เสถียรภาพในประเทศมีดังนี้
- อัตราเงินเฟ้อ
ในเดือนกันยายน 2547 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.6 โดยราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เป็นผลจากราคาในหมวดผักสดและผลไม้ และหมวดไข่และผลิตภัณฑ์นมที่สูงขึ้น จากปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดยังคงขาดแคลน สำหรับราคาในหมวดที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เป็นผลจากราคาในหมวดพลังงานที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน
- อัตราการว่างงาน
ในเดือนสิงหาคม 2547 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของกำลังแรงงานรวม ไม่เปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อนเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ทั้งนี้ การจ้างงานในภาคเกษตรยังคงหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนในอัตราร้อยละ 1.6 จากสภาพอากาศแห้งแล้งกว่าปีก่อน ขณะที่การจ้างงานในภาคนอกเกษตรยังคงขยายตัวดีตามภาวะเศรษฐกิจ โดยขยายตัวร้อยละ 7.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน สาขาที่ขยายตัวดี ได้แก่ การก่อสร้าง การค้าส่งค้าปลีก และโรงแรมและภัตตาคารในอัตราร้อยละ 13.6 9.5 และ 7.7 ตามลำดับ
- หนี้สาธารณะ
ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2547 หนี้สาธารณะมีจำนวน 2,942.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิจากเดือนก่อน 10.1 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณโดยออกตั๋วเงินคลัง และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นสำคัญ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากประมาณร้อยละ 45.4 ในเดือนมิถุนายนมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 45.6 ในเดือนนี้
2. เสถียรภาพต่างประเทศ
หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2547 มียอดคงค้าง 49.85 พันล้านดอลลาร์ สรอ.โดยแม้ว่าในเดือนนี้จะมีการชำระคืนหนี้สุทธิ แต่เมื่อรวมกับผลของค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศเมื่อคิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.เพิ่มขึ้น 0.15 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ หนี้ระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ23.4 ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.1 ในเดือนก่อน จากการนำเข้าสินเชื่อการค้าของภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคาร ขณะที่หนี้ระยะยาวของภาครัฐลดลงจากการไถ่ถอนและการที่ธนาคารพาณิชย์ซื้อตราสารหนี้ภาครัฐที่ออกในต่างประเทศ
หนี้ภาคเอกชนมีจำนวน 34.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.จากผลของค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเป็นสำคัญ อนึ่ง แม้ว่าในเดือนนี้กิจการวิเทศธนกิจจะมีการชำระคืนเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้สุทธิ แต่ในภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคารมีการนำเข้าสินเชื่อการค้า จึงทำให้สุทธิแล้วภาคเอกชนมีการชำระคืนหนี้เพียงเล็กน้อย
หนี้ภาคทางการ มีจำนวน 15.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.จากผลของค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น แม้ว่าในเดือนนี้จะมีการจ่ายคืนหนี้ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดของรัฐบาล และธนาคารพาณิชย์ในประเทศซื้อตราสารหนี้ระยะยาวในตลาดรองต่างประเทศ
- เงินสำรองระหว่างประเทศ
เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 เท่ากับ 44.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 4.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
- ดัชนีชี้วัดเสถียรภาพต่างประเทศ
เสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีโดยสัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้น และสัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศต่อการนำเข้ายังอยู่ในเกณฑ์สูง
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
เครื่องชี้เสถียรภาพในประเทศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้สร้างแรงกดดันมากขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อ สำหรับอัตราการว่างงานและหนี้สาธารณะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน
รายละเอียดของเครื่องชี้เสถียรภาพในประเทศมีดังนี้
- อัตราเงินเฟ้อ
ในเดือนกันยายน 2547 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.6 โดยราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เป็นผลจากราคาในหมวดผักสดและผลไม้ และหมวดไข่และผลิตภัณฑ์นมที่สูงขึ้น จากปริมาณผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดยังคงขาดแคลน สำหรับราคาในหมวดที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เป็นผลจากราคาในหมวดพลังงานที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน
- อัตราการว่างงาน
ในเดือนสิงหาคม 2547 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ของกำลังแรงงานรวม ไม่เปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันปีก่อนเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ทั้งนี้ การจ้างงานในภาคเกษตรยังคงหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนในอัตราร้อยละ 1.6 จากสภาพอากาศแห้งแล้งกว่าปีก่อน ขณะที่การจ้างงานในภาคนอกเกษตรยังคงขยายตัวดีตามภาวะเศรษฐกิจ โดยขยายตัวร้อยละ 7.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน สาขาที่ขยายตัวดี ได้แก่ การก่อสร้าง การค้าส่งค้าปลีก และโรงแรมและภัตตาคารในอัตราร้อยละ 13.6 9.5 และ 7.7 ตามลำดับ
- หนี้สาธารณะ
ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2547 หนี้สาธารณะมีจำนวน 2,942.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิจากเดือนก่อน 10.1 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณโดยออกตั๋วเงินคลัง และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นสำคัญ ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากประมาณร้อยละ 45.4 ในเดือนมิถุนายนมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 45.6 ในเดือนนี้
2. เสถียรภาพต่างประเทศ
หนี้ต่างประเทศรวม ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2547 มียอดคงค้าง 49.85 พันล้านดอลลาร์ สรอ.โดยแม้ว่าในเดือนนี้จะมีการชำระคืนหนี้สุทธิ แต่เมื่อรวมกับผลของค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศเมื่อคิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.เพิ่มขึ้น 0.15 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
โครงสร้างหนี้ต่างประเทศ หนี้ระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ23.4 ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 23.1 ในเดือนก่อน จากการนำเข้าสินเชื่อการค้าของภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคาร ขณะที่หนี้ระยะยาวของภาครัฐลดลงจากการไถ่ถอนและการที่ธนาคารพาณิชย์ซื้อตราสารหนี้ภาครัฐที่ออกในต่างประเทศ
หนี้ภาคเอกชนมีจำนวน 34.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.จากผลของค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเป็นสำคัญ อนึ่ง แม้ว่าในเดือนนี้กิจการวิเทศธนกิจจะมีการชำระคืนเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้สุทธิ แต่ในภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคารมีการนำเข้าสินเชื่อการค้า จึงทำให้สุทธิแล้วภาคเอกชนมีการชำระคืนหนี้เพียงเล็กน้อย
หนี้ภาคทางการ มีจำนวน 15.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.จากผลของค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น แม้ว่าในเดือนนี้จะมีการจ่ายคืนหนี้ 0.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ. จากไถ่ถอนตราสารหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดของรัฐบาล และธนาคารพาณิชย์ในประเทศซื้อตราสารหนี้ระยะยาวในตลาดรองต่างประเทศ
- เงินสำรองระหว่างประเทศ
เงินสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2547 เท่ากับ 44.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 4.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
- ดัชนีชี้วัดเสถียรภาพต่างประเทศ
เสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีโดยสัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้น และสัดส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศต่อการนำเข้ายังอยู่ในเกณฑ์สูง
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--